THREL-THREปีนี้เข้มรับงาน คุมต้นทุน-ปั้นพอร์ตคุณภาพ

#THREL #THRE #ทันหุ้นTHREL ตั้งเป้าก้าวสู่ “Road to Quality” ปีนี้เน้นปั้นพอร์ตคุณภาพ คุมเข้มการรับงาน ส่วน THRE มั่นใจปีนี้โตต่อเนื่องเน้นคุมต้นทุนค่าใช้จ่าย ตีกรอบ Combine Ratio ที่ระดับ 95-97% ย้ำรับประกันภัยต่อตึก สตง.ไม่กระทบฐานะการเงิน
นายวิพล วรเสาหฤท กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยรีประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ THREL เผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจปี 2568 บริษัทตั้งเป้าก้าวสู่ “Road to Quality” ปั้นพอร์ตคุณภาพ โดยเน้นพิจารณาปรับเงื่อนไขการรับประกันภัยต่อ ให้สอดคล้องอัตราสินไหมทดแทนที่เพิ่มสูงขึ้น
*คัดงานขาดทุนออก
รวมถึงพิจารณายกเลิกสัญญาที่ไม่ทำกำไรในระยะยาว ภายใต้การคุมเข้มกระบวนการพิจารณารับประกันภัย และบริหารความเสี่ยง ด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ เน้นกระจายความเสี่ยงผ่านการส่งประกันต่อ (Retrocession) เพื่อควบคุมคุณภาพผลการรับประกันภัยให้อยู่ในระดับความเสี่ยงที่รับได้ ผลักดันอัตราค่าใช้จ่ายรวม (Combined ratio) ต่ำกว่าระดับ 100% ขณะเดียวกัน บริษัทยังคงมองหาโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ พร้อมขยายความร่วมมือพันธมิตรงต่างประเทศเพิ่มเติม เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง
ทั้งนี้ THREL เร่งดำเนินการปรับพอร์ตตั้งแต่ปลายปี 2567 ที่ผ่านมา เพื่อรองรับความเสี่ยงในอุตสาหกรรมประกันชีวิตภายในประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ด้วยการพิจารณาไม่ต่อสัญญาที่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงาน พร้อมทบทวนเงื่อนไขและปรับราคาค่าเบี้ยประกันสุขภาพสำหรับการต่ออายุสัญญาใหม่ปี 2568 เพื่อเสริมพอร์ตให้แข็งแรงขึ้น ด้วยการดูแลรักษาคุณภาพการรับงานใหม่ๆ เพื่อคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพสูงสุดอย่างต่อเนื่อง โดยฉพาะงานด้านประกันสุขภาพกลุ่มที่ส่วนใหญ่ได้รับผลโดยตรงจากการปรับขึ้นราคาค่ารักษาพยาบาล (Medical Cost Inflation)
อย่างไรก็ตาม ประกันสุขภาพยังเป็นพอร์ตที่สร้างโอกาสในการเติบโตให้กับบริษัท หากต้องรบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรัดกุม เพื่อให้อัตราค่าสินไหมทดแทนต่อเบี้ย (Loss ratio) และอัตราค่าใช้จ่ายรวม (Combined ratio) กลับเข้าสู่เกณฑ์เป้าหมาย พร้อมขับเคลื่อนการเติบโตที่แข็งแกร่งในระยะยาว
สำหรับงบปี2567 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิต 85 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 147 ล้านบาท หรือคิดเป็น -236%
*THRE เดินหน้าโตต่อ
นายโอฬาร วงศ์สุรพิเชษฐ์ กรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปี 2568 บริษัทยังคงตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยต่อรับสุทธิเติบโตต่อเนื่อง ภายใต้การบริหารต้นทุนค่าใช้จ่าย และควบคุมความเสี่ยงอย่างใกล้ชิด เพื่อรักษาศักยภาพการทำกำไร ควบคุมอัตรา Combine Ratio ไว้เฉลี่ยที่ระดับ 95-97% เพื่อให้สามารถกลับมาจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้อีกครั้ง
ขณะเดียวกัน THRE ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยต่อแห่งเดียวในประเทศไทย ยังได้ชี้แจงการรับประกันภัยต่อ อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ (สตง.) ว่าจากการคำนวณบนสัญญาการรับประกันภัยต่อสำหรับโครงการดังกล่าว มีความเป็นไปได้สูงสุดของความ เสียหาย (PML) ไม่เกินร้อยละ 1.4 ของมูลค่าสัญญา ซึ่งหากมีการเรียกร้องค่าสินไหมในอนาคต จะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีสาระสำคัญต่อฐานะทางการเงินของTHRE
โดยในปี 2567 บริษัท มีกำไรสุทธิจำนวน 245ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปี 2566และยังสามารถคง combined ratio ไว้ในระดับ เป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างต่อเนื่อง โดยมี combined ratio อยู่ที่ร้อยละ 96.8 รวมถึงบริษัทสามารถล้างขาดทุนสะสมจำนวน 194.67ล้านบาทได้ โดยงบปี 2567 มีกำไรสุทธิ 12.50ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ทั้ง THREL และ THREยังคงงดจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานปี 2567 ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 THREL และ THRE ได้จัดงานประชุมผู้ถือหุ้นหุ้น ซึ่งที่ประชุมของทั้ง 2 บริษัท มีมติเห็นชอบให้ผ่านทุกวาระ