วัยรุ่นออสเตรเลียสูบบุหรี่ไฟฟ้าน้อยลง หลังห้ามขาย

อัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในหมู่วัยรุ่นอายุ 14 ถึง 17 ปี ลดลง จาก 17.5% ในช่วงต้นปี 2023 มาเป็น 14.6% ในเดือนเมษาที่ผ่านมา ซึ่งนี่เป็นข้อมูลล่าสุดจากการศึกษาระดับประเทศของสภามะเร็งแห่งชาติภายใต้ โครงการ Generation Vape ซึ่งเป็นโครงการสังเกตพฤติกรรมการติดบุหรี่ไฟฟ้าและทัศนคติของคนรุ่นเยาว์

จากผลสํารวจยังพบว่าอัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของคนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปลดลงมากกว่า 2 ใน 3

รัฐมนตรีสาธารณะสุข มาร์ค บัทเลอร์ กล่าวว่า สถานการณ์การสูบบุหรีไฟฟ้าของคนรุ่นใหม่ในออสเตรเลียเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นแล้ว และยังเสริมอีกว่าเจ้าหน้าที่รัฐได้ตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้ามากกว่า 10 ล้านชิ้นในปีที่ผ่านมา

กฎหมายใหม่ที่ห้ามผลิตบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง รวมถึงห้ามนำเข้า ห้ามโฆษณา ห้ามจัดจำหน่าย ในออสเตรเลีย เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2024 ทำให้การซื้อบุหรี่ไฟฟ้าแบบที่มีนิโคลติน อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ต้องมีจ่ายยา และต้องไปซื้อที่ร้านขายยาเท่านั้น อย่างไรก็ตาม คนทั่วไปยังสามารถแอบซื้อได้ตามตลาดมืดที่ขายกันแบบเป็นล่ำเป็นสัน ซึ่งอังกฤษ ก็ใช้กฎหมายแบบเดียวกับออสเตรเลีย ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา 

หลายคนมองว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่ทั่วไป เพราะไม่มีสารอันตราย แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพบอกว่าบุหรี่ไฟฟ้าก็ไม่ได้ปลอดภัยซะทีเดียว  และผลกระทบของการสูบุหรี่ไฟฟ้าไปนาน ๆ ก็ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด

เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียและอังกฤษ กังวลเรื่องการสูบบุหรี่ของเยาวชน ซึ่งจะทำให้เกิดนักสูบบุหรี่หน้าใหม่ในอนาคต

ผลสำรวจล่าสุดของ โครงการ Generation Vape ที่สอบถามกลุ่มตัวอย่างอายุระหว่าง 14-17 ปี จำนวน 3,000 คน พบว่าผู้ตอบแบบสอบถาม 85.4% ไม่เคยสูบบุหรี่ไฟฟ้ามาก่อน และพบว่าน้อยกว่า 1 ใน 3 ของวัยรุ่น อยากลองสูบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งข้อมูลของสถาบันมะเร็งก็แสดงให้เห็นว่า ขณะนี้ มีวัยรุ่นที่มีความอยากรู้อยากเห็น หรืออยากลองสูบบุหรี่ไฟฟ้าลดลง 

ผลวิจัยพบว่าทัศนคติของเด็กนักเรียนเรื่องการสูบบุหรี่ไฟฟ้าก็เปลี่ยนไปเช่นกัน โดยมีบทสัมภาษณ์ที่คนที่กำลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและเคยสูบบุหรี่ไฟฟ้า กล่าวว่าพวกเขารู้สึกละอายต่อการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของตัวเอง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องที่ดึเท่เหมือนเมื่อก่อน

ถึงแม้ว่า จะมีวัยรุ่นที่ซื้อบุหรี่ไฟฟ้าด้วยตัวเองได้น้อยลง แต่ว่าร้านขายบุหรี่ก็ยังคงเปิดขายบุหรี่ไฟฟ้าอยู้เหมือนเดิม แม้ว่ากฎหมายใหม่จะห้ามขายแล้ว และปัญหาการสูบบุหรี่ไฟฟ้ายังคงเป็นปํยหาใหญ่ด้านสุขภาพที่ทางรัฐบาลยังคงพยายามแก้ไขอยู่