ไม่รู้ใครยิง! กระบะซุก14แรงงาน ซิ่งหนีด่าน จนท.ขับตาม ก่อนพบเป็นศพท้ายรถ เจ็บอื้อ
ไม่รู้ใครยิง กระบะซุก14แรงงาน ซิ่งหนีด่าน จนท.ขับตามกระชั้นชิด ก่อนพบแรงงานถูกยิงดับ 1 โดนกระสุนเจ็บอีกหลายราย
วันที่ 6 พ.ค. 65 ร.ต.ท.เมธาสิฐ ณพัทลุง รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งว่า พบศพคนถูกยิงเสียชีวิตท้ายรถกระบะ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายราย บริเวณถนนสายบ้านหนองขาม - หนองนุ่น หมู่8 ต.เกาะหลัก จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน , ตำรวจพิสูจน์หลักฐานประจวบคีรีขันธ์ (พฐ.) , แพทย์เวรโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ , นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอหัวหิน , ปลัดอำเภอ และกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะ โตโยต้า จอดอยู่บนถนนคอนกรีตในชุมชนซึ่งเป็นถนนสายรอง ตรวจสอบพบกระจกด้านหลังและด้านหน้ามีร่องรอยถูกยิงด้วยกระสุนปืนจนเป็นรูหลายจุด ส่วนท้ายกระบะหลัง พบศพแรงงานชาวเมียนมา 1 ราย เพศชาย อายุ 35 ปี สภาพศพมีร่องรอยถูกยิง ด้วยอาวุธปืนลูกซอง เป็นรูขนาดเล็ก ๆ นับ 10 รู เข้าหลังและศีรษะนอนเสียชีวิต
นอกจากนั้นยังพบแรงงานบาดเจ็บถูกยิงอีก 3 ราย เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถาน นำส่งโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ให้แพทย์รักษา ส่วนที่เกิดเหตุยังพบแรงงานแอบซ่อนตัวอยู่ในสวนมะพร้าวข้างทางด้วยความตกใจอีก 10 คน เป็นหญิง 6 คนและชายอีก 4 คน รวมมีแรงงานในรถคันดังกล่าวทั้งหมด 14 คน
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุรถกระบะคันดังกล่าวได้รับการว่าจ้างจากนายทุนให้ไปรับแรงงาน บริเวณช่องทางธรรมชาติ ในพื้นที่ ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบฯ ใกล้กับชายแดนไทยเมียนมา ซึ่งได้หลบซ่อนตัวในสวนปาล์มมานานหลายวันแล้ว เมื่อขับออกมาเจอด่านตรวจชุมชน ในช่วงเช้ามืด พบว่าคนขับได้เร่งความเร็วซิ่งหนีด่านตรวจออกมาได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ประจำด่านได้ขับรถติดตามอย่างกระชั้นชิด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ติดตามมาจนพบรถกระบะคันดังกล่าว ถูกจอดทิ้งไว้ริมถนน และตรวจพบศพแรงงานข้ามชาติถูกยิงเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายรายดังกล่าว ขณะที่แรงงานเมียนมาให้ข้อมูลว่า ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ทุกคนต่างตกใจกลัวจนนอนหมอบกับพื้นรถ ส่วนผู้ตายที่อยู่ท้ายกระบะได้ลุกขึ้น เพื่อดูเหตุการณ์ทำให้ถูกยิง
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ด่านตรวจ ถนนทุกสายที่รถขับผ่าน พร้อมตรวจสอบวิถีกระสุน เพื่อค้นหาตัวคนร้ายติดตามมาดำเนินคดีต่อไป