วิกฤตน้ำท่วมอีสาน! คันดินขาด-ฝายพัง เจอทั้งภัยแล้ง-น้ำหลาก
ช่วงฤดูฝนนี้ หลายพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยประสบปัญหาน้ำท่วมหนัก ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นวงกว้าง ในหลายจังหวัดดูเหมือนว่าธรรมชาติกำลังทดสอบความแข็งแกร่งและการรับมือของมนุษย์กับพลังของน้ำ
คันดินอ่างเก็บน้ำขาด ท่วมพื้นที่เกษตรกว้าง
กรณีน่าตกใจเกิดขึ้นที่อ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม เมื่อคันดินกั้นน้ำขาดลงเป็นช่วงยาวถึง 50 เมตร ทำให้น้ำกว่า 5 ล้านลูกบาศก์เมตรไหลทะลักออกมาอย่างรวดเร็ว เข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนราษฎรเป็นบริเวณกว้าง คาดว่าจะกระทบพื้นที่เกษตรได้รับความเสียหายมากถึง 10,000 ไร่ ครอบคลุม 4 ตำบล นี่เป็นความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงของเกษตรกรที่คาดหวังผลผลิตในปีนี้ ทางชลประทานได้นำเครื่องจักรเข้าซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน และคาดว่าใน 5 วันสถานการณ์น่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ฝนตกหนัก น้ำป่าซัดพังฝายน้ำล้น
ที่จังหวัดชัยภูมิ ฝนตกหนักถึง 2 วันติดต่อกัน ทำให้เกิดน้ำป่าจากเทือกเขาพังเหยไหลบ่าลงมาด้วยแรงดันสูง จนซัดทำลายฝายน้ำล้นบ้านโนนม่วง ที่เป็นแหล่งสำคัญในการกักเก็บน้ำสำหรับผลิตน้ำประปาให้ชาวบ้าน 4 หมู่บ้าน กว่า 1,000 ครัวเรือน นอกจากนี้ยังมีการพังทลายของหน้าดินอย่างต่อเนื่อง สะพานยาว 30 เมตรที่พาดผ่านฝายฯ ก็ได้รับความเสียหายจนไม่สามารถสัญจรได้ ชาวบ้านเดือดร้อนหนักทั้งเรื่องน้ำกินน้ำใช้และการคมนาคม
น้ำล้นเขื่อน คลายวิกฤตภัยแล้ง
สถานการณ์มีทั้งด้านบวกและลบ ในขณะที่หลายพื้นที่เดือดร้อนจากน้ำท่วม แต่ที่เขื่อนลำปาวในจังหวัดกาฬสินธุ์ กลับได้รับผลดีจากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีน้ำไหลเข้าเติมอ่างกักเก็บจำนวนมากถึง 113 ล้านลูกบาศก์เมตรในช่วงเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนขยับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 665 ล้าน ลบ.ม. จากความจุทั้งหมด 1,980 ล้าน ลบ.ม. นับเป็นข่าวดีที่จะช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งที่เคยรุนแรงในปีก่อน และมีน้ำเพียงพอสำหรับอุปโภคบริโภคและทำการเกษตรต่อไป
น้ำล้นตลิ่ง ท่วมถนน บ้านเรือนประชาชน
อิทธิพลของร่องมรสุมในจังหวัดขอนแก่น ก่อให้เกิดฝนตกหนักจนมวลน้ำไหลบ่าจากคลองชีรองล้นตลิ่งเข้าท่วมถนนสายบ้านทุ่ม- มัญจาคีรี เป็นระยะทางยาวกว่า 300 เมตร นอกจากนี้ น้ำยังไหลเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านในชุมชน ซอย 10 ถนนหน้าเมือง จนต้องใช้กระสอบทรายมากั้น ส่วนที่ อ.บ้านไผ่ น้ำเออล้นจากลำห้วยเข้าท่วมบ้านประชาชนสูงถึง 1 เมตร ชาวบ้านบางส่วนเคลื่อนย้ายทรัพย์สินไม่ทัน เกิดความเสียหาย จนผู้นำท้องถิ่นต้องให้ความช่วยเหลือด้านอาหาร น้ำดื่ม และจัดตั้งเต็นท์อพยพ
ภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมในภาคอีสานครั้งนี้ มีความซับซ้อนในหลายพื้นที่ แม้น้ำที่ไหลบ่าจะนำมาซึ่งความเสียหายในวงกว้าง ทั้งที่อยู่อาศัย พื้นที่เกษตร รวมถึงระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ที่จะต้องได้รับการฟื้นฟูแก้ไขต่อไป แต่ในอีกด้านหนึ่ง น้ำจากฝนและจากป่าที่ไหลลงอ่างเก็บน้ำและเขื่อนใหญ่ กลับเป็นผลดีที่ช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งในฤดูหน้า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องชั่งน้ำหนักให้ดีในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน และมีผลกระทบน้อยที่สุด