Impulse Space เผยแผนภารกิจ “Helios” ส่งสัมภาระ 6 ตันไปดวงจันทร์ปี 2028

อิมพัลส์ สเปซ (Impulse Space) เป็นบริษัทสตาร์ตอัปด้านเทคโนโลยีอวกาศในสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งโดย ทอม มูลเลอร์ (Tom Mueller) อดีตหัวหน้าวิศวกรระบบขับดันของ SpaceX ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอิมพัลส์ สเปซ (CEO of Impulse Space) ได้ประกาศแผนครั้งใหญ่ เตรียมใช้เทคโนโลยีของบริษัท ในการขนสัมภาระน้ำหนักรวมสูงสุด 6 ตันต่อปีขึ้นสู่ดวงจันทร์ ภายในปี 2028 เพื่อเติมเต็มช่องว่างของตลาดการขนส่งภารกิจขนาดกลางที่ยังไม่มีผู้ให้บริการในปัจจุบัน
ที่มาของภาพ
Impulse Space
ระบบ “Helios” และยานลงจอดดวงจันทร์รุ่นใหม่
อิมพัลส์ สเปซ (Impulse Space) เตรียมผสานการทำงานของ ยานลงจอดบนดวงจันทร์รุ่นใหม่ เข้ากับระบบขับดันขั้นสูง ฮีลิออส (Helios) หรือระบบขับดันเสริมพลังงานสูง (Kick Stage) ซึ่งมีพลังงานสูงเพียงพอในการขนสัมภาระหลายตันไปถึงพื้นผิวดวงจันทร์ โดยไม่ต้องเติมเชื้อเพลิงระหว่างวงโคจร
ที่มาของภาพ
Impulse Space
ภายใต้สถาปัตยกรรมภารกิจของ อิมพัลส์ สเปซ (Impulse Space) นั้น ระบบประกอบด้วย ยานลงจอดบนดวงจันทร์ (Lunar Lander) และ ระบบขับดันขั้นสูง “Helios” Kick Stage ที่ทำหน้าที่คล้ายยานลากขนส่ง เมื่อทั้งสองถูกปล่อยขึ้นสู่วงโคจรต่ำของโลกโดยจรวดขนส่งทั่วไป ฮีลิออส (Helios) จะทำหน้าที่พายานลงจอดเดินทางต่อไปยังวงโคจรต่ำของดวงจันทร์ ใช้เวลาประมาณ 7 วัน ก่อนที่ยานทั้งคู่จะแยกจากกัน ให้ ยานลงจอดบนดวงจันทร์ (Lunar Lander) ร่อนลงสู่พื้นผิวดวงจันทร์เพื่อส่งมอบสัมภาระ
ที่มาของภาพ
Impulse Space
เติมเต็ม “ช่องว่างสำคัญ” ในระบบขนส่งดวงจันทร์
ที่มาของภาพ
Impulse Space
อิมพัลส์ สเปซ (Impulse Space) ระบุว่า ความสามารถนี้จะช่วยอุดช่องว่างในโลจิสติกส์ของภารกิจดวงจันทร์ สำหรับสัมภาระขนาด 0.5–13 ตัน ซึ่งใหญ่เกินไปสำหรับโครงการขนส่งสัมภาระเชิงพาณิชย์สู่ดวงจันทร์ (Commercial Lunar Payload Services - CLPS) ของ องค์การนาซา (NASA) แต่เล็กเกินไปสำหรับยานขนส่งขนาดใหญ่ของ สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) และ บลูออริจิน (Blue Origin) โดยกลุ่มสัมภาระเป้าหมายอาจรวมถึง รถสำรวจ (rover), โมดูลที่พักอาศัย, เครื่องกำเนิดไฟฟ้า, ระบบสื่อสาร, หรือแม้แต่ รถขับเคลื่อนบนพื้นผิวดวงจันทร์
ที่มาของภาพ
Impulse Space
เทคโนโลยีเครื่องยนต์จากประสบการณ์ SpaceX
ที่มาของภาพ
Impulse Space
อิมพัลส์ สเปซ (Impulse Space) นำความเชี่ยวชาญด้านเครื่องยนต์อวกาศมาพัฒนาเครื่องยนต์ยานลงจอดที่ใช้เชื้อเพลิงชนิดเดียวกับระบบขับดัน ระบบขับดัน “ไซฟ์” (Saiph thrusters) ของยานมีร่า (Mira) รุ่นเล็กของบริษัท ขณะเดียวกัน ระบบ ฮีลิออส (Helios) ก็อยู่ในขั้นพัฒนาอย่างเข้มข้น โดยมีแผนบินทดสอบเที่ยวแรกในช่วง ปลายปี 2026 และจะพร้อมใช้งานเชิงพาณิชย์หลายเที่ยวต่อปีภายใน ปี 2028
ความท้าทายและความหวังสู่การขนส่งอวกาศยุคใหม่
ที่มาของภาพ
Impulse Space
แม้ อิมพัลส์ สเปซ (Impulse Space) จะยอมรับว่ายังมีความท้าทายสูงโดยเฉพาะการออกแบบเครื่องยนต์ที่ต้องควบคุมแรงขับละเอียดในสุญญากาศและสามารถสตาร์ตได้หลายครั้งแต่บริษัทก็ยืนยันว่า “พร้อมดำเนินการตามความต้องการของอุตสาหกรรม” หากแผนนี้ประสบความสำเร็จ จะถือเป็นก้าวสำคัญในการเปิด ยุคใหม่ของการขนส่งสัมภาระสู่ดวงจันทร์ ที่คุ้มค่าและต่อเนื่อง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
