PrideHealth ปลดล็อกตลาดสุขภาพ LGBTQ+ มูลค่ากว่า 5,300 ล้านดอลลาร์

PrideHealth แพลตฟอร์มสุขภาพดิจิทัลเพื่อกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) แห่งแรกของเอเชียแปซิฟิก เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยสามารถเข้าใช้งานได้ที่ www.pridehealth.care แพลตฟอร์มนี้ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการสุขภาพของกลุ่ม LGBTQ+ โดยเฉพาะในเอเชีย ที่ยังมีข้อจำกัดทั้งจากบุคลากรที่ไม่เข้าใจบริบทเฉพาะทาง ระบบสุขภาพที่ไม่ตอบสนอง และการเลือกปฏิบัติที่ยังคงปรากฏแม้ในประเทศที่เปิดกว้าง เช่น ไทย
ดร.บรูซ หลี่ (Bruce Li) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) และผู้ร่วมก่อตั้ง PrideHealth กล่าวว่า ความต้องการด้านสุขภาพของกลุ่ม LGBTQ+ มักถูกมองว่าเป็นเรื่องเฉพาะกลุ่ม แต่แท้จริงแล้วนี่คือโอกาสทางเศรษฐกิจและสาธารณสุขที่สำคัญ ด้วยประชากรกว่า 430 ล้านคนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก การสร้างระบบสุขภาพที่เข้าใจและครอบคลุมจึงไม่ใช่แค่เรื่องของความเท่าเทียม แต่เป็นกลยุทธ์ธุรกิจระยะยาว
PrideHealth ให้บริการแบบครบวงจร ได้แก่ การแพทย์ทางไกล (Telehealth), เวชภัณฑ์เฉพาะทาง, การดูแลสุขภาพจิต, การดูแลผู้ติดเชื้อ HIV และการยืนยันเพศสภาพ ผ่านทีมแพทย์ที่เป็นมิตรกับ LGBTQ+ จากไทย ไต้หวัน สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์
ข้อมูลจากรายงาน Open for Business ปี 2567 ระบุว่าผลกระทบทางสุขภาพที่เกิดจากการเลือกปฏิบัติต่อกลุ่ม LGBTQ+ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย และมาเลเซีย สูญเสีย GDP รวมสูงถึงร้อยละ 1.24 ต่อปี ตัวอย่างในประเทศไทยพบว่าภาวะซึมเศร้าในกลุ่ม LGBTQ+ ส่งผลต่อผลิตภาพแรงงาน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายสูงถึง 14,900 ล้านบาทต่อปี
เพื่อพลิกวิกฤตเป็นโอกาส PrideHealth ยังได้พัฒนา Pride Packages สำหรับองค์กรธุรกิจ ซึ่งเป็นชุดบริการสุขภาพสำหรับพนักงาน LGBTQ+ แบบครบวงจร เช่น การพบแพทย์ออนไลน์ ยาเฉพาะทาง อาหารเสริม และบริการโค้ชสุขภาพในแพลตฟอร์มเดียว ซึ่งไม่เพียงช่วยส่งเสริมความเท่าเทียมในสถานที่ทำงาน แต่ยังเพิ่มผลิตภาพและความผูกพันในองค์กร
ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดตัวแพลตฟอร์ม เนื่องจากเพิ่งผ่านกฎหมาย “สมรสเท่าเทียม” ในปี 2568 และมีบทบาทสำคัญด้านการท่องเที่ยว LGBTQ+ ในเอเชีย โดย PrideHealth มีแผนขยายบริการไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วเอเชียในปีเดียวกัน เพื่อรองรับตลาดสุขภาพ LGBTQ+ ที่มีมูลค่าสูงถึง 5,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
