TTBไม่เร่งขึ้นดบ. ป้องกันNPLดีด คงเป้าสินเชื่อโต3%

TTBเดินหน้าเปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่ ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ลูกค้า มุ่งเน้นงานบริการทั้งรถ, บ้าน เจาะฐานมนุษย์เงินเดือน พร้อมคงเป้าพอร์ตสินเชื่อทั้งปี 2566 โต 3% YoY ย้ำพิจารณาฐานดอกเบี้ยตามความเหมาะสม ป้องกัน NPL ในอนาคต ด้านนักวิเคราะห์ชี้กำไรสุทธิทั้งปีโต 14.23% แนะซื้อ เป้า 1.70 บาท

นายนริศ  อารักษ์สกุลวงศ์  หัวหน้ากลยุทธ์องค์กร ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB เปิดเผยว่า ธนาคารยังคงเป้าการเติบโตพอร์ตสินเชื่อทั้งปี 2566 ที่ 3% YoYด้วยกลยุทธ์การเติบโตพอร์ตสินเชื่อที่มีความชำนาญและมีฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้ว ได้แก่ รถ บ้าน และมนุษย์เงินเดือน และมองต่อถึง Ecosystem โดยจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายจากความต้องการของลูกค้า เพื่อสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น

ขณะเดียวกัน ธนาคารจะยังคงมุ่งเน้นควบคุมต้นทุนการดำเนินงานให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม มุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำธุรกรรมของลูกค้าที่สาขาธนาคาร เข้าสู่การทำธุรกรรมผ่านแอป ttb touch โฉมใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยตลอดช่วงครึ่งหลังของปี 2566 ธนาคารจะทยอยเปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ แอปพลิเคชันที่ช่วยบริหารจัดการอัตราภาษี ควบคู่กับการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดหย่อนภาษีให้ลูกค้าได้ตามความต้องการของลูกค้าแต่ละบุคคล, ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตที่เหมาะสมในแต่ละ Lifestyle

“ธนาคารยังคงเป้าหมายใช้ดิจิทัลเป็นกลไกส่งมอบประสบการณ์ทางการเงินให้กับลูกค้า ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เน้นความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก เช่น สินเชื่อบ้านแลกเงิน, รถแลกเงิน, การบริหารจัดการภาษี ซึ่งลูกค้าต้องการลดภาษี ณ สิ้นปีอยู่แล้ว แต่จะไปมองหาแนวทาง ณ ช่วงใกล้ๆ ซึ่งเมื่อธนาคารเปิดตัวแอปพลิเคชันมาช่วยบริหารจัดการด้านภาษี ก็จะช่วยให้ลูกค้าวางแผนลดภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

*พิจารณาขึ้นดอกเบี้ย

สำหรับการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 2.25% ต่อปี โดยให้มีผลทันทีนั้น เบื้องต้นธนาคารมีแนวทางการดำเนินงานสอดคล้องกับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ธนาคารจะพิจารณากำหนดอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝาก และเงินกู้ให้สอดคล้องกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศ และความสามารถในการผ่อนชำระของประชากรกลุ่มฐานราก เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

“ในฐานะที่เป็นธนาคารขนาดเล็ก คงต้องรอดูแนวทางของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ว่าจะพิจารณาอย่างไร แต่จากช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ที่ผู้ประกอบการธนาคารพาณิชย์ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขึ้นมาจนสามารถรักษา NIM ให้ขยายตัวได้ในระดับที่เหมาะสมแล้ว ก็อาจต้องพิจารณาความสามารถในการผ่อนชำระของลูกหนี้กลุ่มฐานรากด้วย เพื่อรักษาคุณภาพหนี้ไม่ให้ตกชั้นเป็น NPL ในอนาคต”

ต่อกรณีที่ราคารถมือสอง ณ ปัจจุบันอ่อนตัวลงเป็นอย่างมากนั้น ธนาคารได้นำเครื่องมือบริหารความเสี่ยงเข้ามาช่วยลดผลกระทบดังกล่าวตั้งแต่ต้นปี 2566 ที่ผ่านมาเพื่อช่วยควบคุมความเสียหายกรณีมูลค่าหลักทรัพย์ค้ำประกันลดลงให้อยู่ในกรอบจำกัด ควบคู่กับการเพิ่มพันธมิตรเต้นรถมือสองเข้ามาในระบบแอปพลิเคชัน มุ่งเน้นการจับคู่ลูกค้าที่มีความต้องการซื้อรถมือสองกับเต้นรถมือสองที่ผ่านการคัดกรองจากธนาคารเป็นหลัก

*แนะซื้อเป้า 1.70 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ คาดกำไรสุทธิทั้งปี 2566 ของ TTB ที่ราว 1.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.23% YoY จากความสำเร็จของ Ecosystem Play และ Efficiency Improvement ที่จะทำให้กำไรสุทธิเติบโตได้ โดยไม่ต้องเติบโตด้านสินเชื่อ สะท้อนจาก NIM ใน 1H/2566 ที่ 3.13% สูงกว่าเป้าขอบบนที่ TTB ตั้งไว้ 3.0-3.1% ควบคู่กับความสามารถในการควบคุมต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมที่ 1.70 บาท พร้อมคาดการณ์อัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 5.09%