รีเซต

เลือกตั้งเมียนมาเริ่มแล้ว ประชาชนไปต่อแถวรอตั้งแต่เช้าตรู่

เลือกตั้งเมียนมาเริ่มแล้ว ประชาชนไปต่อแถวรอตั้งแต่เช้าตรู่
TNN ช่อง16
28 ธันวาคม 2568 ( 10:11 )
15

ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเมียนมาได้ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งทั่วไปที่เริ่มต้นขึ้นวันนี้ (28 ธ.ค.) ซึ่งเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกนับตั้งแต่การรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลพลเรือนชุดก่อนในปี 2021 ท่ามกลางความขัดแย้งภายในสงครามกลางเมืองและความสงสัยเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของการเลือกตั้ง 

ประชาชนออกไปเลือกตั้งกันตั้ง ต่อแถวรอกันตั้งแต่เช้าตรู่ ขณะที่เจ้าหน้าที่การเลือกตั้งประกาศเปิดการลงคะแนน และพบว่ามีเครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์แบบใหม่ถูกติดตั้งเข้าที่แล้ว

คณะรัฐบาลทหารที่ปกครองเมียนมาในปัจจุบัน กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโอกาสสำหรับการเริ่มต้นใหม่ทางการเมืองและเศรษฐกิจสำหรับประเทศยากจนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย รวมถึงสหประชาชาติ ประเทศตะวันตกบางประเทศ และกลุ่มสิทธิมนุษยชน ว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่เสรี ไม่ยุติธรรม และไม่น่าเชื่อถือ เนื่องจากพรรคการเมืองต่อต้านรัฐบาลทหารไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขัน

ก่อนหน้านี้รัฐบาลทหารเมียนมากล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 ธ.ค.) ว่า จะยกเลิกเคอร์ฟิวในนครย่างกุ้ง ซึ่งบังคับใช้มาตั้งแต่การรัฐประหารในปี 2021 เพียงไม่กี่วันก่อนการเริ่มต้นการเลือกตั้งที่รัฐบาลทหารอ้างว่าจะเป็นการนำประเทศกลับสู่ภาวะปกติ โดยกองทัพได้ก่อรัฐประหารในปี 2021 โค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของเมียนมา และจุดชนวนให้เกิดการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยครั้งใหญ่ในเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศ

ขณะที่กองกำลังความมั่นคงพยายามปราบปรามผู้ชุมนุม รัฐบาลทหารได้ประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่ช่วงค่ำจนถึงรุ่งเช้าในนครย่างกุ้ง เมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศและมีประชากรราว 7 ล้านคน

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ระยะเวลาของเคอร์ฟิวถูกลดลงอย่างต่อเนื่อง และรัฐบาลทหารระบุว่า เคอร์ฟิวที่เหลืออยู่ระหว่างเวลา 01.00-03.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น จะถูกยกเลิกตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคมเป็นต้นไป

โซ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหาร ระบุในแถลงการณ์ว่า “เสถียรภาพในภูมิภาคย่างกุ้งกำลังดีขึ้นในขณะนี้” 

แถลงการณ์ระบุด้วยว่า การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้น “เพื่อส่งเสริมด้านเศรษฐกิจ สังคม และศาสนา เพื่อความสะดวกในการเดินทางของประชาชน และเพื่อพัฒนากิจกรรมทางธุรกิจ”

แม้ว่ากองทัพจะสามารถปราบปรามขบวนการประท้วงได้ แต่กลุ่มนักเคลื่อนไหวจำนวนมากได้ออกจากเมืองไปเข้าร่วมการต่อสู้ในลักษณะกองโจร ร่วมกับกองกำลังชนกลุ่มน้อยที่ทรงอิทธิพล ซึ่งมีฐานที่มั่นในพื้นที่ชายขอบของประเทศมาอย่างยาวนาน

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้เมียนมาตกอยู่ในภาวะสงครามกลางเมือง มีผู้เสียชีวิตหลายพันคน ผู้พลัดถิ่นมากกว่า 3.6 ล้านคน และประชากรกว่าครึ่งประเทศตกอยู่ในความยากจน ตามข้อมูลของสหประชาชาติ

กองทัพเข้ายึดอำนาจโดยอ้างว่ารัฐบาลของนางออง ซาน ซูจี เอาชนะฝ่ายสนับสนุนกองทัพด้วยการทุจริตการเลือกตั้งในวงกว้าง

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลทหารได้จัดการเลือกตั้งใหม่ โดยจะเริ่มเป็นระยะตั้งแต่วันอาทิตย์และใช้เวลานานหนึ่งเดือน พร้อมให้คำมั่นว่าจะนำประชาธิปไตยกลับคืนมา

ส่วนนางออง ซาน ซูจี ยังคงถูกคุมขัง พรรคการเมืองที่ได้รับความนิยมอย่างสูงของเธอถูกยุบ และการเลือกตั้งครั้งนี้ถูกองค์กรเฝ้าระวังด้านประชาธิปไตยวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าเป็นเพียงความพยายามสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับการปกครองโดยทหาร

แม้เคอร์ฟิวในย่างกุ้งจะกินเวลาเพียง 2 ชั่วโมง แต่ชีวิตยามค่ำคืนของเมืองยังคงซบเซามาตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 และการรัฐประหาร ซึ่งมาพร้อมกับมาตรการควบคุมที่เข้มงวด

รถแท็กซี่เรียกได้ยากเมื่อเข้าสู่ช่วงค่ำ และร้านอาหารกับบาร์จำนวนมากปิดเร็ว แม้ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

ขณะเดียวกัน รัฐบาลทหารยังออกคำสั่งเกณฑ์ทหารเพื่อดึงชายหนุ่มเข้าประจำการ ทำให้หลายคนหวาดกลัวว่าจะถูกจับตัวไปเกณฑ์ทหารในเวลากลางคืน

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง