รีเซต

ร้าวแล้ว ลึงค์ขอฝน ตั้งได้อาทิตย์เดียว ชาวบ้านยังหวังฝนห่าใหญ่ ท่วมท้องทุ่ง ช่วยเพาะปลูก

ร้าวแล้ว ลึงค์ขอฝน ตั้งได้อาทิตย์เดียว ชาวบ้านยังหวังฝนห่าใหญ่ ท่วมท้องทุ่ง ช่วยเพาะปลูก
มติชน
16 มิถุนายน 2564 ( 21:19 )
55

 

เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 16 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายสมพงษ์ โพธิ์ทอง อายุ 49 ปี ชาวบ้านผู้ที่ร้องขอให้นายวิชัย สิงหนาท อายุ 75 ปี ซึ่งเป็นผู้สืบทอดพิธีกรรมในการปั้นปลัดขิกขอฝน หรือศิวลึงค์ มาจากคนรุ่นเก่าในยุคก่อนที่ทำกันมาแต่โบราณ ให้ช่วยปั้นปลัดขิกหรือลึงค์ขอฝนขึ้นมาในปีนี้

 

 

เนื่องจากพื้นที่ถูกน้ำเค็มหนุนมาตามลำน้ำบางปะกง และฝนทิ้งช่วงในฤดูทำนา จนทำให้การปลูกพืชโดยเฉพาะนาข้าว ซึ่งเป็นอาชีพหลักของชาวโยธะกาได้รับความเสียหายถึง 2-3 ครั้งหลังหว่านไถซ้ำใหม่เพื่อรอฝนในช่วงตลอดกว่า 1 เดือนเต็มที่ผ่านมา ตั้งแต่ในช่วงต้นเดือน พ.ค.64 กล่าวว่า ในวันนี้ปลัดขิกที่ชาวบ้านช่วยกันปั้นขึ้นเพื่อขอฝน ได้เริ่มแตกร้าวอย่างรุนแรงจนใกล้จะพังทลายลงไปกองอยู่กับพื้นดินแล้ว หลังจากได้ถูกปั้นขึ้นมานานจนครบ 7 วันหรือ 1 สัปดาห์เต็มในวันนี้

 

 

 

 

แต่ฝนที่ได้ยังไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเพียงพอที่จะทำให้น้ำขังอยู่ในท้องทุ่งเพื่อใช้หล่อเลี้ยงต้นข้าวในแปลงนาได้ แม้ในขณะนี้ยังคงมีฝนตกพรำอยู่ตลอดเวลาก็ตาม ประกอบกับยังคงมีน้ำเค็มหนุนสูงอยู่ในลำน้ำบางปะกง ซึ่งหากเป็นในทุกปีที่ฟ้าฝนตกลงมาตามฤดูกาล ปกติน้ำเค็มจะต้องลดต่ำลงไปจนไกลถึงใน อ.เมืองฉะเชิงเทรา และ อ.บ้านโพธิ์ แล้ว แต่ในปีนี้น้ำเค็มยังคงหนุนสูงและอยู่ห่างไกลจากปากอ่าวมากนับ 100 กม. จนถึงพื้นที่รอยต่อระหว่างแม่น้ำนครนายกและแม่น้ำปราจีนบุรี

 

 

“เนื่องจากพื้นที่ทางตอนบนยังคงมีฝนตกน้อย และมีน้ำจืดไหลลงมาไม่มากด้วย ซึ่งชาวบ้านยังคงรอคอยความหวังที่จะได้ฝนห่าใหญ่จนทำให้มีน้ำมากเพียงพอที่จะขังอยู่ในท้องทุ่งได้ต่อไป แม้ศิวลึงค์จะพังทลายลงไปก่อน อีกในไม่ช้านี้แล้วก็ตาม เนื่องจากมีสภาพของการแตกร้าวที่ค่อนข้างหนักมาก จนเป็นโพรงลึกเข้าไปถึงแกนด้านใน และยากที่จะพยุงตั้งเอาไว้ต่อไปอีกระยะได้” นายสมพงษ์ ระบุ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง