แพทย์ยืนยันฉีดวัคซีนโควิด "ซิโนแวค" ในผู้สูงอายุ มีความปลอดภัย
วันนี้ (8 พ.ค.64) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ เปิดเผยกับทีมข่าว "TNN ช่อง 16" ว่า ก่อนจะพิจารณาฉีดวัคซีนซิโนแวคให้กลุ่ม 60 ปีขึ้นไปในประเทศไทยนั้น มีผลการศึกษาวิจัยมาก่อนแล้วว่า สามารถฉีดวัคซีนซิโนแวคให้คนกลุ่มนี้ได้
นพ.ทวี อธิบายว่า ช่วงแรกของการขึ้นทะเบียนวัคซีนตัวนี้ มีคนไข้มาจาก 3 ประเทศ เข้าสู่การทดลองระยะ 3 คือ บราซิล ตุรกี และอินโดนีเซีย จำนวน 3-4 หมื่นคน ทำการทดลองระยะที่ 3 แต่ในกลุ่มที่มาทดลองมีคนอายุเกิน 64 ปี จำนวนน้อย มีอยู่ประมาณ 5% ของคนทั้งหมด หรือประมาณ 2,000 คน ซึ่งคนกลุ่มนี้ได้รับวัคซีนซิโนแวค หลังฉีดพบประสิทธิภาพลดความรุนแรงของโรคได้ไม่ต่างจากวัคซีนยี่ห้ออื่น หลังจากนั้นมาจึงมีการใช้ฉีดในหลายประเทศ เช่น ฮ่องกงก็ใช้ฉีดในผู้สูงอายุเช่นกัน
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าที่ใช้นวัตกรรมเชื้อตัวเป็นฉีดเข้าไป พบว่า เนื่องจากผู้สูงอายุมีภูมิคุ้มกันต่ำ การใช้ซิโนแวคที่เป็นนวัตกรรมเชื้อตายเข้าสู่ร่างกายผู้สูงอายุ จึงมีความปลอดภัยและผลข้างเคียงน้อยกว่าหนุ่มสาว โดยผู้มีโรคเบาหวาน ความดัน ก็ใช้ได้เช่นกัน แต่ที่ห่วงคือกลุ่มเป็นโรคความดัน และกำลังใช้ยากดภูมิ ดังนั้นในกลุ่มนี้ต้องให้แพทย์หน้างานเป็นผู้ประเมินเพื่อลดผลข้างเคียงก่อนฉีด
พร้อมกันนี้ นพ.ทวี ได้ยกตัวอย่างกรณีตัวเองรับวัคซีน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้สูงอายุว่าควรรับวัคซีน โดยระบุว่า ส่วนตัวที่มีโรคเบาหวาน และอายุกว่า 70 ปีแล้ว ก็รับวัคซีนแล้วเช่นกัน ซึ่งไม่ได้มีผลข้างเคียงรุนแรง จึงอยากให้ประชาชนตระหนักว่า แม้จะมีผลข้างเคียง แต่อยากให้นึกถึงประโยชน์มากกว่า เพราะสิ่งที่ได้คือลดความรุนแรง หลังฉีดไป 3-4 สัปดาห์ จึงจะเกิดผลของประสิทธิภาพ แม้ข้างบ้านหรือคนในบ้านป่วย แต่เมื่อผู้สูงอายุที่รับวัคซีนแล้วป่วย อาการจะไม่รุนแรง และจะไม่เสี่ยงเป็นผู้ป่วยอาการหนักที่มีแนวโน้มเสียชีวิต
ดังนั้นเวลานี้ จึงอยากให้ทุกคนได้รับวัคซีนให้มากที่สุด เพราะหากมีคนรับวัคซีนเยอะ คนไทยก็มีโอกาสกลับมาใช้ชีวิตปกติและเปิดประเทศโดยเร็ว