รีเซต

PPMรวบหุ้นแผงโซลาร์ บุ๊กรายได้เข้าเต็มเหนี่ยว

PPMรวบหุ้นแผงโซลาร์ บุ๊กรายได้เข้าเต็มเหนี่ยว
ทันหุ้น
4 มกราคม 2565 ( 07:20 )
474

ทันหุ้น – บอร์ด PPM ไฟเขียวซื้อหุ้นบริษัทย่อย “โซลาร์ พีพีเอ็ม” ดันสัดส่วนถือหุ้น 99.96% ชี้เพิ่มโอกาสรับรู้รายได้ เตรียมเปิดกระเป๋ารับทรัพย์ธุรกิจโซลาร์เข้าเต็มปีตั้งแต่ปี 2564 ฟากผู้บริหารปักเป้ายอดขายรวมปี 2565 โตไม่ต่ำกว่า 2.5 พันล้านบาท

 

นายชำนาญ  พรพิไลลักษณ์  ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พรพรหมเม็ททอล จำกัด (มหาชน) หรือ PPM เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท โซลาร์ พีพีเอ็ม จํากัด ซึ่งปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน จํานวน 60 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจํานวน 600,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท จาก Vina Solar Technology Company Limited (ผู้ขาย) จํานวน 240,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 40% ของทุนจดทะเบียน ในราคา 1.00 บาทต่อหุ้น เป็นจํานวนเงินรวม 240,000 บาท

 

**ทำรายการเสร็จปี 65

 

ทั้งนี้บริษัทจะเข้าทํารายการภายหลังจากที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2564 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่  29 ธันวาคม 2564 โดยคาดว่าทําจะรายการดังกล่าวให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลา 30 วัน

 

ขณะที่ภายหลังจากการได้มาหุ้นสามัญของบริษัทย่อยในครั้งนี้ทําให้ บริษัทมีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 99.96 ของจํานวนหุ้นทั้งหมดในบริษัทย่อย

 

สำหรับประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับบริษัท การซื้อหุ้นในบริษัทย่อยครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มโอกาสในการรับรู้รายได้เพิ่มขึ้น จากทิศทางตลาดในธุรกิจโซลาร์เซลล์ในปัจจุบัน และเป็นการเพิ่มอํานาจการควบคุมและความคล่องตัวในการบริหาร และลดความขัดแย้งทางผลประโยชน์กับกลุ่มผู้ถือหุ้นอื่น

 

** โซลาร์เซลล์โตเด่น

 

ขณะที่ผลประกอบการของบริษัทย่อยโซลาร์เซลล์ มียอดขายเพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่ 1,106.45% โดยเติบโต ทั้งในธุรกิจรับติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ (EPC), ธุรกิจขายไฟฟ้า (PPA) และธุรกิจจําหน่ายแผงโซลาร์เซลล์ในประเทศ ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่าจะทํากําไรและเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามในปี 2565 คาดยอดขายทั้ง 3 บริษัทจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 2.5 พันล้านบาท ซึ่งในส่วนของธุรกิจโซลาร์เซลล์ บริษัท โซลาร์ พีพีเอ็ม จำกัด หรือ SPPM จะเป็นตัวหลักในการสร้างรายได้ โดยคาดว่าจะเติบโตอยู่ที่ 30% ส่วนของ บริษัท พรีเมี่ยม เฟล็กซิเบิ้ล แพคเกจจิ้ง จำกัด หรือ PFP คาดว่าจะโต 10% และส่วนของ PPM โต 20%

 

นอกจากนี้ยังมีรายได้อุตสาหกรรมผลิตแบริเออร์ยางพารา และเสาหลักนําทางยางพารา ซึ่งคาดว่าในปี 2565 จะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท

 

** ปั๊มยอดขาย 2.5 พันล.

 

“ปี 2565 ถือว่าโซลาร์ยังเป็นตัวที่โดดเด่น และจะดีกว่าปี 2564 ซึ่งน่าจะโตอย่างน้อย 30% เรามีความได้เปรียบในการเป็นผู้ผลิตแผง ส่วนธุรกิจอื่นยังคงเป็นไปตามกลไกตลาด เราพยายามบริหารจัดการให้มันดี รวมถึงยังมีส่วนของรายได้ยางเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าธุรกิจ 3 ส่วนจะทำยอดขายรวมไม่ต่ำกว่า 2,500 ล้านบาท” นายชำนาญ กล่าว

 

นายชำนาญ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันบริษัทเปิดกว้างรับพันธมิตรใหม่เข้ามาเพิ่มเติมในส่วนของธุรกิจโซลาร์ ซึ่งอยากให้เข้ามาเสริมด้านเงินทุน (Funding) เพื่อทำให้สามารถควบคุมต้นทุน และกระจายฐานลูกค้าให้ดีขึ้น เนื่องจากในอนาคตบริษัทมีแผนที่จะนำ SPPM เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง