นักศึกษาจีนรวมตัวฟ้อง Apple เหตุไม่แถม "อะแดปเตอร์ชาร์จแบต" ใน iPhone 12
เรื่องราวของ Apple ที่ตัดอะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ iPhone ออกจากแพ็คเกจ ยังคงเป็นประเด็นมาอย่างต่อเนื่องถึงความเหมาะสม และล่าสุดมีนักศึกษาจีน 5 คนจ่อฟ้อง Apple กรณีที่ไม่แถมอะแดปเตอร์ชาร์จมาให้ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามในรายละเอียดกันได้เลย
จากการเปิดตัว iPhone 12 เมื่อปีก่อน Apple ได้สร้างความตะลึงให้กับชาวโลก ด้วยการตัดอะแดปเตอร์ชาร์จออกจากแพ็คเกจ โดยให้เหตุผลว่าผู้ใช้ส่วนมากจะมีอะแดปเตอร์ชาร์จอยู่แล้วอย่างน้อย 1 ตัว ดังนั้น เพื่อการสร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์ ในแพ็คเกจของ iPhone 12 จึงแถมให้เพียงสาย USB-C to Lightning มาให้เท่านั้น
เหตุผลเรื่องการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ในสิ่งแวดล้อมนี้กลายเป็นประเด็นถกเถียง บางสื่อแสดงความเห็นคล้อยตามกับทาง Apple ในขณะที่บางสื่อมองว่า Apple ต้องการลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ จึงมีฝ่ายที่ไม่พอใจและพยายามเรียกร้องให้ Apple แถมอะแดปเตอร์ชาร์จ หรืออย่างในประเทศบราซิลเองได้สั่งปรับ Apple กว่า 60 ล้านดอลลาร์ตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ที่แบรนด์ต้องแถมอุปกรณ์ให้ผู้ใช้อย่างครบถ้วนนั่นเอง
ล่าสุดนักศึกษาชาวจีนจำนวน 5 รายได้ยื่นเรื่องต่อศาลในกรุงปักกิ่ง เพื่อฟ้องร้อง Apple กรณีที่ไม่แถมอะแดปเตอร์ชาร์จในแพ็คเกจ iPhone 12 และ iPhone 12 Pro Max มาให้ ส่งผลให้พวกเขาไม่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ อีกทั้งยังไม่สามารถนำสายชาร์จ USB-C to Lightning มาใช้กับอะแดปเตอร์อื่น ๆ ได้ เนื่องจากอะแดปเตอร์อื่นยังคงใช้พอร์ต USB Type A (ลักษณะเหมือนช่องเสียบแฟลชไดรฟ์)
ส่วนทาง Apple ออกมาโต้แย้งว่า การขายสมาร์ทโฟนแยกกับอะแดปเตอร์ชาร์จสามารถพบได้ทั่วไปในหลาย ๆ แบรนด์แล้ว หมายความว่าแบรนด์อื่น ๆ อย่าง Samsung หรือ Xiaomi ที่ไม่แถมอะแดปเตอร์ชาร์จมาให้ก็น่าจะโดยร้องเรียนด้วยใช่หรือไม่?
เรื่องน่าสนใจของการฟ้องร้องในครั้งนี้ คือมีผู้ใช้บางคนไม่พอใจกับการตัดสินใจตัดอุปกรณ์ที่ "จำเป็น" สำหรับสมาร์ทโฟนออกไป ในขณะที่พวกเขาซื้อสมาร์ทโฟนอย่าง iPhone มาในราคาหลายหมื่นบาท แต่อะแดปเตอร์ที่มีราคาเพียง 500-600 บาทกลับไม่มีแถมมาให้ในกล่อง แล้วต้องให้กลายเป็นเรื่องฟ้องร้องอย่างในกรณีที่ผ่าน ๆ มา
กรณีฟ้องร้องดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากสาธารณะเป็นจำนวนมาก ทั้งในประเทศจีนรวมถึงในต่างประเทศด้วย ซึ่งคาดว่าผลการพิจารณาคดีจะนำไปสู่กับปรับปรุงกฎระเบียบและมาตรฐานการขายสินค้าในภูมิภาค ส่วน Apple จะต้องจะชนะหรือพ่ายแพ้ต่อคดีนี้หรือไม่ ต้องรอติดตามกันต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Techspot