หุ้น STA ดีดขึ้น หลังงบ Q2 พลิกมีกำไร 628 ลบ. โบรกฯ ชี้ดีกว่าคาด

#STA #ทันหุ้น-หุ้นบริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA ราคาดีดขึ้น 4.04% หลังประกาศงบไตรมาส 2/67 พลิกมีกำไร 628 ล้านบาท ซึ่งดีกว่าที่โบรกเกอร์คาด โดย"ทรีนีตี้"มองกำไรปี 2567-2568 เติบโต แนะนำซื้อเก็งกำไร ให้ราคาเป้าหมาย 23.80 บาท ด้านผู้บริหารประเมินแนวโน้มไตรมาส 3/67 ยังมีการเติบโตต่อเนื่อง
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น STA อยู่ที่ 20.60 บาท บวก 0.80 บาท หรือ 4.04% โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 355.54 ล้านบาท
บล.ทรีนีตี้ ระบุว่า STA รายงานผลดำเนินงานงวดไตรมาส 2/67 มีกำไรสุทธิที่ 628 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 330 ล้านบาท ในงวดเดียวกันปีก่อน ซึ่งกำไรโตเกินคาดจาก Margin ที่สูงขึ้น โดยรายได้จากยางธรรมชาติในไตรมาส 2/67 อยู่ที่ 2.0 หมื่นล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 14% QoQ และ 22.6% YoY หนุนโดยยอดสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มลูกค้า Non -China และในไตรมาส 2/67 มียอดขายจากยาง EUDR ที่ 1,541 ตันและรอส่งมอบอีก 7,000 ตัน
ขณะที่รายได้จากการขายถุงมือยางในไตรมาส 2/67 อยู่ที่ 5.7 พันล้านบาท ปรับตัวลดลง 5.6% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 17.8% YoY
ฝ่ายวิจัยยังคงคาดการณ์กำไร STA ในปี 2567 ที่ 2.3 พันล้านบาท และปี 2568 ที่ 2.9 พันล้านบาท หนุนโดย Margin ที่สูงขึ้นจากยาง EUDR
โดยได้ปรับคำแนะนำเป็นซื้อเก็งกำไร ให้ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 23.80 บาท
นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่และกรรมการบริหาร บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA ผู้นำธุรกิจยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลกและผู้ผลิตถุงมือยางอันดับหนึ่งของประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/67 ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งจากไตรมาสก่อนหน้า โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 25,820.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.0% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และกลับมาทำกำไรสุทธิ 628.4 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่มีผลขาดทุน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับสูงที่ 12.2% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าอยู่ที่ 7.9%
โดยมีปัจจัยมาจากดีมานด์และราคาขายเฉลี่ยยางธรรมชาติในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการปรับราคาขายถุงมือยางให้สอดคล้องกับต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงยอดขายยาง EUDR และการเข้าสู่ฤดูการเปิดกรีดยางตามปกติของประเทศไทยในเดือนมิถุนายน ตลอดจนการเพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการและขยายตลาดเพื่อเพิ่มยอดขาย
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีปริมาณการขายยางธรรมชาติไตรมาส 2/2567 เกือบ 3.3 แสนตัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าอยู่ที่กว่า 3.18 แสนตัน ส่วนราคาขายยางธรรมชาติทุกประเภทเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 9% จากไตรมาสก่อนหน้า และบริษัทฯ เริ่มมีคำสั่งซื้อยาง EUDR จากลูกค้าหลากหลายประเทศ อาทิ ประเทศในสหภาพยุโรป ญี่ปุ่น อเมริกา อินเดีย จีน ฯลฯ และทยอยส่งมอบแก่ลูกค้าแล้ว ซึ่งยาง EUDR ดังกล่าวมีมูลค่าสูง เนื่องจากเป็นยางที่จะต้องตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) แหล่งที่มาของผลผลิตว่าไม่ได้อยู่ในพื้นที่เกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่าและไม่ได้อยู่ในพื้นที่บุกรุกป่า ตามกฎหมายว่าด้วยสินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่าหรือ EU Deforestation Regulation (EUDR) ซึ่งสหภาพยุโรปจะเริ่มบังคับใช้ภายในสิ้นปี 2567
**มั่นใจ Q3 โตต่อเนื่อง
ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการรวม 49,498.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และกลับมามีกำไรสุทธิ 298.7 ล้านบาท อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งในด้านดีมานด์ยางธรรมชาติในตลาดโลกและความต้องการสั่งซื้อยาง EUDR ที่มีอย่างต่อเนื่อง ทั้งผลิตภัณฑ์ยางแท่งและน้ำยางข้น จากลูกค้าในยุโรป อเมริกา จีน ญี่ปุ่น อเมริกาและอื่นๆ มีความมั่นใจว่าจะทำผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 ได้ดีและกลับมามีกำไรสุทธิต่อเนื่องจากไตรมาส 2/2567 โดยบริษัทฯ คาดการณ์ปริมาณการขายยางธรรมชาติ 6.2 - 6.3 แสนตัน หรือเฉลี่ยไตรมาสละ 3.1 – 3.2 แสนตันในครึ่งปีหลังของปีนี้ ในจำนวนนี้คาดว่าจะมีปริมาณคำสั่งซื้อยาง EUDR ประมาณ 15-20% ของคาดการณ์ปริมาณการขายยางธรรมชาติทุกประเภทเกิดขึ้นในไตรมาส 3/2567 โดยบริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมระบบตรวจสอบย้อนกลับผ่านแอปพลิเคชัน “Sri Trang Friends” (ศรีตรังเพื่อนชาวสวน) ของบริษัทฯ พร้อมทั้งเปิดตัว “ยางมีพิกัด (GPS)” ไปแล้วก่อนหน้านี้ และเตรียมการรองรับการตรวจและประเมินสินค้าจากซัพพลายเออร์ (Supplier Due Diligent)
ส่วนแนวโน้มภาพรวมอุตสาหกรรมยางธรรมชาติครึ่งปีหลัง คาดว่ามีดีมานด์ในระดับเดียวกับครึ่งปีแรกอย่างต่อเนื่อง โดยต้องติดตามผลจากปรากฏการณ์ลานีญาที่ทำให้มีฝนตกมากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่า จะส่งผลในเชิงบวกให้ต้นยางได้รับความชุ่มชื้นและมีผลผลิตเพิ่มขึ้น หรือกระทบในเชิงลบทำให้มีจำนวนวันกรีดยางลดลงและเป็นความเสี่ยงของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
