เปิดโผหุ้นปันผลน่าสะสม SCC-AP-MCS-TISCOเด่น
ทันหุ้น – นักวิเคราะห์สำรวจไตรมาส 1 ของทุกปี ดัชนี SETHD จะปรับตัวดีกว่า SET แนะดักเก็บหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่ง ปันผลสูง ราคามีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายมากกว่า 10% ชี้เป้า SCC-AP-MCS-ADVANC-TISCO คาดอัตราการจ่ายเงินปันผลระหว่าง 3-8%
นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการเก็บสถิติย้อนหลัง 5 ปีฝ่ายวิเคราะห์พบว่าช่วงไตรมาส 1 ของทุกปีดัชนี SETHD (SET High Dividend Index) จะปรับตัวขึ้นได้เฉลี่ยประมาณ 8.2% ดีกว่า SET (ดัชนีตลาดหลักทรัพย์) ที่จากสถิติจะปรับตัวขึ้นได้ประมาณ 4.4% โดยช่วงสัปดาห์แรกของปี เป็นช่วงที่ควรเข้าซื้อหุ้นปันผล ที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง กลุ่มหุ้นปันผลจึงเป็นหุ้นที่ควรเข้าสะสมในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกที่ตลาดเปิดซื้อ-ขาย เพื่อรอรับผลตอบแทนทั้งจากเงินปันผล และส่วนต่างราคาหุ้น”
*คัดหุ้นปันผลเด่น
ฝ่ายวิเคราะห์จึงคัดหุ้นที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลสูง, ปัจจัยพื้นฐานดี, ราคายังมี Upside มาให้นักลงทุนพิจารณาเข้า “ซื้อสะสม” เพื่อรอรับเงินปันผล และยังได้ส่วนต่างราคาหุ้นในระดับที่น่าพอใจหลากหลายกลุ่มอาทิ AP แม้การเปิดโครงการใหม่หลายโครงการจะส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มขึ้น แต่คาดว่ากำไรสุทธิทั้งปี 2564 จะสูงถึง 4.35 พันล้านบาท อีกทั้งโครงการใหม่จะเป็นปัจจัยหนุนกำไรทั้งปี 2565 ให้เพิ่มขึ้นได้อีก 3.8% แตะ 4.52 พันล้านบาท หนุนศักยภาพการจ่ายเงินปันผลที่ระดับเฉลี่ย 5% อีกทั้งราคาซื้อ-ขาย ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2564 มี Upside จากราคาเหมาะสมที่ 11.50 บาท ถึง 21.7%
TISCOฝ่ายวิจัยคาดกำไรสุทธิงวดไตรมาส 4/2564 ที่ 1.63 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.5% เมื่อเทียกับงวดไตรมาส 3/2564 (QoQ) หนุนจากรายได้ค่าธรรมเนียม และการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้กำไรสุทธิทั้งปี 2564 แตะ 6.5 พันล้านบาท พร้อมคาดกำไรสุทธิทั้งปี 2565 ขยายตัว 5.5% YoY หรือประมาณ 6.8 พันล้านบาท ขับเคลื่อนโดยสินเชื่อรถยนต์มือสอง และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ รวมถึงการตั้งสำรอง Credit Cost ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2564 ฝ่ายวิเคราะห์คาดอัตราการจ่ายเงินปันผลทั้งปี 2564 ประมาณ 7.6% ราคาซื้อ-ขาย ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2564 มี Up Sideจากราคาเหมาะสมที่ 104 บาทประมาณ 10%
*SCC-MCS-ADVANC เข้าตา
SCC คาดผลการดำเนินงวดไตรมาส 4/2564 ฟื้นตัวได้ทุกกลุ่มธุรกิจ โดยธุรกิจปิโตรเคมีฟื้นตัวได้จากสเปรดของผลิตภัณฑ์แนฟทา, ธุรกิจปูนซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ฟื้นตัวได้อย่างชดเจนเมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 3/2564 ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับธุรกิจแพ็กเกจจิ้งที่หลายปัจจัยลบที่ผ่อนคลาย และความต้องการใช้แพ็กเกจจิ้งที่เพิ่มขึ้นช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งนี้ทุกกลุ่มธุรกิจของ SCC มีแนวทางการเติบโตที่ชัดเจนในระยะยาว แม้ในระยะสั้นกำไรสุทธิมีแนวโน้มทรงตัวแต่ยังคงจ่ายเงินปันผลในอัตราสูงเฉลี่ย 4% อีกทั้งราคาซื้อ-ขาย ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2564 มี Upside จากราคาเป้าหมายที่ 500 บาทถึง 29%
MCSแม้แนวโน้มกำไรงวดไตรมาส 4/2564 มีแนวโน้มชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 3/2564 ที่ผ่านมาแต่คาดว่ากำไรสุทธิทั้งปี 2564 ของ MCS จะสูงถึง 1,330 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 35.85% YoYสำหรับปี 2565 ประเมินกำไรสุทธิ 1 พันล้านบาทจากปริมาณงานในมือ ณ ปัจจุบันที่กว่า 1.2 แสนตัน แต่มีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิหากบริษัทแจ้งได้รับงานใหม่ต่อเนื่องในปี 2565 หนุนศักยภาพการจ่ายเงินปันผลสูงเฉลี่ย 8.22% ต่อเนื่อง ราคาหุ้น ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2564 มี Upsideต่อราคาเหมาะสมที่ 21 บาทถึงกว่า 30%
ADVANCฐานธุรกิจปัจจุบันมั่นคง อีกทั้งยังสามารถนำไปต่อยอดธุรกิจใหม่ได้หลากหลาย อาทิ บริการ ICT ลูกค้าองค์กร, Digital Lending ที่มีศักยภาพเติบโตสูง ซึ่งแม้รายได้จากกลุ่มธุรกิจใหม่จะเริ่มส่งผลต่อกำไรของบริษัทในอีก 1-2 ปีข้างหน้า แต่ด้วยฐานธุรกิจที่มั่นคงในปัจจุบันทำให้บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลได้ปีละ 3.5% ขึ้นไป อีกทั้งยังมี Upside Payout เพิ่มขึ้นหลัง GULF เข้ามา