ส่องหุ้นไทยส่งท้ายปี 68 ลุ้นฟื้นตัวหาก "เฟด" ลดดอกเบี้ย มองหุ้น "ปันผล" แบงก์-สื่อสารเด่น

คุณธีรศักดิ์ ธนวรากุล ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGSI ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ WEALTH LIVE วันที่ 4 ธันวาคม 2568 วิเคราะห์ทิศทางตลาดหุ้นไทย สินค้าโภคภัณฑ์ และสินทรัพย์ดิจิทัล ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2568

ภาพรวมตลาดหุ้นไทย

คุณธีรศักดิ์ ประเมินว่า ตลาดหุ้นไทยเดือนธันวาคม 2568 ยังมีลุ้นฟื้นตัว โดยปัจจัยชี้ขาดอยู่ที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในสัปดาห์หน้า หากมีมติ "ลดอัตราดอกเบี้ย" จะเป็นแรงหนุนสำคัญให้ Sentiment ตลาดกลับมาคึกคัก และอาจเห็น กนง. ของไทยปรับลดดอกเบี้ยตามเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหลังเจอปัญหาน้ำท่วมภาคใต้

อย่างไรก็ตาม หากเฟด "คงอัตราดอกเบี้ย" จะถือเป็นสัญญาณลบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงไทย โดยให้กรอบแนวรับสำคัญของ SET Index กรณีแย่สุดไว้ที่ 1,250 – 1,220 จุด

กลยุทธ์โค้งท้ายของปี 2568 โฟกัส "หุ้นปันผล"

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงที่เหลือของปี แนะนำให้เลือกหุ้นรายตัว (Selective Buy) ในธีม "หุ้นปันผลสูง" เพื่อถือข้ามปี โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์และสื่อสาร ซึ่งมักจะ Outperform ในช่วงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

เจาะหุ้นเด่นรายตัว

• SCB มองเป็นจังหวะสะสมเพื่อรับปันผล แนวโน้มราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ยังดูดีกว่ากลุ่มอื่น

แนวรับ: 130-132 บาท

• KTB ราคาทำ New High ต่อเนื่อง แข็งแกร่งกว่าตลาด

แนวต้าน: 29.50 – 30.00 บาท

• ADVANC หุ้น Big Cap ที่กราฟยังเป็นขาขึ้นและปันผลสม่ำเสมอ

แนวรับ: 305-306 บาท

แนวต้าน: 320-330 บาท

• DELTA ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ จุดชี้ชะตาอยู่ที่เส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน

จุดวัดใจ: ห้ามหลุด 198 บาท หากหลุดมีโอกาสลงลึก แต่หากยืนได้ลุ้นรีบาวด์

แนวต้าน: 208 บาท (แนะนำ Follow Buy เมื่อผ่าน 208 บาทเท่านั้น)

• AOT รับข่าวบวกเรื่องรายได้ไปมากแล้ว แนะนำ "ขายทำกำไร"

แนวต้าน: 53.00 – 55.00 บาท

จุดรอซื้อคืน: ปิด Gap บริเวณ 48.00 – 45.00 บาท

• AAV กราฟเริ่มฟื้นตัว ดูดีกว่า AOT ในระยะสั้น

แนวต้าน: 1.20 / 1.25 / 1.35 บาท

มุมมองราคาน้ำมัน ราคาทองคำ และบิตคอยน์ 

ราคาน้ำมัน (Oil) มุมมองเป็น "ขาลง" ชัดเจน จากปัญหาน้ำมันล้นตลาด (Oversupply) โดยเฉพาะจากรัสเซียและสหรัฐฯ ขณะที่ดีมานด์จากจีนและอินเดียโตไม่ทัน มองแนวรับสำคัญของ Brent ที่ 60 เหรียญฯ

ราคาทองคำ (Gold) ระยะสั้นเดือน ธ.ค. มีโอกาส "ย่อตัว" เป็นจังหวะดีในการเข้าซื้อสะสมเพื่อรอขายทำกำไรในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. ซึ่งเป็นช่วงตรุษจีน 

แนวรับ: 4,100 เหรียญฯ (หากหลุดอาจเห็น 3,700-3,600 เหรียญฯ)

มุมมองปี 69: ทองคำน่าสนใจกว่า Bitcoin

บิตคอยน์ (Bitcoin) กราฟทางเทคนิคเสียทรง หลุดเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน เป็นสัญญาณ "ขาลง" หรือจบรอบขาขึ้น 3 ปีแล้ว มีความเสี่ยงที่จะปรับฐานลึกในปีหน้า

• แนวต้าน: 95,000 เหรียญฯ (เด้งเพื่อลงต่อ)
• แนวรับ: 85,000 – 80,000 เหรียญฯ