TNP ลุยสาขาเชียงใหม่-เชียงราย ลุ้นคนละครึ่งโกยเงินเข้าพอร์ต

#TNP #ทันหุ้น - TNP ลุยขยายสาขาเพิ่มเป็น 6 แห่ง ครอบคลุมเชียงใหม่-เชียงราย มั่นใจเศรษฐกิจฟื้น-การเมืองชัดเจนหนุนค้าปลีกโตสดใส เดินหน้าลงทุนโซลาร์เซลล์ลดต้นทุน ขณะที่บล.กรุงศรี เล็งหากรัฐนำโครงการ “คนละครึ่ง” กลับมา เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเชื่อว่า TNP จะได้รับอานิสงส์ ประเมินกำไรปี 2568 แตะ 190 ล้านบาท แนะ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 4.10 บาท
ภญ.อมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า บริษัทเดินหน้าขยายธุรกิจเต็มสูบ หลังจากเดิมตั้งเป้าปี 2568 เปิดเพิ่ม 5 สาขา ล่าสุดปรับเป้าขยายเพิ่มเป็น 6 สาขา ครอบคลุมทำเลทองทั้งจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย จังหวัดละ 3 สาขา สะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อกำลังซื้อในท้องถิ่น และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่เริ่มเห็นชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง
การปรับเป้าขยายสาขาเพิ่มจาก 5 แห่ง เป็น 6 แห่ง สะท้อนความมั่นใจในเศรษฐกิจท้องถิ่นและการบริหารทำเลเชิงกลยุทธ์ โดยปัจจุบัน TNP มีสาขาเปิดดำเนินการแล้ว 53 แห่ง ซึ่งสาขาใหม่ในปีนี้จะช่วยขยายฐานลูกค้าและเพิ่มกำลังซื้อ โดยเฉพาะเชียงรายที่ไม่ได้พึ่งพาการท่องเที่ยวโดยตรง และเชียงใหม่ที่ได้อานิสงส์จากภาคท่องเที่ยวทางอ้อม
รุกขยายสาขา-ศก.ฟื้น
ภญ.อมร ระบุว่า การขยายสาขาเพิ่มเกินกว่าแผนที่ตั้งไว้ เป็นผลจากการมองเห็นโอกาสในภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะช่วงปลายปีและต้นปีหน้า ที่คาดว่าจะได้แรงหนุนจากบรรยากาศทางการเมืองที่ชัดเจนขึ้น การจัดการเลือกตั้ง และมาตรการอัดฉีดจากภาครัฐ ซึ่งจะเร่งการหมุนเวียนของเงินในระบบ และเป็นแรงขับสำคัญต่อธุรกิจค้าปลีกในภูมิภาค
“ช่วงไตรมาส 4 ของทุกปีถือเป็น High Season ของภาคเหนือจากการท่องเที่ยวและบรรยากาศฤดูหนาว แม้ลูกค้าหลักของ TNP จะยังคงเป็นคนท้องถิ่น แต่การท่องเที่ยวก็ช่วยเสริมบรรยากาศการจับจ่าย ทำให้มั่นใจว่ายอดขายจะมีทิศทางบวก โดยปัจจัยทางการเมืองที่นิ่งและนโยบายรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นจะเป็นตัวช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นผู้บริโภค และกระตุ้นการบริโภคในวงกว้าง” ภญ.อมร กล่าว
ต้นทุนลดดันกำไรยั่งยืน
แม้ค่าแรงจะขยับขึ้น แต่ TNP สามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการลงทุนติดตั้งโซลาร์เซลล์ในสำนักงานใหญ่และสาขาขนาดใหญ่ 3 แห่ง ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าลดลงในระดับหลักแสนบาทต่อเดือน และคาดว่าจะคืนทุนภายในราว 3 ปี โดยปัจจุบันเริ่มเห็นผลลัพธ์ชัดเจนแล้ว และยังมีแผนต่อยอดลงทุนโซลาร์เซลล์เพิ่ม เพื่อรองรับการเติบโตของสาขาในอนาคต
อย่างไรก็ดตามสำหรับเป้าหมายการเติบโต TNP ปรับลดลงจากเดิม 10-15% เหลือ 7-12% เพื่อสอดรับภาวะเศรษฐกิจ แต่เชื่อว่าหากการเมืองกลับมามีเสถียรภาพ เป้าหมายการเติบโตอาจขยับกลับสู่ระดับเดิมได้
ทางด้านบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า TNP จะได้ประโยชน์ตรงจากโครงการคนละครึ่ง หนุนกำลังซื้อท้องถิ่น ขณะที่การเปิดสาขาใหม่และการเพิ่มมาร์จิ้นยังช่วยผลักดันกำไร คาดปี 2568 ทำได้ 190 ล้านบาท มองเป็นหุ้นอิงบริโภคที่มั่นคง ฐานะการเงินแข็งแกร่ง ซื้อขาย PER เพียง 12 เท่า และแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 4.10 บาท
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
