5 โบรกเคาะ 13 หุ้นพื้นฐานดี!!!
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ผลการประชุม Fed เมื่อคืนนี้ มีใจความสำคัญ คือ 1. คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.00-0.25% ตามคาด2.ประกาศ Tapering ด้วยการลดวงเงิน US$1.5 หมื่นล้าน ต่อเดือน แบ่งเป็น พันธบัตร US$1 หมื่นล้าน และ MBS US$5 พันล้าน ตามคาดเช่นกัน เริ่มต้นในเดือนนี้
3. อัตราการทำ Tapering สามารถปรับเปลี่ยนได้ในอนาคต ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ แต่เบื้องต้น Fed คาดว่า โครงการ QE จะสิ้นสุดช่วงกลางปีหน้า 4. Fed ยังเชื่อว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อมาจากปัจจัยชั่วคราว แต่มีความไม่แน่นอนว่า การกลับเข้าสู่ภาวะสมดุล จะเกิดขึ้นเมื่อใด
ด้านผลตอบรับของตลาด พบว่า Dollar Index อ่อนค่า 0.26% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 1.61%, ราคาทองคำ ปรับตัวลง 1%, ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับตัวลงแรง 3%
ทั้งนี้เรามีมุมมองเป็นกลางต่อผลการประชุม Fed ซึ่งออกมาใกล้เคียงกับคาดการณ์ของตลาด ทำให้เราเชื่อว่า SET INDEX วันนี้ มีโอกาสฟื้นตัวหลังจาก Overhang คลายตัว แต่ Upside ถูกจำกัดด้วยการปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหว 1,605-1,620 จุด
สำหรับหุ้นเด่นวันนี้มี 4 ตัว นำโดย SMT เราคาดกำไรปกติ 3Q64 ที่ 58 ลบ. เติบโต +34% YoY และ +4% QoQ จากการเติบโตยอดขายอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ 4Q64 คาดกำไรจะเร่งตัวขึ้นเป็น 75 ลบ. เติบโต +132% YoY และ +29% QoQ จากปัญหาด้านการจัดหา Raw Material ที่ดีขึ้น
ผลจากการปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ของบริษัทในปี 2565 ขึ้น ส่งผลให้เราปรับประมาณการกำไรปี 2565 ขึ้นเป็น 344 ลบ. เติบโต +34% YoY ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER2565 ราว 17.5 เท่า อิง EPS2565 ที่ 0.37 บาท เทียบกับ DELTA ที่ 56.9 เท่า, KCE 32.6 เท่า และ HANA ที่ 23.4 เท่า
หุ้นเด่นถัดมาคือ BEC ภาพทางเทคนิค แนวต้าน 12.50 บาท แนวรับ 12.00 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 11.70 บาท เราคาดกำไรปกติ 3Q64 ที่ 145 ลบ. เติบโต +141% YoY แต่ลดลง -21% QoQ และมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว คือ การเข้าซื้อขายของหุ้น IPO คือ ONE ในวันศุกร์นี้ ช่วยหนุน Sentiment เชิงบวกต่อการลงทุน
หุ้นเด่นอีกตัว BBL เรามีมุมมองบวกหลังเข้าประชุมกับผู้บริหาร โดย Key Catalyst สำคัญ คือการตั้งเป้าหมายสำรองของปี 2564 ที่ 2.8 หมื่นลบ. เทียบกับ 9M64 ที่ 2.6 หมื่นลบ. สะท้อนถึงแนวโน้มการตั้งสำรองที่จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญใน 4Q64 เหลือราว 2-3 พันลบ. เทียบกับ 3 ไตรมาสก่อนหน้าที่ราวไตรมาสละ 9 พันลบ.
ดังนั้นเราคาดว่ากำไร 4Q64 จะเติบโต YoY และ QoQ และมีโอกาสเติบโต YoY ทุกไตรมาสใน 4 ไตรมาสข้างหน้า ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PBV ต่ำเพียง 0.5 เท่าสะท้อนถึง Downside Risk ที่จำกัด
หุ้นเด่นสุดท้าย SCC เราคาดว่าราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลง เป็น Sentiment บวกต่อSCC SCC จากส่วนต่างราคาปิโตรเคมีที่มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น QoQ ช่วยหนุนผลประกอบการ 4Q64 รวมทั้งธุรกิจวัสดุก่อสร้างผ่าน Low Season ในฤดูฝน และการเปิดเมืองหลัง COVID ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PBV เพียง 1.3 เท่า เทียบเท่าระดับ -2.0SD ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง และปี 2565 มีปัจจัยบวกจากการ Spin off ธุรกิจปิโตรเคมีเข้าจดทะเบียน IPO และเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดีราว 4.5%
บล.เอเซีย พลัส มอง SET Index วันนี้คาดว่าดัชนีเคลื่อนไหว 1,607 -1,630 จุด
หุ้นเด่นวันนี้มี 4 ตัวนำโดย SMT(FV@8.0) ทิศทางธุรกิจจะฟื้นตัวชัดเจนฝ่ายวิจัยกลับมาติดตาม SMT ที่เป็นผู้ให้บริการผลิตและประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ครบวงจร โดยใช้เครื่องจักรที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง รองรับชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความซับซ้อน ความละเอียดและแม่นนำสูง โดยบริษัทได้เปลี่ยนรูปแบบการบริหารใหม่ทั้งหมด ทำให้สามารถพลิกธุรกิจากขาดทุนเป็นกำไรได้ในปีตั้งแต่ 2563
ฝ่ายวิจัยคาดกำไรสุทธิปี 2564-66 ของ SMT จะเติบโตถึง 179.3% yoy 36.2% yoy และ 31.3% yoyตามลำดับ หลักๆมาจากยอดขายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดด
เด่น การเน้นหาลูกค้าใหม่และคำสั่งซื้อจากลูกค้าเก่าเพิ่มขึ้น และแนวโน้มความต้องการใช้ชิ้นส่วนที่ยังเติบโต
หุ้นเด่นอีกตัวคือ CPALL(FV@70.5) คาดกำไรไตรมาส3 ปี 64 อยู่ที่ 2.34 พันล้านบาทแม้ลดลง 41.5%yoy จากผลกระทบล็อคดาวน์กด SSSG ร้านสะดวกซื้อลดลง 10% yoy และต้นทุนดอกเบี้ยซื้อโลตัสแต่น่าจะเป็นจุดต่ำสุดจากที่จะยังเห็นกำไรฟื้นตัว 6.9% QOQ จากการรีไฟแนนซ์เงินกู้ซื้อโลตัสทำให้ดอกเบี้ยจ่ายลดลง
ไตรมาส4Q64 คาดฟื้นตัว QOQ จากกิจกรรมเศรษฐกิจกลับมาการคลายเคอร์ฟิวและเปิดท่องเที่ยวสูงกว่าผลกระทบช่วงรอยต่อปรับโครงสร้างธุรกิจค้าปลีกในกลุ่ม ซึ่งจะมีผลกระทบการซื้อหุ้นซึ่งจะมีผลกระทบการถือหุ้นแม็คโครลดลงแต่จะถูกชดเชยหลังแม็คโครขายหุ้น PO ผลบวกเศรษฐกิจ + การขยายเร่งขึ้นหนุนกำไรปี 2565 ถึง 2566 ฟื้น 65% และ 19% หุ้นยังมีอัพไซด์แนะนำซื้อ
หุ้นเด่นตัวสุดท้าย TIDLOR(FV@44.0) ธุรกิจกลับมาฟื้นตัวแล้ว น่าทยอยสะสมแนวโน้มกำไสุทธิงวด 3Q64 จะฟื้นตัวจากงวด 2Q64 อานิสงค์จากการคลาย lock down ในเดือนก.ย. 64หนุนแนวโน้มสินเชื่องวด 3Q64 เติบโตต่อเนื่อง ซึ่งยังเห็นการเติบโตต่อเนื่องตั้งแต่ต้นงวด 4Q64 ซึ่งเป็นช่วง high season ของการปล่อยสินเชื่อและการขายประกันอยู่แล้วจึงคาดกำไรสุทธิงวด 4064 จะเติบโตต่อเนื่อง ทั้ง QOQและ YoY
ส่วนแนวโน้มกำไรสุทธิปี 2564-65 จะเติบโต 26% yoy และ28% yoy จากสินเชื่อและรายได้ค่านายหน้าประกันภัยเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ราคาหุ้นปรับฐานไปกว่า 37% ในรอบ 5 เดือน จนราคาหุ้นปัจจุบันต่ำกว่าราคา IPO แล้วสะท้อนความกังวลเสี่ยงเศรษฐกิจชะลอตัวไปมากแล้วกำหนด FV ปี 2565 เท่ากับ 44 บาท มี Upside สูง 20%
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโส บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า วันนี้คาด SET ฟื้นตัว ในกรอบแนวรับ 1,608 จุด และแนวต้าน
1,630 จุด เน้นหุ้นที่แนวโน้มกำไรเด่น
โดยหุ้นเด่นวันนี้แนะนำ JMTคาดกำไรสุทธิ 3Q64 ที่ 310 ล้านบาท (7%QoQ , +9%YoY) เติบโตสวนทางกลุ่มการเงิน โดยฟื้นแบบ V-shape ในเดือน ก.ย. และกองหนี้ที่ตัดต้นทุนหมดเพิ่มขึ้น หนุนอัตรากำไรขั้นต้น +70bps และคาดกำไร4Q64 จะทำจุดสูงสุดใหม่ 400 ล้านบาท และปี 65 กำไรจะเร่งขึ้นอีก 37%
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 58 บาท
หุ้นเด่นแนะนำอีกตัวคือ BH รายงานกำไร 3Q64 ที่ 295 ล้านบาท(+36%Q00, +33%YoY) ดีกว่า คาด 22% แรงหนุนจากรายได้ทีเกี่ยวข้องกับ COVID โดยในช่วงถัดไปคาดผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวขึ้น รับการเปิดประเทศที่ช่วยหนุนผู้ป่วยต่างชาติ ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 70% ของรายได้ BH ให้เร่งตัวขึ้น
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 160 บาท
บล.ไทยพาณิชย์ มองว่า เฟดลด QE ตามคาด แต่ยังไม่ระบุการขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ตลาดไม่กังวลนัก ด้านราคาน้ำมันปรับลง แม้กดดันกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามให้ติดตามแนวรับสำคัญ 1,600 จุด หากยืนได้คาดว่าดัชนีมีโอกาสฟื้นตัว นอกจากนี้ตลาดดูยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ ทำให้กรอบบนจำกัดที่ 1,616-1,622 จุด ดังนั้นมองการเคลื่อนไหวจะแกว่งในกรอบ 1,600-1,622 จุด กลยุทธ์การลงทุนใช้การ Selective Buy หรือเก็งกำไรอย่างระมัดระวัง
พอร์ตหลัก 1. หุ้น Defensive ที่ราคาหุ้นยัง laggard เลือก ADVANC, BEM ,BGRIM, GPSC 2. หุ้นที่คาดกำไร 3Q64 ดีทั้ง YoY, QoQ เลือก BDMS, RJH
พอร์ตเทรดดิ้ง เก็งกำไรหุ้นกลุ่มพลังงานเมื่อย่อตัวจากประชุม OPEC+ และการเจรจานิวเคลียร์อิหร่าน เลือก PTTEP
หุ้นเด่นวันนี้แนะนำซื้อ /Long BH (ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 168.00 บ.) หลังงบ 3Q64 ออกมาดีกว่าคาด และ trading สั้น BANPU หลังราคาถ่านหินในจีนและออสเตรเลียรวมทั้งราคาก๊าซในยุโรปรีบาวด์ แนะนำขาย/Short หุ้นเดินเรือ TTA, PSL หลังดัชนี BDI ปรับลง 10 วันต่อเนื่อง
ขณะที่ บล.กสิกรไทย มองเป้าดัชนีวันนี้ 1,600-1,630 หุ้นเด่นนำวันนี้แนะนำ SIRI ราคาปัจจุบัน 1.31บาท เป้าหมาย 1.43 บาท หุ้นเด่นตัวต่อมาคือ HMPRO ราคาปัจจุบันที่ 14.90 บาท เป้าหมาย 15.60 บาท หุ้นเด่นตัวสุดท้ายคือ TIDLOR ราคาปัจจุบันที่ 36.75 บาท เป้าหมาย 38.50 บาท
ข้อมูล : Tnn Online