"ศบค." อนุมัติวัคซีนโควิดเข็ม 4 บุคลากรแพทย์-ปชช.บูสต์ตามแนวทาง สธ.
เมื่อวันที่ 7 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ รับทราบแผนการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ของปี 2565 กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยกรมควบคุมโรค เสนอแผนโดยมี 3 เป้าหมาย ดังนี้ 1.ผู้ที่อายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไปยังไม่เคยรับวัคซีน สามารถเข้ารับการฉีดแบบวอล์กอิน (walk in) ได้ ตามสถานพยาบาลที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานคร 2.ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือผู้ที่เคยติดเชื้อทุกรายจะได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นตามแนวทาง สธ. และ 3. กลุ่มเป้าหมายอายุ 5-12 ปี สามารถรับฉีดวัคซีนได้ตามความสมัครใจของเด็กและผู้ปกครอง
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับแนวทางการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็มที่ 4 สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคเรื้อรังนั้น ตามมติที่ประชุมอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ดังนี้ หากฉีดวัคซีนเข็มที่ 1-2 เป็นซิโนแวคกับซิโนแวค และเข็มที่ 3 เป็นแอสตร้าเซนเนก้า ให้เข็มที่ 4 เลือกเป็นแอสตร้าฯ หรือ ไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นา ระยะห่าง 3 เดือนขึ้นไปหลังเข็มที่ 3 หากฉีดวัคซีนเข็มที่ 1-2 เป็นซิโนแวคกับซิโนแวค และเข็มที่ 3 เป็นไฟเซอร์ ให้เข็มที่ 4 เลือกเป็นไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นาได้ ระยะห่าง 3 เดือนขึ้นไปหลังเข็มที่ 3 ขณะเดียวกัน มีข้อเรียกร้อง ฉีดเข้าในชั้นผิวหนังได้หรือไม่ มีหมายเหตุว่า สามารถให้ได้ แต่ดุลยพินิจของแพทย์ และผู้รับวัคซีนต้องสมัครใจ ซึ่งตรงนี้เปิดกว้างขึ้นให้สามารถเลือกได้
“สำหรับเป้าหมายฉีดวัคซีนโควิดในเดือนมกราคมนี้ ประมาณ 9.3 ล้านคน มีเข็มที่ 1 เข็มที่ 2 เข็มที่ 3 และเข็มที่ 4 ซึ่งมีวัคซีนต่างๆ เตรียมไว้ ส่วนเรื่องยาต้านไวรัสแพ็กซ์โลวิด สำหรับผู้อาการไม่มากเล็กน้อยจนถึงปานกลางนั้น ได้ขออนุมัติการจัดซื้อกับ ศบค.ไว้ 5 หมื่นชุด โดยรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ สธ. บอกว่าเป็นการนำมาเสริมกับยาหลักคือ ฟาวิพิราเวียร์ นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ใช้เงินกู้มาซื้อ” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว