มาร์ค ซักเคอร์เบิร์กทุ่มงบจ้างบอดี้การ์ดเพิ่ม 130 ล้านบาท ท่ามกลางการปรับลดพนักงานในบริษัท

มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ผู้บริหารบริษัท เมตา (Meta) บริษัทผู้พัฒนาและให้บริการแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก (Facebook) ทุ่มงบจ้างบอดี้การ์ดให้กับตัวเองเพิ่ม 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 130 ล้านบาท รวมเป็นเงินมูลค่ากว่า 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 484 ล้านบาท นับเป็นงบประมาณรายจ่ายด้านความปลอดภัยที่สูง อย่างไรก็ตามบริษัทยืนยันในความเหมาะสมกับตำแหน่งผู้บริหารคนสำคัญของบริษัท เมตา (Meta)

ก่อนหน้านี้ในปี 2018 รายจ่ายด้านรักษาความปลอดภัยจ้างบอดี้การ์ดของมาร์ค ซักเคอร์เบิร์กอยู่ที่ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 346 ล้านบาท  ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปัจจุบันพบว่ามีการปรับเพิ่มขึ้นกว่า 40% 

ปัจจุบันข้อมูลล่าสุดบริษัท เมตา (Meta) มีมูลค่าปัจจุบันประมาณ 1.17 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา หรือประมาณ 39.06 ล้านล้านบาท แต่ผู้บริหารมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก กลับได้รับเงินเดือนเพียง 1 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น อย่างไรก็ตามรายได้จากช่องทางอื่น ๆ นั้นเพียงพอที่จะทำให้มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ติดอันดับมหาเศรษฐีอันดับที่ 16 ของโลก

บริษัทที่มีมูลค่ามหาศาลและมหาเศรษฐีอันดับที่ 16 ของโลกอาจเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้มาร์ค ซักเคอร์เบิร์กมีรายจ่ายด้านความปลอดภัยที่สูง อย่างไรก็ตามยังคงมีการตั้งคำถามเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายดังกล่าวในขณะที่บริษัทประสบปัญหา

1. บริษัท เมตา (Meta) ขาดทุนในปี 2022 ที่ผ่านมา 1.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 473,900 ล้านบาท โดยเฉพาะแผนกเรียลลิตี้ แล็บส์ (Reality Labs) ขาดทุนกว่า 4.28 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 148,086 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2022 ต้นทุนส่วนใหญ่ถูกใช้กับไปกับการพัฒนาโลกเสมือนจริงเมตาเวิร์ส (Metaverse) 

2. ในช่วงปลายปี 2022 ที่ผ่านมาบริษัท เมตา (Meta) กลายเป็นข่าวใหญ่หลังจากปลดพนักงานในบริษัทออก 11,000 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดนับตั้งแต่การก่อตั้งบริษัทจนทำให้มีกระแสข่าวลือเกี่ยวกับการลงจากตำแหน่งของมาร์ค ซักเคอร์เบิร์กและมีการปฏิเสธกระแสข่าวลือดังกล่าวในเวลาต่อมา พร้อมกับเน้นย้ำบริษัทยังมีขีดความสามารถด้านการเติบโตโดยเฉพาะในกลุ่มเทคโนโลยีโลกเสมือนจริงเมตาเวิร์ส (Metaverse) และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) นอกจากนี้ในต้นปี 2023 ยังคงมีกระแสข่าวการปลดพนักงานในบริษัท เมตา (Meta) ออกมาเป็นระยะ

การทุ่มงบประมาณด้านความปลอดภัยของบริษัท เมตา (Meta) ในครั้งนี้ นับเป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก เนื่องจากมาร์ค ซักเคอร์เบิร์กเป็นผู้บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งคนสำคัญมีส่วนในการตัดสินใจกำหนดทิศทางของบริษัท เมตา (Meta) ที่มีมูลค่ามหาศาล ความผิดพลาดหรืออันตรายที่เกิดขึ้นกับเขาอาจกระทบต่อแผนการและมูลค่าของบริษัทได้

ที่มาของข้อมูล Theguardian

ที่มาของรูปภาพ Reuters