รีเซต

“ปชป.”ปลุกใจ ศึกผู้ว่าฯกทม.-ส.ก.50 เขต “ดร.เอ้” ลั่น จะไม่ใช่ผู้ว่าฯที่นั่งเซ็นแต่แฟ้ม

“ปชป.”ปลุกใจ ศึกผู้ว่าฯกทม.-ส.ก.50 เขต “ดร.เอ้” ลั่น จะไม่ใช่ผู้ว่าฯที่นั่งเซ็นแต่แฟ้ม
มติชน
21 มีนาคม 2565 ( 17:05 )
90
“ปชป.”ปลุกใจ ศึกผู้ว่าฯกทม.-ส.ก.50 เขต “ดร.เอ้” ลั่น จะไม่ใช่ผู้ว่าฯที่นั่งเซ็นแต่แฟ้ม

ข่าววันนี้ 21 มี.ค.เวลา 13.35 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ โดยพรรคประชาธิปัตย์ จัดงานสัมมนาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร(ส.ก.) และผู้อำนวยการศูนย์เลือกกตั้งผู้ว่าฯกทม. และส.ก.ประจำเขต โดยมีว่านายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเปิดงาน ว่า พรรคประชาธิปัตย์ยุคนี้ถือเป็นยุคหนึ่งที่มีความพร้อมและได้เสนอทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับคนกรุงเทพฯอีกครั้งหนึ่ง ความพร้อมของส.ก. พร้อมตั้งแต่ก่อนเปิดตัวผู้ว่าฯ กทม.และลงพื้นที่มาเป็นลำดับจนกระทั่งถึงวันเปิดตัว พร้อมทั้ง 50 เขต แม้ครั้งนี้ใน กทม.เราจะไม่มีส.ส.เลย แต่เกือบ 3 ปีที่ผ่านมา ได้พิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นทุ่มเท การทำงานที่พรรคได้เข้าไปร่วมเป็นรัฐบาลและในพื้นที่กทม. มีผลงานเป็นรูปธรรม จับต้องได้ ซึ่งไม่มียุคใดทำได้

 

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ในสถานการณ์โควิดว่าที่ผู้สมัครส.ก.ไม่เคยทิ้งชาว กทม. ลงพื้นที่สม่ำเสมอ เรานำถุงน้ำใจไปแจก จัดศูนย์ประสานเตียง แม้จนวันนี้ก็ยังไม่เลิกลา นี่คือสิ่งที่พิสูจน์ว่าพรรคมุ่งมั่น ทุ่มเทเพื่อชาวกทม. จุดยืนทางการเมืองก็ชัดเจนไม่ต้องรอให้ใครมาถามว่ามีจุดยืนอย่างไร ประชาธิปัตย์ไม่เคยเขว ไม่เคยซ้ำเติมสถานการณ์ประเทศ จนตนมั่นใจว่าเราพิสูจน์ให้ชาวกทม.เห็นชัดแล้วว่าฝากผีฝากไข้ ฝากอนาคตไว้กับพรรคได้ จึงมั่นใจว่าเสียงตอบรับจากคนกรุงเทพฯดีขึ้น เมื่อเทียบกับสามปีที่ผ่านมา เราเดินขึ้น ไม่ได้เดินลง ดังนั้น การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. และส.ก.ครั้งนี้ เรามีโอกาสไม่ใช่ส่งให้ครบ ส่งเพื่อแก้บนทางการเมือง แต่เราส่งเพราะเรามีโอกาส รวมทั้งนโยบายที่ปฏิบัติได้จริง ไม่ใช่นโยบายในอวกาศ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำถ้านายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่า.กทม.ของพรรค ได้รับเลือกให้เป็นผู้ว่าฯ และจะบริหารแบบเดิมๆไม่ได้แล้ว

 

“ทีม ส.ก.ของพรรค เป็นคนคุณภาพ เพราะมาจากอดีตส.ก. ส.ข. และเลือดใหม่ มาจากอาชีพที่หลากหลาย ถ้าดูในแง่การศึกษาผู้สมัครของพรรคจบการศึกษาทั้งปริญญาเอก และปริญญาโท โดยมากกว่า50 เปอร์เซ็นต์จบปริญญาโทขึ้นไป จึงพิสูจน์ได้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้ส่งทางเลือกที่ดีที่สุดให้คนกรุงเทพ อย่างไรก็ตาม ส่วนผู้สมัคร ส.ก. ทั้ง 50 เขต ถ้าได้รับเลือกตั้งต้องทำหน้าที่มากกว่าที่กฎหมายกำหนด แต่ต้องถูกกฎหมายเท่านั้น และส.ก. ของพรรค จะต้องเป็นส.ก.พลัส เนื่องจากก่อนหน้าได้ยกเลิกส.ข.ไปแล้ว ดังนั้น ส.ก.จึงต้องเข้ามาเติมเต็มตรงนี้ เพื่อให้คนกรุงเทพอุ่นใจ นี่คือคำมั่นสัญญาจากพรรคประชาธิปัตย์ทุกคน ถ้าได้รับการเลือกตั้ง”นายจุรินทร์ กล่าว

 

 

จากนั้น นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ ในฐานะเลขาธิการพรรค บรรยายพิเศษ “รวมพลัง ปชป. สู่ชัยชนะ” ว่า พรรคมีโอกาสเตรียมตัวมากกว่าทุกคราว เพื่อแสดงให้เห็นว่าพรรคพร้อมเป็นตัวแทนชาวกทม.จริงๆ และได้ตัวผู้สมัครที่มีอนาคต ผู้ว่าฯกทม.ไม่ใช่โบนัสสุดท้ายของผู้เกษียณราชการ ไม่มีประโยชน์อะไรถ้าตัวผู้ว่าฯไม่มีความมุ่งมั่นในการบริหารราชการ ด้วยความเป็นสถาบัน มั่นใจว่ามีพื้นฐานคะแนนของพรรรครองรับอยู่แล้ว อยู่ที่พวกเราทุกคนต้องไปปลุกให้ประชาชนมาลงคะแนนให้พรรค ตนได้มอบโจทย์ให้นายสุชัชวีร์ว่าจะทำอย่างไรให้พรรคประชาธิปัตย์โผล่พรึ่บเดียวทั้ง 50 เขต

 

ได้มอบหมายให้ ดร.เอ้ ไปดูนโยบายที่เป็นหมัดเด็ด ซึ่งถ้าได้เป็นผู้ว่าฯกทม.ต้องทำได้ทันที และเป็นของแท้ ส่วนเทคนิคที่จะได้รับชัยชนะไม่มีใครทราบดีเท่าตัวผู้สมัครส.ก.ทั้ง 50 เขต ผมรู้ว่าทุกคนเหนื่อย แต่วันที่ได้เบอร์ พวกผมที่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคงไม่สามารถลงไปเดิน ไม่สามารถออกหน้าออกตาได้ แต่ด้วยความเป็นประชาธิปัตย์ ก็ยังต้องรับผิดชอบอยู่ เราจะไม่ทิ้งกัน เดินไปด้วยกัน และมั่นใจการเลือกตั้งครั้งนี้เราจะสำเร็จแน่นอน และผมจะอยู่ใกล้ๆ ไม่ไปไหนไกล”นายเฉลิมชัย กล่าว

 

ด้านนายสุชัชวีร์ กล่าวว่า อยากบอกกับทุกคนว่าที่นี่คือบ้านที่อบอุ่นที่สุด ตนเป็นวิศวะโยธา บ้านต้องมีเสาเข็ม มีฐานราก ต้องเจอพายุ แต่ไม่ว่าจะเจอแรงปะทะเพียงใด มั่นใจว่าบ้านหลังนี้ยังเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนได้ตลอดไป ตนเจอแรงปะทะ เกมการเมืองถาโถมทุกรูปแบบ ถ้าคิดถึงตัวเองคงไม่ออกมายืนตรงนี้ เพราะ 3 เดือนที่แล้วมีครอบครัวเล็กๆที่อบอุ่ม มีงานที่มีเกียรติ แต่ที่ออกมาตรงนี้เพราะอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง ต่อให้เจอพายุหนักเพียงใด ได้รับความไม่เป็นธรรมนานับประการ ก็อยากจะบอกว่าอยู่ในบ้านที่อบอุ่นและมั่งคง ไม่มีวันท้อ และยิ่งมีความมุ่งมั่น มั่นใจว่าเปลี่ยนกรุงเทพได้แน่

 

 

นายสุชัชวีร์ กล่าวต่อว่า ตลอด 3 เดือนตนลงพื้นที่ครบ 50 เขต เดินมาแล้วเกือบล้านก้าว ซึ่งเจอปัญหาจำนวนมาก ดังนั้นถ้าได้เป็นผู้ว่าฯกทม. จะไม่นั่งติดโต๊ะ ติดแฟ้มอยู่ที่ศาลาว่าการฯ ซึ่งกทม.จะไม่มีทางเปลี่นนแปลงได้ ผู้ว่าฯกทม.ต้องไปเหยียบกองขยะ เดินจนเท้าพลิก เข้าใจคลองทุกเส้น ถ้าเกิดไม่รู้ว่าคูคลองเป็นอย่างไร มีปัญหาอะไร กทม.ก็เหมือนเดิม มีปัญหาซ้ำซาก และผู้ว่าฯต้องรู้จักคนในพื้นที่ เพราะทำงานคนเดียวไม่ได้แน่ ต้องทำงานร่วมกับส.ก. ทั้งนี้ ผู้ว่าฯกทม.ของพรรคจึงต้องมาพร้อมกับส.ก.ที่มีความรู้อย่างลึกซึ้งและรู้จักพื้นที่

 

“ผมจะเป็นผู้ว่าที่ขยันที่สุด มุ่งมั่นที่สุด และจะเอาชนะคนกรุงเทพฯให้เลือกผู้ว่าและส.ก. ของพรรค แบบยกทีม เพราะไม่มีทางที่ผู้ว่าฯมาเดี่ยวๆแล้วจะทราบปัญหา เมื่อวาน(20 มี.ค.) ฝนตก น้ำท่วมดินแดง ห้วยขวาง จนถึงจตุจักร แสดงว่าสิ่งที่ กทม.ทำ ไม่พอ วันนี้คนกรุงเทพฯเห็นเป็นประจักษ์แล้วว่าทีมผู้ว่าต้องเข้มแข็ง ดังนั้น ทั้งผู้ว่าฯและสก.เมื่อมาร่วมกันก็จะเป็นข้อพิสูจน์ ที่จะทำงานให้กับคนกรุงเทพฯ”นายสุชัชวีร์ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง