AWC ติดโผหุ้นปลอดภัย ลุยซื้อโรงแรมเข้าพอร์ต

ทันหุ้น –สู้โควิด –AWC พลิกวิกฤติเป็นโอกาส ศึกษาซื้อกิจการโรงแรมเข้าพอร์ต แทนการเปิดโรงแรมใหม่ หวังภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวเพิ่มหนุนธุรกิจโรงแรมในประเทศฟื้นตัวขึ้นเชื่อผ่านจุดต่ำสุดแล้ว ฟากโบรกมอง AWC เป็นหุ้นปลอดภัย ฐานการเงินแข็งแกร่ง โอกาสทำดีล M&A หนุน ประเมินราคาเหมาะสม 5 บาท

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์คอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจขณะนี้ถือว่าผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ธุรกิจส่วนใหญ่กลับมาเปิดดำเนินการ โดยเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ก็จะกลับมาเปิดกลางเดือนตุลาคมนี้ และจะเปิดให้บริการเรือ 'สิริมหรรณพ' แสดงการจำลองประวัติศาสตร์ ซึ่งคาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวไทยได้เพิ่มขึ้น

ขณะที่ธุรกิจโรงแรมถือว่าฟื้นตัวดีขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทก่อนหน้านี้เป็นชาวต่างชาติกว่า90% ทำให้ได้รับผลกระทบไปจำนวนมาก แต่ทั้งนี้บริษัทมีการปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับลูกค้าชาวไทยมากขึ้น เช่น ให้บริการในการจัดประชุม สัมนา เป็นต้น ซึ่งจะทำให้กลุ่มลูกค้าชาวไทย มาใช้บริหารมากขึ้น ซึ่งเป็นกลยุทธ์ในการปรับตัวของบริษัท

*ศึกษาซื้อกิจการข้พอร์ต

ส่วนมาตราการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่ออกมาในระยะนี้ มองว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ แต่ในส่วนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ก็อาจจะยังมีสัดส่วนไม่มาก แม้จะมีมาตรการให้พำนักได้ในระยะยาว แต่เป็นเพียงนักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่จะอยู่ยาว ซึ่งอยากจะให้ภาครัฐมีมาตรการเร่งด่วนเข้ามาช่วยภาคการท่องเที่ยวต่อเนื่อง เพราะปัจจุบันจากการสำรวจก็มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีความประสงค์เดินทางเข้ามาประเทศไทยจำนวนมาก จึงเป็นโอกาสของประเทศไทย

อย่างไรก็ดี บริษัทอาจจะชะลอแผนการลงทุนในโครงการใหม่ๆ ออกไป เพราะไม่มีความต้องการที่จะไปเพิ่มซัพพลายใหม่ในตลาด ในขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสในการเข้าซื้อกิจการ ซึ่งปัจจุบันก็มีการเจรจาอยู่ต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นกิจการโรงแรม ที่เปิดดำเนินการแล้ว เพื่อจะสามารถเปิดดำเนินการได้ทันทีและรับรู้รายได้ได้ทันที ขณะที่แหล่งเงินลงทุนบริษัทมีความพร้อมมีฐานะการเงินที่ดี

*จัดงบลงทุน 5 หมื่นล้าน

บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)ระบุถึง AWC ว่า ผู้บริหารยืนยันถึงการเติบโตสูงกว่าแบบปกติผ่านกลยุทธ์การซื้อกิจการ โดยการแพร่ระบาดของ COVID-19 เป็นโอกาสสำหรับการเข้าซื้อกิจการอย่างมาก เนื่องจาก AWC อยู่ในระหว่างการพิจารณาดีลการซื้อกิจการโรงแรมกว่า 100 แห่ง บริษัทตั้งงบประมาณสำหรับการซื้อกิจการไว้ที่ 5 หมื่นล้านบาท ในระยะยาว เป้าหมายการซื้อกิจการคือสินทรัพย์ดำเนินงานในประเทศไทยเท่านั้น, ที่ดินที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์, ความหลากหลายทางภูมิศาสตร์และราคาที่ถูกมาก (มีส่วนลดที่น่าสนใจถึง 50% หรืออาจมากกว่านั้น)

ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญที่สดนั่นคือ เวลา เนื่องจากผู้บริหารต้องการคืนทุนอย่างรวดเร็วดังนั้นการซื้อกิจการควรจะเป็นในช่วงเริ่มต้นของการฟื้นตัวของการ ท่องเที่ยวไทย ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงในไตรมาส 1/2564 เป็นอย่างเร็ว คาดส่วนลด 30-50% ต่อมูลค่าทดแทนของธุรกิจโรงแรม (คาด 14 ล้านบาทต่อห้อง ไม่รวมที่ดิน) คำนวณความสามารถในการซื้ออยู่ที่5,100-7,000 ห้องหรือคิดเป็นส่วนเพิ่มของพอร์ตฟอลิโอธุรกิจโรงแรมที่ 105-147%

*ฐานะการเงินแข็งแกร่ง

อีกทั้งบริษัทได้รับวงเงินสินเชื่ออย่างเป็นทางการรับประกันที่ 3 หมื่นล้านบาท ด้วยคุณสมบัติที่สามารถแข่งขันได้(อัตราดอกเบี้ยต่ำ วงเงินหมุนเวียนระยะยาวที่ไม่มีหลักประกัน และความสามารถในการช าระเงินคืนจากการ ออกหุ้นกู้ใหม่ได้) และวงเงินอย่างไม่เป็นทางการที่ให้แก่ลูกค้าเพื่อวัตถุประสงค์อื่น 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งพร้อมสำหรับแผนการลงทุนระยะเวลา 5 ปีในโครงการที่กำลังพัฒนา มูลค่า 4 หมื่นล้านบาท

AWC มีงบการเงินที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มด้วยอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนสุทธิที่ 0.6 เท่า ในปลายเดือนมิถุนายน 2563 ด้วยงบลงทุนทั้งหมด อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนสุทธิอาจปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุด อยู่ที่ 1.2 เท่า แต่ยังต่ ากว่าเงื่อนไขของเจ้าหนี้ทางการเงินของบริษัทที่ 1.5 เท่า เป้าหมายพื้นฐาน 5.00 บาท