Apple ทุ่ม 200 ล้านดอลลาร์ฟื้นฟูป่า หวังกำจัด CO2!
คาดว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านไอทีอย่าง Apple คงจะเกิดความกังวลว่าบริษัทจะสามารถทำให้ตัวเองเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutral การที่องค์กรมีการปลดปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเท่ากับศูนย์) ได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ในปี 2030 ได้หรือไม่ ล่าสุดจึงได้วางเดิมพันครั้งใหญ่โดยการทุ่มเงินกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหัรฐฯ ในการสนับสนุนด้านป่าไม้ หวังบรรลุเป้าหมายดังกล่าว
โดย Apple ร่วมกับ Conservation International และ Goldman Sachs ได้เปิดตัวกองทุน Restore Fund มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6,228,595,050.29 บาทไทย) เพื่อเป้าหมายในการกำจัดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) "อย่างน้อย" 1 ล้านเมตริกตันออกจากชั้นบรรยากาศในแต่ละปีผ่านการลงทุนในโครงการฟื้นฟูป่า
สิ่งที่บริษัททำไม่ใช่แค่การวางแผนปลูกป่าไม้แล้วหวังว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีตามมาเท่านั้น แต่ Apple ยังพึ่งหลักมาตรฐานในการจัดการกับ CO2 จาก UN Climate Convention, Verra และคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (Intergovernmental Panel on Climate Change หรือ IPCC) รวมทั้งยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่าโครงการนี้มุ่งเน้นไปการเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ที่ใช้งานได้ แต่ไม่ใช่เพื่อการอยู่อาศัย ซึ่งจะช่วยในเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพมากขึ้น
จากโครงการดังกล่าวคาดการณ์ว่าจะช่วยลดการปล่อย CO2 ได้เพียงแค่ 75% ภายในปี 2030 นี้ ดังนั้นการปรับปรุงผลิตภัณฑ์, ห่วงโซ่อุปทาน และการดักจับคาร์บอนจะเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับส่วนที่เหลือ อย่างไรก็ตาม หัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์ระหว่างประเทศ Dr. M. Sanjayan ได้โต้แย้งว่าวิธีที่เร็วที่สุดในการกำจัดคาร์บอนก็คือการฟื้นฟูตามธรรมชาติ ซึ่งให้ผลรวดเร็วและเป็นธรรมชาติมากที่สุดเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีอื่น ๆ ในปัจจุบัน
แน่นอนว่าการออกมาประกาศดังกล่าวของ Apple จะกลายเป็นจุดสนใจในช่วงวันคุ้มครองโลกนี้อย่างแน่นอน ซึ่งก็ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อการดูแลโลกอย่างชัดเจน และอาจจะส่งผลให้บริษัทอื่น ๆ สนใจทำตามก็เป็นได้
ขอบคุณข้อมูลจาก