รีเซต

เร่งปั๊ม 'ท่องเที่ยว' ช่วยปลุกเศรษฐกิจไทย มติชนระดมไอเดีย

เร่งปั๊ม 'ท่องเที่ยว' ช่วยปลุกเศรษฐกิจไทย มติชนระดมไอเดีย
มติชน
29 กรกฎาคม 2563 ( 09:03 )
74
เร่งปั๊ม 'ท่องเที่ยว' ช่วยปลุกเศรษฐกิจไทย มติชนระดมไอเดีย

ผลจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ก่อให้เกิดวิกฤตต่อเศรษฐกิจไทยในภาคส่วนต่างๆ อย่างมากมายมหาศาล โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยว ได้รับผลกระทบหนักหนาสาหัสกว่าใครเพื่อน

 

ทั้งนี้ รายได้จากการท่องเที่ยวไทยคิดเป็นสัดส่วน 12% ของผลผลิตมวลรวมในประเทศ (จีดีพี) และส่วนใหญ่จะมาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่มีมากถึง 1.9 ล้านล้านบาท

 

แต่ขณะนี้แทบทั่วโลกยังประสบการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีการล็อกดาวน์ประเทศ สายการบินต่างๆ หยุดทำการ ขณะเดียวกันประเทศไทยก็ยังไม่อาจเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้อย่างปกติ ยังต้องคัดกรองและมีมาตรการป้องกันเชื้อโควิด-19 อย่างเข้มข้น

 

เมื่อรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่อาจเข้ามาจุนเจือเศรษฐกิจไทยได้เหมือนเดิม จึงจำเป็นต้องที่จะต้องกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ แม้จะไม่แรงเหมือนรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ก็พอจะกระตุ้นให้ธุรกิจท่องเที่ยวและชุมชนในท้องถิ่นให้อยู่ได้ ในภาวะวิกฤตเช่นนี้

 

ดังนั้นการกระตุ้นคนไทยให้ท่องเที่ยวภายในประเทศ จึงเป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญของรัฐบาล ที่ต้องการจะฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

 

แต่จะทำอย่างไรเพื่อกระตุ้นให้คนไทยเที่ยวไทยกันมากขึ้น หนังสือพิมพ์มติชน จึงจัดเวทีระดมความคิดเห็นในงานสัมมนาหัวข้อ ปลุกไทย เที่ยวไทย ปลุกเศรษฐกิจไทย ให้เดินหน้า ในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ เวลา 08.30-12.00 น. ที่ห้องอินฟินิตี้ 1-2 โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ ซอยรางน้ำ กทม. โดยมี พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดงานและกล่าวปาฐกถาพิเศษ เพื่อให้การท่องเที่ยวกลับมาพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้อีกครั้ง

 

ภายในงานยังจัดเสวนาเรื่อง ไทยพร้อมแล้วกับการท่องเที่ยววิถีใหม่ โดยมีวิทยากรเข้าร่วม ได้แก่ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย นายสุรวัช อัครวรมาศ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และอุปนายกสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (แอตต้า) และตัวแทนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยมี พิภู พุ่มแก้วกล้า พิธีกรรายการและผู้ประกาศข่าวเป็นผู้ดำเนินรายการ

 

ทั้งนี้ มติชน เปิดให้ผู้สนใจเข้าฟังการสัมมนา ลงทะเบียนเข้าร่วมรับฟังผ่านคิวอาร์โค้ด (QR Code) ทางเว็บไซต์มติชน www.matichon.co.th หรือในหนังสือพิมพ์ในเครือมติชนได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด แต่ต้องรีบลงทะเบียน เพราะรับจำนวนจำกัด ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19

 

สำหรับงานสัมมนา ปลุกไทย เที่ยวไทย ปลุกเศรษฐกิจไทย ให้เดินหน้า ในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในงานสัมมนาที่หนังสือพิมพ์มติชนจัดขึ้น โดยร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อระดมความเห็น เผยแพร่นโยบายภาครัฐ สู่เอกชนและประชาชน หาคำตอบที่เป็นทางออกของประเทศ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ

 

ทั้งนี้ เมื่อต้นปี มติชน ได้จัดเสวนาเรื่อง 2020 ปีแห่งการลงทุน ทางออกประเทศไทย เมื่อวันที่ 18 มกราคม จากนั้นเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ได้จัดงาน ลงทุน 2020 ฟื้นฟูเศรษฐกิจ สร้างชาติ สร้างงาน โดยเน้นที่แผนการลงทุนของกระทรวงคมนาคม ที่มีผลต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ฟื้นฟูความเสียหายจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

 

การสัมมนาเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ เกิดขึ้นในสภาพวิกฤตของธุรกิจการท่องเที่ยว ซึ่งเดิมเป็นรายได้สำคัญของชุมชนและประเทศ แต่เมื่อทั่วโลกประสบปัญหาโรคระบาดโควิด-19 การเดินทางระหว่างประเทศ หยุดชะงัก กระทบถึงรายได้จากการท่องเที่ยว ซึ่งมีประชาชนวงกว้างเกี่ยวข้องอยู่

 

กระทั่งประเทศไทยควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ได้เป็นที่น่าพอใจ เพราะประชาชนร่วมมือรักษามาตรการทางสาธารณสุข สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ วัดอุณหภูมิร่างกาย เว้นระยะห่าง และอื่นๆ ทำให้ทุกคนสามารถเดินทางภายในประเทศได้

 

การท่องเที่ยวภายในประเทศ จึงเป็นความหวังทางเศรษฐกิจทั้งของชุมชนและของประเทศ ในระหว่างที่รอให้สถานการณ์เข้าที่ในการเดินทางระหว่างประเทศ สามารถดำเนินการได้ด้วยความปลอดภัย ไม่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด

 

มติชน จึงจัดสัมมนาเพื่อให้ภาครัฐและภาคเอกชน สร้างความมั่นใจว่าการท่องเที่ยววิถีใหม่ ภายในประเทศมีความปลอดภัยจากโรคระบาด เพื่อให้ประชาชนกล้าเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศที่สำคัญ

 

ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เผยถึงมาตรการต่างๆ ในการกระตุ้นการท่องเที่ยวว่า ในส่วนของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ข้อมูล เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม มีผู้ลงทะเบียนรับสิทธิ 4.56 ล้านคน ลงทะเบียนสำเร็จ 4.30 ล้านคน อยู่ระหว่างทยอยแจ้งผลผ่านทางข้อความเอสเอ็มเอส เบื้องต้นมีผู้ใช้สิทธิจองโรงแรมที่พักแล้ว 2 แสนกว่าห้อง และมีผู้ชำระเงินและเดินทางไปเช็กอิน เพื่อใช้บริการโรงแรมแล้ว 21,369 ห้อง และเช็กเอาต์แล้ว 6,273 ห้อง

 

บรรยากาศการท่องเที่ยวของตลาดไทยเที่ยวไทยเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น โดยสถานการณ์ท่องเที่ยวช่วงหยุดยาว 4 วัน ระหว่างวันที่ 25-28 กรกฎาคม ประเมินไว้ว่ามีคนไทยเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในประเทศ ประมาณ 1.89 ล้านคนต่อครั้ง มีการใช้จ่ายสร้างรายได้หมุนเวียนมากกว่า 6.8 พันล้านบาท และคาดว่ามีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 24%

 

สำหรับรูปแบบการเดินทาง จะเป็นการเดินทางท่องเที่ยวในระยะทางใกล้ๆ เที่ยวในจังหวัดรอบข้าง เดินทางกันเป็นกลุ่มเล็กๆ แบบกลุ่มครอบครัว หรือกลุ่มเพื่อน และเน้นการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล เพื่อความมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัย และสุขอนามัยเป็นหลัก

 

ส่วนการเดินทางในกลุ่มรถโดยสารสาธารณะ บขส.คาดว่าจะมีปริมาณไม่มากเท่ากับช่วงวันหยุดยางช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา โดยเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีจำนวนผู้โดยสารจองตั๋วล่วงหน้าทั่วประเทศในช่วงวันหยุดยาวประมาณ 5-10% และพบว่าแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ทั้งทะเล ภูเขา และน้ำตกยังเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ที่คนไทยอยากออกไปสัมผัสในช่วงวันหยุดพักผ่อน

 

ผู้ว่าการ ททท.เสริมอีกว่า การกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อให้เกิดการเดินทางในช่วงวันหยุดยาวครั้งนี้ มีหลายปัจจัยด้วยกัน ทั้งการหยุดยาวต่อเนื่อง 4 วัน มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ ทั้งแพคเกจเราเที่ยวด้วยกัน และแพคเกจกำลังใจ ที่ออกมาเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมของภาคการท่องเที่ยว รวมถึงกระตุ้นประชาชนให้เกิดการเดินทาง และใช้จ่ายในสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการยกเว้นค่าธรรมเนียมผ่านทางมอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง ถือเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และจูงใจให้ออกเดินทางมากขึ้นด้วย

 

มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ระยะที่ 1 เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา ดังนั้นจึงขอเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ในการประเมินผลตอบรับ รวมทั้งแก้ไขปัญหาต่างๆ ก่อนว่าจะดำเนินการระยะที่ 2 หรือไม่ เช่น ผู้ประกอบการที่พักมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นจากเดิมเท่ากับราคาปกติ และหารือกับธนาคารกรุงไทย เพื่อวางระบบ เป็นต้น ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณา

 

คิดว่ามีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเฟส 2 แน่นอน เพราะท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้พูดไว้แล้ว รวมทั้งการสนับสนุนงบประมาณต่อห้อง ในแพคเกจเราเที่ยวด้วยกันที่รัฐบาลให้ห้องละไม่เกิน 3,000 บาท แต่ตอนนี้ที่เช็กดูค่าห้องอยู่ที่ 1,000-2,000 บาท ซึ่งไม่เต็มวงเงินที่รัฐบาลสนับสนุน ดังนั้นน่าจะมีเงินเหลือ เพื่อนำไปใช้ในมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเฟสต่อไปเพิ่มเติม อาทิ การสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองรองและท่องเที่ยววันธรรมดา ผู้ว่าการ ททท.สรุป

 

ดังนั้น งานสัมมนา ปลุกไทย เที่ยวไทย ปลุกเศรษฐกิจไทย ให้เดินหน้า และวงเสวนา ไทยพร้อมแล้วกับการท่องเที่ยววิถีใหม่ ในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ จะเป็นเวทีระดมความคิดเห็น เพื่อช่วยกันผลักดัน กระตุ้นการท่องเที่ยวไทยได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด ที่จะช่วยธุรกิจต่างๆ ที่ผูกโยงกับการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทยในภาพรวมพลิกฟื้นขึ้นมาได้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง