รีเซต

'วัฒนา' ย้ำ การเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ฉุดรั้งการฟื้นฟูเศรษฐกิจ แนะรัฐกัดฟันแบกภาระ

'วัฒนา' ย้ำ การเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ฉุดรั้งการฟื้นฟูเศรษฐกิจ แนะรัฐกัดฟันแบกภาระ
มติชน
22 พฤศจิกายน 2564 ( 18:21 )
48
'วัฒนา' ย้ำ การเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ฉุดรั้งการฟื้นฟูเศรษฐกิจ แนะรัฐกัดฟันแบกภาระ

นายวัฒนา เมืองสุข ประธานคณะทำงานด้าน กฎหมายและการเมือง พรรคไทยสร้างไทย มองว่าประเทศไทยจำเป็นต้องเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยด่วน ไม่เช่นนั้นจะกระทบต่อสถานะทางการคลังของประเทศ และเห็นว่าแนวทางที่ทำให้เกิดการบริโภคภายในเป็นสิ่งสำคัญ โดยรัฐต้องเร่งสร้างกำลังซื้อให้กับประชาชน และเห็นว่าการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมัน เป็นอุปสรรคสำคัญที่ฉุดรั้ง อำนาจการแข่งขันของ ประชาชนคนไทย ซึ่งรายได้ จากการจัดเก็บภาษีดังกล่าวกว่าปีละ 2แสนล้านบาทนั้น ถือเป็นภาระและต้นทุน ที่พี่น้องคนไทยช่วยกันแบกรับไว้

 

หากรัฐบาล มีแนวคิดว่าจะช่วยลดต้นทุนในส่วนนี้ก็จะเป็นการส่งเสริมให้สามารถไปแข่งขันในตลาดโลกได้ ผลคือประชาชน จะสามารถค้าขายได้ดีขึ้น การส่งออกมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างเต็มความสามารถ
ถ้าลดต้นทุนลง ประชาชนจะขายของได้มากขึ้น และจะกลับมาสู่พี่น้องเกษตรกร พี่น้องประชาชน จะผลิตได้มากขึ้น ภาระรัฐบาลก็จะลดลง ขณะเดียวกันเมื่อขายของได้มากขึ้น การจับจ่ายใช้สอยก็จะมากขึ้น รัฐบาลก็จัดเก็บภาษีได้มากขึ้น แม้ภาษีสรรพสามิตจะหายไป แต่รัฐจะสามารถจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มหรือภาษีอื่นๆได้แทน

 

นายวัฒนา ย้ำว่า พรรคไทยสร้างไทยเห็นว่า วันนี้ต้องให้โอกาสประชาชนคนไทยไปทำมาหากิน เพราะคนที่หารายได้ให้ประเทศ คือประชาชน ไม่ใช่รัฐบาล ซึ่งรัฐต้องมีหน้าที่แบกรับภาระในส่วนดังกล่าวให้ประชาชน เพื่อให้สามารถ ไปแข่งขันได้ อย่างน้อยสองปี ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญนำไปสู่การพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ

 

“รัฐบาลที่ดีต้องทำตัวให้ เหมือนพี่เลี้ยงนักกีฬา ประชาชนคือนักกีฬา คุณเป็นพี่เลี้ยงนักกีฬา ต้องบำรุงนักกีฬา ให้มีความพร้อมไปแข่งขัน เมื่อชนะ ได้เงินมา แบ่งรางวัลกับเขา ดังนั้นนักกีฬา ต้องมีความพร้อมที่สุด มีความสมบูรณ์ เมื่อมีรายได้ เราค่อยแบ่งรายได้จากเค้าแต่ถ้าคิดแบบรัฐบาลวันนี้ ชักต๋งจากนักกีฬาก่อน ยังไม่ได้เล่นเลย เอาตังมาก่อน มันจะมีกำลังใจไปเล่นไปแข่งขันหรือไม่” นายวัฒนากล่าว

 

พรรคไทยสร้างไทยจึงเสนอ ให้ลดภาระของประชาชน ลดต้นทุนให้คนไทย สามารถออกไปแข่งขันได้ และกลับมาเก็บภาษีจากกำไร ซึ่งมั่นใจว่าประชาชน ผู้ประกอบการ พร้อมสนับสนุน
นายวัฒนา กล่าวด้วยว่า การยกเลิก หรือการลด อัตราภาษีสรรพสามิต ไม่จำเป็นต้องออกกฎหมายเพราะ ตามพระราชบัญญัติสรรพสามิต 2560 มาตรา5ระบุว่า การประกาศ พิกัดอัตราภาษี รัฐมนตรี มีอำนาจประกาศเป็นกฎกระทรวง จากนั้นนำเข้าคณะรัฐมนตรีพิจารณาได้ทันที จึงไม่จำเป็นต้องนำเข้าสภาผู้แทนราษฎร โดยกระบวนการดังกล่าวใช้เวลาไม่นาน ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก แต่อยู่ที่ความจริงใจของรัฐบาลต่อประชาชนว่ามีมากน้อยเพียงใด

 

ดังนั้นรัฐบาลต้องกัดฟัน ลดภาษีสรรพสามิตเพื่อเปิดทางให้เกิดอำนาจการแข่งขัน และการลดภาษีดังกล่าวไม่ใช่เพียงผู้ประกอบการที่ได้รับประโยชน์ แต่ประชาชนหรือผู้บริโภค จะได้รับประโยชน์ด้วยเช่นกันเพราะไม่ต้อง รับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นต่อจากผู้ประกอบการ ที่แบกรับต้นทุนที่สูงจากภาษีดังกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง