ญาติชายเร่ร่อนเหยื่อจัดฉากฆ่าอำพราง หวังหนีคดี อยากให้ลงโทษผู้กระทำผิดให้ถึงที่สุด
กรณี นายเปลี่ยน สีชมพู อายุ 54 ปี เหยื่อฆ่าโหดอำพราง ยัดศพใส่ในรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ซีตรอง สีแดง หมายเลขทะเบียน กม 6094 ราชบุรี ลักษณะชนท้ายรถยนต์เก๋งเก่าอีกคัน ก่อนจุดไฟเผาจนร่างไม่เกรียมเหลือแต่โครงกระดูก และรถยนต์ถูกเพลิงไหม้ 2 คัน ที่เปิดเป็นอู่รับทำเบาะรถยนต์ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 26 กรกฏาคมที่ผ่านมา หลังตำรวจได้เก็บหลักฐานที่เกิดเหตุไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ กระทั่งคดีพลิกโครงกระดูกที่พบเป็นศพนายเปลี่ยน ซึ่งเป็นชายเร่ร่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจไปติดตามควบคุมตัว นายธิตินันท์ ภู่สุวรรณ เจ้าของอู่ไว้ได้ขณะหลบหนีไปอยู่ อ.บ้านคา จ.ราชบุรี นำตัวมาสอบสวนจนรับสารภาพว่าจัดฉากฆ่านายเปลี่ยน ให้เป็นศพแทนตนเอง เพื่อหนีคดีพยายามฆ่า และต้องการเงินประกันนั้น
เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ที่วัดหนองบัวค่าย จ.ราชบุรี สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ นายเปลี่ยน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ภันฑิรา พรมรัตน์ อายุ 36 ปี นายภูไท กัลยาณคุณ อายุ 30 ปี น้องสาว รวมทั้งหลานชาย และหลานสะใภ้ ของผู้ตาย รวม 4 คน กำลังช่วยกันเตรียมของเพื่อใช้ในงานศพ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา
น.ส.ภันฑิรา เปิดเผยว่า นายเปลี่ยน อาศัยอยู่กับนายภูไท แต่เขาชอบเดินเก็บของเก่า โดยที่ไม่ได้เอาไปขาย จะใช้รถเข็นบรรทุกสิ่งของเข็นไปมาจากที่ทิ้งขยะกับบ้าน โดยที่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับใคร คนในหมู่บ้านรู้ดี ไม่มีใครยุ่งกับเขา เขาก็ไม่ยุ่งกับใคร คนซื้อข้าวซื้อน้ำให้เขาก็ไม่เอา ไม่เคยขอเงินหรือสิ่งของใคร ไม่ดื่มเหล้า ไม่เกเร ไม่ไปไหนกับใคร เขาชอบใช้ชีวิตของเขาแบบนั้น เขาจะรักหลานๆ มาก ชอบเอาขนมมาฝาก ทุกคนเข้าใจเขาใช้ชีวิตแบบนั้น เพราะไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับใคร เขาฟังพูดรู้เรื่อง
น.ส.ภันฑิรา กล่าวต่อว่า นายเปลี่ยน หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 23 กรกฏาคมที่ผ่านมา ไม่กลับมาบ้าน ดูผิดปกติ ถามใครก็ไม่เห็น ตามหาทุกที่บริเวณที่ทิ้งขยะก็ไม่เจอ ขอความช่วยเหลือจาก ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ให้ช่วยกันตามหา เพราะนึกว่าเขาหลงป่า จนมีเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ และหน่วยกู้ภัย มาช่วยกันหาทั้งบนเขา และที่ราบ 2 วัน ก็ไม่พบ กระทั่งวันที่ 27 กรกฏาคม จึงเข้าแจ้งความคนหายที่ สภ.จอมบึง และญาติ ๆ ก็ยังคงตามหาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งต่อมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาหาญาติ ขอเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ คนในครอบครัวที่ใกล้ชิด ไปตรวจพิสูจน์ และมาทราบว่าโครงกระดูกที่พบถูกเผาคารถคือนายเปลี่ยน ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ดีมาก
“เมื่อรู้ว่าพี่ชายถูกฆ่าแล้วเผา ไม่เชื่อว่าจะมีเรื่องโหดเหี้ยมเช่นนี้เกิดกับพี่ชาย เพราะเขาไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใคร เขาจะใช้ชีวิตของเขาแบบเงียบ ๆ ไม่เคยด่าหรือเสียงดังกับใครเลย คนในครอบครัวเสียใจมาก อยากรู้ว่าทำไมคนทำถึงใจอำมหิตขนาดนี้ ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบไม่ได้ หรือไม่บอกพวกเราก็ไม่รู้เลยว่านายเปลี่ยนถูกฆ่า พวกเราไม่เรียกร้องอะไร อยากให้กฎหมายลงโทษเขาให้ถึงที่สุด ให้ได้รับผลกรรมที่กระทำลงไป ตอนนี้คุณพ่อของนายเปลี่ยน อายุ 89 ปี ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ยังไม่รู้ว่านายเปลี่ยนเสียชีวิต ลูกหลานทุกคนต่างปิดเป็นความลับโทรทัศน์ก็ไม่ให้ดู เพราะหากพ่อรู้จะทำให้พ่ออาการป่วยทรุดลงอีก”น.ส.ภันฑิรา กล่าว