สคร.ชงคลังอนุมัติเพิ่มทุนTHAI วงเงิน1.2หมื่นล.-คาดตุลาคมนี้

#THAI #สคร. #ทันหุ้น -สคร.เล็งชงคลังอนุมัติแผนเพิ่มทุนการบินไทยภายในต.ค.นี้ กำหนดวงเงิน 1.2 หมื่นล้าน จากงบ 68และกองทุนวายุภักษ์ คาดกลับเข้าเทรดในตลาดหุ้นตามกำหนด

นายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ สคร. เปิดเผยความคืบหน้าแผนการฟื้นฟูกิจการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ว่า ขณะนี้ ผลประกอบการของการบินไทยถือว่าดีขึ้นมาก ผลจากการปรับเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและตัดลดค่าใช้จ่าย บวกกับเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐปรับค่าแข็งขึ้น ทำให้ผลกำไรในภาพรวมกลับมาเป็นบวก

*สัญญาณกลับเข้าเทรด

“เมื่อผลการดำเนินงานเป็นไปตามที่คาด ทำให้แผนการกลับเข้าซื้อขายในตลาดหุ้น(เทรด)เป็นไปตามเป้าหมาย หรือ อย่างช้ากลางปีหน้า”

อย่างไรก็ดี แผนการเข้าเทรดในตลาดและรวมถึงแผนการเพิ่มทุนในการบินไทยนั้น ทาง สคร.จะต้องเสนอแผนดังกล่าวให้กับระดับนโยบายได้พิจารณาอนุมัติอีกครั้ง ซึ่งคาดว่า จะเป็นช่วงปลายปีนี้

ทั้งนี้ ตามแผนการฟื้นฟูกิจการและกลับเข้าเทรดในตลาดหุ้น ผู้ถือหุ้นของการบินไทยจะต้องทำการเพิ่มทุน โดยกระทรวงการคลังซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ได้เตรียมแผนการเพิ่มทุนให้แก่การบินไทยในวงเงิน 1.2 หมื่นล้านบาท เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้น โดยสัดส่วนการถือหุ้นหลังเข้าเพิ่มทุนในจำนวนดังกล่าวจะอยู่ที่ประมาณ 40% ซึ่งจะไม่ทำให้การบินไทยกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจ

*แหล่งเพิ่มทุนพร้อม

สำหรับแหล่งทุนที่กระทรวงการคลังจะนำมาใช้ในการเพิ่มทุนนั้น นายธิบดี กล่าวว่า เบื้องต้นกำหนดที่จะนำมาจาก 2 ส่วน คือ เงินงบประมาณปี 2568 และ กองทุนวายุภักษ์

สำหรับความคืบหน้าการฟื้นฟูกิจการของรัฐวิสาหกิจอีก 4 แห่ง ประกอบด้วย การรถไฟแห่งประเทศ, บริษัท ขนส่ง จำกัด, บริษัท โทรคมนาคม แห่งชาติ และ บริษัท อสมท.จำกัด (มหาชน) ทางสคร.ได้เร่งรัดในเรื่องการหารายได้ ลดค่าใช้จ่าย เพื่อให้ผลประกอบการของทั้ง 4 แห่งดีขึ้น และ ขอให้กระทรวงต้นสังกัดเข้ามาช่วยฟื้นฟูกิจการให้ดีมากขึ้น

สำหรับผลประกอบการไตรมาสแรกของการบินไทย มีรายได้รวม 45,894 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.8 % เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 38,951 ล้านบาท กำไรจากการดำเนินงาน 11,116 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,507 ล้านบาท ลดลง 78.9% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 11,879 ล้านบาท

*เดินหน้าแผนฟื้นฟู

โดยช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2567 THAI ยังคงดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการของ ของบริษัทอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสนี้มีการดำเนินงานที่สำคัญได้แก่ การปรับปรุงประสิทธิภาพฝูงบินและขยายเส้นทางบิน โดยรับมอบเครืองบินแบบแอร์บัส A350-900 จำนวน 3 ลำตามแผนการจดหาฝงูบินปัจจุบัน เพิ่มความถี่ของเที่ยวบินไปยังฮ่องกง สิงคโปร์ ไทเป กาฐมาณฑุ มะนิลา ภูเก็ต ซิดนีย์ โตเกียว (นาริตะ) กลับมาใหบริการไปยังเมืองเพิร์ท ประเทศ ออสเตรเลีย และเมืองโคลัมโบ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศศรีลังกา ตังแต่วันที่ 31 มีนาคม 2567 เป็นต้นมา

การหาประโยชน์จากทรัพย์สินรองที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจ โดยจำหน่ายเครื่องบินแบบ แอร์บัส A340-600 จำนวน 2 ลำ และโบอิง 747-400 จำนวน 1 ลำ

การปรับปรุงโครงสร้างกลุ่มธุริกิจการบิน โดยบริษัทดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างกลุ่มธุริกจการบิน แล้วเสร็จ โดยรับโอนเครืองบินแบบแอร์บัส A320-200 จำนวน 4 ลำสุดท้ายจากบริษัท ไทยสมายล์ แอร์เวย์ จำกัด ในเดือนมกราคม 2567 และให้บริการเส้นทางในประเทศเพิ่มเติม ได้แก่ เชียงราย ขอนแก่น อุบลราชธานี กระบี หาดใหญ่ และนราธิวาส (ทั้งนี้ สำหรับเส้นทางนราธิวาส บริษัทหยุดให้บริการตั้งแต่ วันที่ 31 มีนาคม 2567)