CHAYOลุยซื้อหนี้เพิ่ม ปั้นพอร์ตแตะแสนล้าน
ทันหุ้น –CHAYO ลุยซื้อหนี้เพิ่ม ดันพอร์ตมูลหนี้คงค้างสิ้นปี 2564 ทะลุ 8 หมื่นล้านบาท พร้อมวางเป้าปี 2565โต 20-25% วางงบ 3 พันล้านบาท ซื้อหนี้ใหม่เติมพอร์ตเพิ่มกว่าหมื่นล้านบาท หนุนมูลหนี้รวมแตะแสนล้านบาท เร่งเครื่องธุรกิจสินเชื่อหวังดันเข้าตลาด แย้มไตรมาสแรกเล็งจำหน่ายโปรดักต์กัญชง
นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัท ชโย แคปปิตอล จำกัด ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านสินเชื่อ ได้มีการลงนามเซ็นสัญญาซื้อพอร์ตหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลเข้ามาบริหาร จากทางบริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP เข้ามาเติมพอร์ตเพิ่ม ได้ฐานลูกหนี้ใหม่เข้ามาเพิ่มมากขึ้นอีกกว่า 400 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้ที่ไม่มีหลักประกันและเป็นลูกหนี้ที่ดี ทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้จากดอกเบี้ยจากลูกหนี้กลุ่มนี้เข้ามาได้เพิ่ม
*พอร์ตหนี้แตะแสนล.
จากมูลหนี้ใหม่ที่เข้ามาเติมพอร์ตทำให้ปัจจุบันบริษัทมีพอร์ตมูลหนี้คงค้างอยู่ที่เกือบ 80,000 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ที่มีหลักประกันประมาณ 20,000 ล้านบาท ส่วนอีกกว่า 60,000 ล้านบาท เป็นหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน โดยมูลหนี้ในพอร์ตปัจจุบันเพิ่มขึ้นกว่า 10,000 ล้านบาท เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามแผนการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพใหม่ตามที่วางไว้ โดยรวมทั้งปีบริษัทใช้เงินลงทุนไปประมาณ 2,500 ล้านบาทตามเป้าหมาย อย่างไรก็ดี บริษัทยังคงมีความมั่นใจว่าผลการดำเนินงานรวมในปี 2564จะมีการเติบโตที่ไม่น้อยกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 25% จากปีก่อน
ทั้งนี้ บริษัทวางงบลงทุนไว้ที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพทั้งแบบที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกันเข้ามาบริหารในพอร์ตเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าหนี้ใหม่ที่เข้ามาเติมพอร์ตจะทำให้ในปี 2565 พอร์ตมูลหนี้คงค้างจะเพิ่มขึ้นอีก 10,000 ล้านบาท เป็นมากกว่า 90,000 ล้านบาท และมีโอกาสทะยานขึ้นไปแตะที่ระดับ 100,000 ล้านบาท พร้อมกันนี้ บริษัทยังมี NPA ในมืออยู่หลายแปลง ซึ่งในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้สามารถแบ่งขายไปได้แล้วบางส่วน และคาดว่าในช่วงต้นปี 2565จะมีการจำหน่ายบางแปลงเพิ่มเติม
*ต้นปีลุ้นข่าวดี
สำหรับธุรกิจให้การขายสินค้าผ่าน Call Center และช่องทางออนไลน์ (555 Shopping) นั้น อาจต้องประเมินตามสภาวะทางเศรษฐกิจและกำลังซื้ออีกครั้ง อย่างไรก็ดี ล่าสุดทางบริษัท สยาม เฮอเบิล เทค จำกัด (SHT) บริษัทย่อยของ DOD ซึ่งดำเนินธุรกิจโรงสกัดสารสกัดจากกัญชง พืชกระท่อม และพืชสมุนไพรไทย ได้รับช่อดอกกัญชง จากกลุ่มพันธมิตร อาทิ กลุ่มเกษตรกร (Contract Farming) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากว่าทาง DOD สามารถผลิตผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องกัญชงแล้วเสร็จ บริษัทก็มีความพร้อมในการจำหน่ายทันที ซึ่งคาดว่าในไตรมาส 1-2/2565 จะได้เห็นความชัดเจน
ส่วนธุรกิจให้บริการสินเชื่อ ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารของ บริษัท ชโย แคปปิตอล จำกัด นั้น คาดว่าภายในสิ้นปี 2564ยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่จะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 250 ล้านบาท หลังจากปัจจุบันมีการปล่อยสินเชื่อไปแล้วกว่า 230-240 ล้านบาท และในปี 2565คาดจะเห็นการเติบโตที่เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 300-400 ล้านบาท จากการขยายฐานลูกค้าที่หลากหลายกลุ่มมากขึ้น ทั้งกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสินเชื่อในการดำเนินกิจการแฟรนไชส์ร้านอาหาร ร้านค้า ยานยนต์ และสินเชื่อส่วนบุคคล เป็นต้น
โดยหากปี 2564 นี้ ธุรกิจให้สินเชื่อมีผลการดำเนินงานแตะระดับ 10 ล้านบาท ก็มีแผนจะแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) และยื่นไฟลิ่ง เพื่อขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในลำดับถัดไป พร้อมกันนี้ บริษัทยังคงมีความสนใจและอยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนใหม่ เพื่อเข้ามาช่วยต่อยอดธุรกิจหลักอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบการควบรวมกิจการ (M&A) และการร่วมทุน (JV) ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าภายในปี 2565 จะได้เห็นข้อสรุปที่ชัดเจน
ขณะที่ธุรกิจเร่งรัดติดตามหนี้นั้น มองว่าในปี 2564อาจจะย่อตัวลงราว 20%เนื่องจากรับผลกระทบของโควิด-19แต่หากว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจมีการปรับตัวที่ดีขึ้นก็คาดว่าธุรกิจดังกล่าวจะสามารถกลับมาเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 20% ในปี 2565