ผู้ว่าฯ โคราชคนใหม่ลั่น 4 เดือน ต้องแก้ไขโควิดให้เป็นรูปธรรม (คลิป)
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 31 พฤษภาคม ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา คนใหม่ และนางสายชล บุญอรณะ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา เดินทางสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ภายหลังเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาในวันนี้ พร้อมเดินทางไปกราบสักการะศาลาเจ้าพ่อหลักเมือง และกราบสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 5 (ร.5) บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ก่อนเดินทางเข้าปฏิบัติงานภายในศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา โดยมีส่วนราชการและประชาชน มาคอยให้การต้อนรับ พร้อมนำกระเช้าดอกไม้ มามอบเป็นกำลังใจในการเดินทางมารับตำแหน่งที่จังหวัดนครราชสีมา
นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การเดินทางมาดำรงตำแหน่งที่จังหวัดนครราชสีมา ถึงแม้ว่าจะมีเวลาแค่ 4 เดือนก่อนเกษียณอายุราชการ แต่ตนจะทำงานอย่างเต็มความสามารถ และจะสานต่อภารกิจนโยบายเดิมที่ผู้ว่าราชการจังหวัดคนเก่าได้วางเอาไว้ให้สำเร็จ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งราชการ ประชาชน และสื่อมวลชน ร่วมแรงกันทำภารกิจให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี สื่อมวลชนถือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน โดยเฉพาะการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการจัดหาวัคซีนทางเลือกให้กับประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งได้พูดคุยกับ นายก อบจ.ไว้เบื้องต้นแล้ว และทาง อบจ.นครราชสีมา ก็พร้อมที่จะสนับสนุนการจัดหาวัคซีนทางเลือกให้กับพี่น้องประชาชนเช่นกัน
ในระยะเวลา 4 เดือนที่ดำรงตำแหน่ง สิ่งที่จะต้องรีบทำให้เป็นรูปธรรมมากที่สุด คือการป้องกันยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ ช่วงนี้จะต้องเน้นการป้องกันการแพร่ระบาดในโรงงานอุตสาหกรรม รวมทั้ง ภายในเรือนจำ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือการเดินทางไปมาของประชาชนจากพื้นที่ต่างๆ มายังจังหวัดนครราชสีมา ไม่ว่าจะเป็นประชาชนใน กทม. หรือพื้นที่เสี่ยง ที่อาจจะหนีร้อนมาพึ่งเย็นในช่วงสถานการณ์โควิด-19 คงต้องมีการกำชับไปทั้ง 32 อำเภอ ในการตรวจสอบบุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงอย่างเข้มงวด ให้ปฏิบัติตามมาตรการที่ได้วางเอาไว้ ส่วนการฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่นั้น หากเร่งฟื้นฟูเร็วเกินไป จะไม่ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และรายย่อย ดังเช่นการแพร่ระบาดในรอบที่ 1 และ 2 ทั้งนี้ อยากให้ผู้ประกอบการดำเนินกิจการในรูปแบบสมัยใหม่หรือแบบดิจิทอล ออนไลน์ ซึ่งธุรกิจจะสามารถเดินต่อไปได้ ส่วนการผ่อนคลายมาตรการ คงต้องดูตามสถานการณ์ต่อไป