รีเซต

'หมอนิธิพัฒน์' เผยเตียงรับผู้ป่วยโควิดใน กทม.-จว.ใหญ่เริ่มร่อยหรอ ชี้ยาไอเวอร์เม็กติน ยังใช้แค่วิจัย

'หมอนิธิพัฒน์' เผยเตียงรับผู้ป่วยโควิดใน กทม.-จว.ใหญ่เริ่มร่อยหรอ ชี้ยาไอเวอร์เม็กติน ยังใช้แค่วิจัย
มติชน
20 กุมภาพันธ์ 2565 ( 20:32 )
117
'หมอนิธิพัฒน์' เผยเตียงรับผู้ป่วยโควิดใน กทม.-จว.ใหญ่เริ่มร่อยหรอ ชี้ยาไอเวอร์เม็กติน ยังใช้แค่วิจัย

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุถึงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในไทย ณ ปัจจุบัน ตลอดจนผลการศึกษาใช้ยาไอเวอร์เม็กตินกับผู้ป่วยโควิดที่อาการไม่รุนแรง ว่า วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ โควิดโอมิครอนเขายังไม่ยอมหยุดด้วย มีเพียงผ่อนหนักผ่อนเบาเป็นวันๆ ไป วันนี้แม้ยอดผลตรวจยืนยันจะวิ่งไปต่อเพิ่มอีกเล็กน้อยไม่ถึงร้อย แต่ยอดรวม ATK แล้วยังต่ำกว่าสามหมื่นและต่ำกว่าเมื่อวานไปหลายพัน ส่วนยอดผู้ป่วยใช้เครื่องช่วยหายใจค่อยๆ เพิ่มต่อเข้าใกล้ 200 ไปทุกที ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตกำลังจะฝ่าแนวรับที่ 30 ไปได้แล้ว

 

รศ.นพ.นิธิพัฒน์กล่าวว่า ข้อมูลจากโรงพยาบาลหลายแห่งใน กทม.และจังหวัดใหญ่ๆ เตียงสำหรับรับผู้ป่วยโควิดอาการหนักเริ่มร่อยหรอเต็มที จนต้องเตรียมหาทางเพิ่ม แต่ส่วนใหญ่ที่หนักเป็นจากโรคพื้นฐานเอง ไม่ได้เป็นจากตัวโควิดโดยตรง เรียกได้ว่าเป็นมหากาพย์ยืดเยื้อมายาวนานเหมือนกัน จนโควิดจะซาปิดตลาดอยู่แล้ว

 

“สำหรับการนำยารักษาโรคหนอนพยาธิที่ชื่อว่า ไอเวอร์เม็กติน มาใช้รักษาผู้ป่วยโควิดที่อาการไม่รุนแรง โดยหวังว่าจะช่วยชะลอการลุกลามของโรคและลดการเสียชีวิตลงได้ เนื่องจากยานี้มีราคาไม่แพงและหาได้ง่าย และมีการค้นพบว่ามีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อไวรัสบางชนิดได้ โดยกลไกการออกฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัสนั้นไม่ทราบแน่นอน ที่บ้านริมน้ำเองก็กำลังทำการศึกษาเปรียบเทียบยานี้กับยาฟาวิพิราเวียร์ที่ใช้เป็นมาตรฐานอยู่ในบ้านเรา แต่ยังไม่เรียบร้อยดี พอดีมีการศึกษาจากประเทศเพื่อนบ้านทางใต้ของเราเผยแพร่ออกมาก่อน จึงนำมาเล่าสู่กันฟัง

 

“ทีมวิจัยทำการศึกษาในโรงพยาบาล 20 แห่ง ของมาเลเซีย ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงตุลาคมปีที่แล้ว ซึ่งช่วงนั้นเชื้อก่อโรคส่วนใหญ่น่าจะเป็นสายพันธุ์เดลต้า รวบรวมผู้ป่วยผู้ใหญ่อายุเกิน 50 ปีขึ้นไปที่มีโรคร่วมอยู่ และป่วยด้วยโควิดแบบไม่รุนแรง จำนวน 490 คน แบ่งเป็นกลุ่มให้ยาไอเวอร์เม็กตินนานเป็นเวลา 5 วัน ร่วมกับการรักษาอื่นตามมาตรฐาน กับกลุ่มที่ได้รับการรักษาอื่นๆ ตามมาตรฐานอย่างเดียว โดยทั้งหมดจะต้องตรวจพบเชื้อ หรือมีอาการของโรคมาไม่เกิน 7 วัน

 

“ผลการรักษาพบว่าทั้งสองกลุ่ม ไม่แตกต่างกันในแง่ของการลุกลามของโรคต่อจนรุนแรง การเข้าไอซียู การใส่เครื่องช่วยหายใจ และการเสียชีวิต ซึ่งผลการศึกษานี้สอดคล้องกับคำแนะนำในปัจจุบันขององค์การอนามัยโลก และหน่วยงานทางการแพทย์ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันในระดับสากลที่ว่าการใช้ยาไอเวอร์เม็กตินในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการว่าได้ประโยชน์ ถ้าแพทย์จะใช้รักษาจริงจังขอให้เป็นไปเพื่อการศึกษาวิจัยเท่านั้น (คลิก อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม)” รศ.นพ.นิธิพัฒน์กล่าว

รศ.นพ.นิธิพัฒน์กล่าวด้วยว่า แม้แทบจะไร้ข่าวดีให้แฟนๆ คลายทุกข์ได้บ้าง แถมยังมีแต่ข่าวร้ายรุมเร้า ทั้งเรื่องการย้ายทีม หรือการแตกแยกกันเองของนักเตะระดับแม่เหล็กในทีม แต่การที่ทีมเรือใบสีฟ้าคู่แข่งร่วมเมืองแถมกำลังคั่วแชมป์อยู่ กลับพ่ายต่อทีมไก่เดือยทองคาบ้านไปเมื่อคืน ทำให้อารมณ์ดีขึ้นนิดนึง แต่กลัวจะเป็นการเตะหมูเข้าปากหมาแทน เพราะหงส์แดงคู่ปรับตัวฉกาจ ซุ่มเงียบใกล้ไล่ทีมนำทันแล้ว ปีนี้ไม่หวังอะไรมากสำหรับทีมรักแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แค่ขอลุ้นอันดับสี่ของตารางก็พอ จะได้จองพื้นที่ไปเล่นถ้วยสำคัญสุดของยุโรปในปีหน้า เผื่อมีลุ้น เหมือนขอหลบแดดใต้ต้นหูกวางเอาแรงก่อน จึงออกไปเจอฝนหนักแค่ไหนก็ไม่เคยจะหวั่น #เดินหน้าต่อไปไม่หวั่นไหวโควิด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง