รีเซต

SAWAD ควรจัด หรือ ควรจบ?

SAWAD ควรจัด หรือ ควรจบ?
ทันหุ้น
2 สิงหาคม 2566 ( 13:58 )
52
SAWAD ควรจัด หรือ ควรจบ?

ทรีนีตี้ ส่องหุ้น SAWAD คาดกำไร Q2/66 โต YoY และ QoQ NII ยังโตดีแต่ค่าใช้จ่ายและการตั้งสำรองกดดันกำไร เปลี่ยนคำแนะนำเป็น “ซื้อ ” สะสมสำหรับลงทุนระยะยาว โดยให้ราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 62 บาท (อิงวิธี PBV ที่ 2.7 เท่า ตาม Gordon Growth Model)

 

ทั้งนี้  คาด SAWAD ประกาศกำไร Q2/66 ที่ 1,249 ล้านบาท +19.8% YoY, +3.9% QoQ จาก 1) พอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ 72,909 ล้านบาท +66.0% YoY, +8.5% QoQ โตจากฐานต่ำในปีที่แล้วจากการหยุดการขยายพอร์ตสินเชื่อเนื่องจากสถาณการณ์โควิด

 

2) คาด Yield อยู่ที่ 20.5% (อยู่ที่ 20.3% ใน Q2/65 และ 21.0% ใน Q1/66) เพิ่มขึ้น YoY จากการขยายพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อที่มี yield สูงกว่าสินเชื่อประเภทอื่นๆ ลดลง QoQ จากปัจจัยทางฤดูกาล

 

3) คาด cost of fund อยู่ที่ 3.6% เพิ่มขึ้น YoY และ QoQ (อยู่ที่ 3.1% ใน Q2/65 และ 3.4% ใน Q1/66) เพิ่มขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยของ ธปท. 

 

4) คาด cost to income อยู่ที่ 49.0% (อยู่ที่ 43.3% ใน Q2/65 และ 49.0% ใน Q1/66) ทรงตัว QoQ จากการลดค่า commission พนักงานและให้พนักงาน 1 คน รับผิดชอบลูกค้ามากขึ้น

 

5) คาด NPL อยู่ที่ 2.6% (อยู่ที่ 3.88% ใน Q2/65 และ 2.52% ใน Q1/66) เพิ่มขึ้น QoQ จากการขยายพอร์ตสินเชื่อ และผู้บริหารให้ guideline ไว้ว่า NPL จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถึงระดับ 4% ถ้ามีการเร่งขยายพอร์ตสินเชี่อ ซึ่ง 4% ถือว่าเป็นตัวเลขปกติของบริษัท

 

6) คาด Credit cost อยู่ที่ 1.6% (อยู่ที่ 0.3% ใน Q2/65 และ 1.4% ใน Q1/66) เพิ่มขึ้นตาม NPL และ coverage ratio อยู่ที่ 56% (อยู่ที่ 61% ใน Q2/65 และ 56% ใน Q4/65) 

แนวโน้ม 2566

คงประมาณการกำไร ปี 2566 ที่ 4,590 ล้านบาท +2.5% YoY โดยพอร์ตสินเชื่อโดยรวมขยายตัวได้ 25% - 30% แต่กำไรถูกกดดันจาก credit cost ที่จะขึ้นใน 2H66 เปลี่ยนคำแนะนำเป็น “ซื้อ” สะสมสำหรับลงทุนระยะยาว โดยมองว่า valuation ปัจจุบันน่าสนใจเมื่อเทียบโอกาสการเติบโตจากการกลับมารุกขยายพอร์ตสินเชื่อ โดยให้ราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 62 บาท (อิงวิธีPBV ที่ 2.7 เท่า ตาม Gordon Growth Model)

 

ความเสี่ยง

จากคู่แข่งที่เยอะในตลาด และหนี้เสียมากกว่าคาด

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง