‘แบงก์’ปันผลครึ่งปีฉ่ำ ชูTTBพอร์ตปึ้กยิลด์สูง

#BANK  #ทันหุ้น – กลุ่มแบงก์ ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลปี 2568 สูงกว่าคาด  “SCB- KBANK- TISCO-BBL” จ่าย 2 บาทต่อหุ้น  ด้านนักวิเคราะห์ประเมินผลงานมีแนวโน้มชะลอตัวลง กดดันจากพอร์ตสินเชื่อหดตัวต่อเนื่อง ผลกระทบจากการทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ย้ำสถานะหุ้นปันผลสูง ชู TTB  เด่น เหตุ คุณภาพสินเชื่อแกร่ง-คาดยิลด์ 6.9%

กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (แบงก์)ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรก 2568 (1 ม.ค. – 30 มิ.ย.2568) นำโดยบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ปันผล 2 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 2 ก.ย. กำหนดจ่าย 19 ก.ย. 2568  ,ธนาคารกสิกรไทย (KBANK ) ปันผล 2 บาทต่อหุ้นขึ้น XD วันที่ 10 ก.ย. กำหนดจ่าย 26 ก.ย. 2568

ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP)ปันผล 1.50 บาทต่อหุ้นขึ้น XD วันที่ 11 ก.ย.  กำหนดจ่าย  25 ก.ย. 2568 ,ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ปันผล 0.40 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 10 ก.ย. กำหนดจ่าย 25 ก.ย. 2568บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป  (TISCO) ปันผล 2 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 11 ก.ย. กำหนดจ่าย วันที่ 25 ก.ย. 2568  และ ธนาคารกรุงเทพ (BBL)ปันผละ 2 บาทต่อหุ้น  ขึ้นเ XD วันที่  10 ก.ย. และกำหนดจ่ายวันที่  26 ก.ย.

@ปันผลสูงตามคาด

 นายตฤณ สิทธิสวัสดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุธนาคารพาณิชย์ 7 ธนาคารที่นำร่องประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราสูงกว่าที่ประมาณการไว้  ซึ่งเป็นไปตามการประเมินของตลาดว่ากลุ่มธนาคารพาณิชย์จะพิจารณาจ่ายเงินปันผล (Dividend Payout Ratio) ในอัตราที่มากขึ้นเพื่อดึงดูดและรักษาความเชื่อมั่นของนักลงทุนว่าผลประกอบการในอนาคตยังแข็งแกร่ง ไม่จำเป็นต้องเก็บกำไรสะสมไว้มากเกินไป

อย่างไรก็ตามด้วยภาวะเศรษฐกิจไทย และเศรษฐกิจโลกที่ยังเผชิญความท้าทายสูง ธนาคารพาณิชย์ทุกสถาบันฯ ต่างชะลอการปล่อยสินเชื่อมาต่อเนื่องตลอดกว่า 2 ปีที่ผ่านมา สะท้อนจากรายงานกลุ่มธนาคารพาณิชย์ 1.1 ประจำเดือนกรกฏาคม 2568 สรุปภาพของสินเชื่อของธนาคารภายใต้ Coverage พบว่าสินเชื่อรวมของกลุ่มลดลง 0.6% MoM (ลดลง 1.1% YoY และตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) ลดลง 1.1%) การปล่อยสินเชื่อทุก Segment ปรับตัวลง สะท้อนโยบายบายคุมเข้มสินเชื่อของธนาคาร ประกอบกับลูกค้าสินเชื่อบริษัทใหญ่ชะลอการลงทุนออกไป กดดันให้สินเชื่อของ BBIปรับลงแรงกว่ากลุ่ม

@สินเชื่อชะลอ

โดยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ปรับลดลง 0.6% MoM, และลดลง 0.1% YoY สะท้อนภาพการชะลอตัวของสินเชื่อของบริษัทใหญ่ (Corporate Loan) เพราะในช่วงที่มีเศรษฐกิจเผชิญความไม่แน่นอนสูงจากทั้งกำแพงภาษีของสหรัฐฯ และแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศที่ซบเซาลง ส่งผลต่อการตัดสินใจชะลอโครงการลงทุนเพื่อรอความชัดเจน โดยเฉพาะ BBL สินเชื่อชะลอตัวมากที่สุด ลดลง 1.8% MoM, และลดลง -0.5% YoY ส่วน SCB ยังสามารถเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.01% MoM, แต่ลดลง 1.9% YoY, ขณะที่ KTB สินเชื่อยังทรงตัว MoM

ขณะที่ภาพรวมการปล่อยสินเชื่อของธนาคารขนาดกลาง/เล็กลดลง 0.5% MoM, และลงด 5.7% YoY กดดันจากสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือหนึ่งและมือสองยังชะลอตัว

@คาดQ3กำไรยังชะลอตัว

นายตฤณ คาดการณ์กำไรสุทธิงวดไตรมาส 3/2568 กลุ่มธนาคารพาณิชย์มีแนวโน้มลดลงทั้ง YoY และ QoQ กดดันจากรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิ  พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การที่เงินฝากของกลุ่มธนาคารพาณิชย์กลับมาขยายตัวราว 0.4% MoM แต่ธนาคารฯ ไม่ได้นำไปขยายพอร์ตสินเชื่อส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยรับจะยังคงชะลอตัว แต่กลับใช้วิธีพักเงินในตลาดเงินแทน ทำให้ผลตอบแทบแทนที่ได้ไม่สูงเท่าที่ควร ประกอบกับเริ่มได้รับผลกระทบจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อีกหนึ่งครั้งในเดือนสิงหาคม 2568 (ปีนี้ปรับลดลงแล้ว 3 ครั้ง)

ดังนั้นส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยและรายได้ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับสินเชื่อมีทิศทางปรับลงต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี  ซึ่งธนาคารพาณิชยืพยายามชดเชยด้วยกำไรจากเงินลงทุนที่ปรับขึ้นตามภาวะตลาด และการคุมค่าใช้จ่ายตั้งสำรองในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 (2H68) หลังธนาคารใหญ่มีการตั้งสำรองเพื่อรองรับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจไว้ล่วงหน้าแล้วใน 1H68 ที่ผ่านมา

เบื้องต้นคาดการณ์กำไรสุทธิรวมทั้งปี 2568 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ 207,842 ล้านบาท ลดลง 3.1% YoY คงคำแนะนำ "เท่ากับตลาด" เนื่องจากหุ้นธนาคารพาณิชย์ยังมีความน่าสนใจในฐานะหุ้นปันผลสูง เลือก TTB เป็น Top Pick ของกลุ่มราคาเหมาะสม 2.12 บาท จากความสามารถในการควบคุมคุณภาพสินเชื่อปล่อยใหม่ได้ดี และได้รับผลกระทบจากดอกเบี้ยขาลงน้อยกว่าธนาคารใหญ่เพราะมีสัดส่วนสินเชื่อดอกเบี้ยคงที่ราว 30% ของสินเชื่อรวม อีกทั้งคาดอัตราการจ่ายปันผลระหว่างกาลที่ 0.06 บาทต่อหุ้น คิดเป็น DiV. Yeld 3% สูงที่สุดในกลุ่ม ส่วนทั้งปีคาดเงินปันผลหุ้นละ 0.13 บาท คิดเป็น Div. Yeld ทั้งปีที่ 6.9% โดยที่ไม่รวมโครงการซื้อหุ้นคืนที่คาดจะดำเนินต่อตามแผนซื้อหุ้นคืนต่อเนื่อง 3 ปี