รีเซต

Blockchain (Change the world) บล็อกเชนเปลี่ยนโลก

Blockchain (Change the world) บล็อกเชนเปลี่ยนโลก
TNN Wealth
7 กรกฎาคม 2564 ( 09:38 )
145
Blockchain (Change the world) บล็อกเชนเปลี่ยนโลก


ในโลกของการลงทุนผมเป็นนักเก็งกำไร ระยะกลางถึงระยะยาวคนหนึ่ง ที่ไม่ได้เรียนมาทางด้านเทคโนโลยีเลยแต่ปัจจุบันมีกระแสนิยมกระแสหนึ่ง ที่ชื่อ “Blockchain”และ “Cryptocurrency”

 


ซึ่งกล่าวกันว่าจะเข้ามาถึงขั้นจะ “เปลี่ยนโลก”ของเราที่เป็นอยู่ได้ ดังนั้นผมจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้และเข้าใจมันระดับนึงก่อนเริ่มลงทุนและใช้งานมันได้อย่างถูกต้อง ในบทความนี้ผมจึงอยากจะแชร์ความหมายของมันในรูปแบบที่ผมเข้าใจให้ผู้อ่านได้ทราบ เชิญสดับรับเสพข้อมูลกันเลยครับ

 

 


อันดับแรกต้องบอกก่อน ผมก็เหมือนหลายๆ ท่านนี่แหละ ที่ได้ยินแต่คำว่า “บิตคอยน์”(Bitcoin) ก่อนคำว่า“บล็อกเชน“(Blockchain) และผมก็เรียกอย่างคนไม่เข้าใจในเรื่องพวกนี้ว่า มันคือบิตคอยน์ๆๆ เรื่อยมา ซึ่งมันก็เหมือนเราเรียก “แฟ้บ” แทนคำว่า “ผงซักฟอก” นั่นแหละ

 


แต่จริงๆ แล้ว บิตคอยน์ คือ สกุลเงินดิจิทัลที่ทุกคนบนโลกทีมีเหรียญนี้อยู่ สามารถใช้แลกเปลี่ยน โอน ซื้อสินค้าและบริการทั่วไปได้ เพียงแต่มันทำงานบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เราจึงไม่สามารถจับต้องบิตคอยน์ได้เหมือนการที่เรานับเงินบาท นับเงินดอลลาร์ ด้วยธนบัตรหรือเหรียญทั่วๆ ไปที่เราจับต้องได้นั่นเอง 

 


แต่ที่พิเศษกว่านั้นคือ การทำธุรกรรมต่างๆ ของบิตคอยน์ทำผ่านระบบบล็อกเชนซึ่งเป็นการให้ทุกธุรกรรมที่เกิดขึ้น ถูกตรวจสอบได้จากเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั่วโลกผ่านผู้ตรวจสอบยืนยันความถูกต้องในเครือข่าย(Miner)แทนที่จะเป็นการควบคุมจากหน่วยงานหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่ง หรือง่ายๆ ก็คือระบบกลไกที่ตัดหน้าที่ของตัวกลางออกนั่นเองหรือที่เรียกว่า Decentralize

 

 


แล้วบล็อกเชนล่ะคืออะไร บล็อกเชน ก็คือ เทคโนโลยีที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูล โดยข้อมูลจะถูกจัดเก็บเป็นสำเนาไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของทุกคนที่ใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์เดียวกันเสมือนห่วงโซ่ (Chain) โดยทุกคนจะรู้ได้ว่าใครเป็นเจ้าของและมีสิทธิ์ในข้อมูลนั้นๆ 

 

 


ดังนั้นมันเจ๋งตรงที่ว่า ข้อมูลที่ถูกบันทึกบนบล็อกเชนหมดสิทธิ์ถูก Hack!เพราะข้อมูลถูกเปิดเผยเป็นสาธารณะและถูกตรวจสอบได้ตลอดเวลาเนื่องจากจะไม่มีตัวกลางเข้ามาทำหน้าที่ควบคุม ก็หมายความว่าหากมี Hacker ต้องการจะHack ข้อมูลบนบล็อกเชน จะต้องโจมตีทั้งเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั่วโลกในเวลาพร้อมกันเลยทีเดียว

 

 


บล็อกเชนมีการพัฒนาอยู่ตลอด จากที่ตอนแรกมีการสร้างบิตคอยน์ให้ใช้แทนสกุลเงินจริงได้(Blockchain 1.0)  ต่อมาก็ได้กำเนิดสกุลเงินดิจิทัลอันใหม่ ที่ชื่อว่า Ethereum โดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนให้เพิ่มความสามารถในการเขียนโปรแกรม  หรือที่เรียกกันว่า Smart Contract บนบล็อกเชนซึ่งไม่มีตัวกลางควบคุม และไม่ต้องกลัวใครไม่ทำตามเงื่อนไข (Blockchain 2.0) 

 

 


และไม่นานนี้เอง บล็อกเชนมีการพัฒนาไปสู่ Stable Coin โดยการสร้าง Cryptocurrency ที่มีสินทรัพย์ในโลกจริง และโลกดิจิทัล ค้ำประกันอยู่(Assets-Backed and Crypto-Backed)โดยผ่าน Smart Contractที่มีกลไกการบังคับหลักประกันแบบอัตโนมัติเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาของ Stable Coin ไว้ให้ใกล้เคียงกับมูลค่าของเงินที่มาค้ำประกันในสินทรัพย์นั้นๆ

 

 


ซึ่งสิ่งนี้เอง เป็นพื้นฐานในการต่อยอดไปสู่ธุรกรรมทางการเงินอื่นๆ ได้มากมาย เช่นการปล่อยกู้ และการกู้ยืมโดยไม่ต้องผ่านธนาคาร นับว่าเป็นระบบการเงินใหม่แบบไม่พึ่งตัวกลางแท้จริง เรียกว่า Decentralized Finance หรือDeFi

 


จากจุดนี้ผมมองว่าบล็อกเชนมีแนวโน้มว่าจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของโลกอย่างแน่นอน ซึ่งหากศึกษาให้ดี จะพบว่ามีช่องทางลงทุนมากมาย และช่องทางทำกำไรได้อย่างมหาศาลกับสิ่งนี้

 

 


สุดท้ายขอฝากข้อคิดจาก Ray Dalio ผู้ก่อตั้งและบริหารBridgewater Associates กองทุน Hedge Fund ที่ใหญ่ที่สุดในโลกไว้ดังนี้ครับ 

 

 


“ความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ Bitcoin คือความสำเร็จ”

 


“บิตคอยน์และเหรียญคู่แข่งของมันจะสามารถกลายมาเป็นตัวเก็บมูลค่าได้ไม่ต่างจากทองคำ”

 


ร่ำรวยในการลงทุนทุกท่านครับ
TFEX HMUZ  จากพนักงานประจำ สู่ Trader มืออาชีพ
อิทธิพล พรพิบูลย์ Fulltime Trader  เจ้าของเพจ TFEX HMUZ  

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง