รีเซต

หุ้นกู้ STARK พ่นพิษ GLORY ไตรมาส 2/66 ขาดทุน 25 ล. -713%

หุ้นกู้ STARK พ่นพิษ GLORY ไตรมาส 2/66 ขาดทุน 25 ล. -713%
ทันหุ้น
4 สิงหาคม 2566 ( 14:07 )
100

บริษัท รุ่งเรืองตลอดไป จำกัด (มหาชน) หรือ GLORY แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 2/66 มีขาดทุนสุทธิ 24.81 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.09 บาท ลดลง 713% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 4.05 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.01 บาท

 

สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน มีขาดทุนสุทธิ 24.68 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.09 บาท ลดลง 426% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 7.57 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.03 บาท

 

บริษัทชี้แจงว่า สำหรับงวด 6 เดือนแรกปี 2566 รายได้จากการขายและบริการ งวด 6 เดือนแรกปี 2566 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขายและบริการเท่ากับ 45.5 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนจำนวน 1.66 ล้านบาท คิดเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4

 

รายได้อื่น

รายได้อื่นของกลุ่มบริษัทส่วนใหญ่ประกอบด้วย ค่าธรรมเนียมซึ่งเรียกเก็บจากการชำระเงินของลูกค้าสุทธิ ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารและผลตอบแทนจากเงินลงทุนในสินทรัพย์สภาพคถ่อง รายได้ค่าเช่า และรายได้ค่าที่ปรึกษาระบบ ERP เป็นต้น โดยรายได้อื่นของกลุ่มบริษัทมีจำนวน 2.51 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 6 ของรายได้รวมของงวดเดียวกัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากรายได้อื่นในงวด 6 เดือนแรกปี 2565 ที่จำนวน 0.94 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นเท่ากับร้อยละ 60

 

ต้นทุนจากการขายและการบริการ และกำไรขั้นต้น

งวด 6 เดือนแรก ปี 2566 กลุ่มบริษัทมีต้นทุนขายและบริการจำน วน 26.78 านบาท คิดเป็นร้อยละ 59 ของรายได้รวมในงวดเดียวกัน ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า จำนวน 6.7, ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นร้อยละ 34 โดยมีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนสินค้าที่บริษัทวางจำหน่าย และต้นทุนการบริการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นต้นทุนในการซื้อลิขสิทธิ์รรณกรรมจะถูกตัดจำหน่ายโดยวิธีเส้นตรงในมูลค่าที่เท่ากันตลอดระยะเวลาที่บริษัทถือครองลิขสิทธิ์จึงทำให้การรับรู้รายได้และต้นทุนไม่สอดคล้องกันตามระยะเวลา โดยต้นทุนบริการหลักของบริษัทประกอบด้วยต้นทุนคงที่ซึ่งได้แก่ ค่าลิขสิทธิ์ตัดจำหน่าย ค่าดูแลเว็บไซต์ และต้นทุนผันแปรซึ่งได้แก่ ค่าแปลนิยาย ค่าจ้างพิสูจน์อักษรค่าตอบแทนแก่ผู้เขียนนิยาย เป็นต้น และกลุ่มบริษัทได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และออกสู่ตลาดในช่วงปลายเดือนมีนาคม คือ อลิสา (Alisa) ซึ่งเป็น Generative AI รายแรกของประเทศไทย ปัจจุบันมีผู้เข้าใช้งานในประเทศไทย 1.8 ล้านคน โดยอลิสาสามารถพูดคุยเข้าใจได้คล้ายการคุยกับคน และ สร้างรูปภาพได้ใน AI เดียว มีข้อมูลจนถึงปัจจุบัน ซึ่งสามารถช่วยลดเวลาทำงานให้กับผู้คนได้จริง โดยตัวอย่างส่วนหนึ่งของสิ่งที่ทำได้ เช่น เขียน โฆษณา เขียนแผนงาน ปรึกษาพูดคุย ขอไอเดียเขียน Code โปรแกรม ช่วยทำงานวิจัย ทำการตลาด สอนหนังสือ สรุปข้อมูลจากไฟล์หรือเว็บไซต์อัตโนมัติ และอื่นๆอีกมากมาย

 

กำไรขั้นต้นของกลุ่มบริษัทสำหรับงวด 6 เดือนแรก ปี 2566 มีจำนวน 18.71 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นที่ร้อยละ 41 ของรายได้จากการบริการในงวดเดียวกัน เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 52 การปรับตัวที่ลดลงของกำไรขั้นต้น สืบเนื่องมาจาก การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัท ที่อยู่ในระยะเริ่มต้น ทำให้มีต้นทุนในการพัฒนามากกว่าปกติ ซึ่งเป็นการต้นทุนที่มีมูลค่าสูงในระยะแรกของการเริ่มโครงการ และจะค่อยๆลดน้อยลงตามลำดับ

 

ค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่ายและการบริหาร

ค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่ายของกลุ่มบริษัทสำหรับงวด 6 เดือนแรก ปี 2566 มีจำนวน 14.85 ล้านบาท เมื่อพิจารณาสัดส่วนของค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่ายต่อรายได้รวมของบริษัทอยู่ที่ร้อยละ 31 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าจำนวน 12.10 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากค่าใช้ง่ายในการจัดจำหน่ายสินค้า, ค่าโฆษณา และการทำการตลาดโฆษณาผลิตภัณฑ์ใหม่ Alisa Generative AI ซึ่งเป็นการค่าใช้ง่ายที่ใช้งบประมาณสูงในระยะแรก และจะค่อยๆลดน้อยลง

 

ค่าใช้จ่ายในการบริหารของกลุ่มบริษัทสำหรับงวด 6 เดือนแรก ปี 2566 มีจำนวน 31.90 ล้านบาท ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นจำนวน 18.90 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 70 เมื่อเทียบกับงวด 6 เดือนแรก ปี 2565 ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจาก การรับรู้ผลขาดทุนทางบัญชีของหุ้นกู้ stark ที่กลุ่มบริษัทได้ลงทุนไว้จำนวน 16 ล้านบาทซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว กลุ่มบริษัทมีกระแสเงินสดคงเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก จึงดำเนินการ บริหารสินทรัพย์ โดยหมุนเวียนเงินสดไปลงทุนกับสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น กองทุนและหุ้นกู้ ที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากปกติ และในช่วงเวลาดังกล่าว กลุ่มบริษัทมีการบริหารการลงทุนในหลายสินทรัพย์ด้วยกัน ซึ่ง หุ้นกู้ STARK เป็นตัวเลือกหนึ่งในการจัดการบริหารสินทรัพย์ ในช่วงเวลาดังกล่าว และในขณะที่ทำการลงทุน หุ้นกู้ STARK จัดเป็นสินทรัพย์ที่มีผลการประเมิน Company Rating อยู่ที่ BBB+ ซึ่งเป็น Investment Grade และ ประกอบกับคำแนะนำการลงทุนจากที่ปรึกษาทางการเงิน ธนาคารเกียรตินาคินภัทร ซึ่งเป็นที่ปรึกษาที่ดูแลด้านการลงทุนบริหารสินทรัพย์ ให้กับกลุ่มบริษัท กลุ่มบริษัทจึงตัดสินใจลงทุนในหุ้นดังกล่าว

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุการณ์เกี่ยวกับหุ้นกู้ STARK ขึ้น กลุ่มบริษัทได้ดำเนินการทยอยขายหุ้นกู้ตัวอื่นๆออก ตามมติของกลุ่มบริษัท เนื่องจากเจตนาหลักของกลุ่มบริษัทในการลงทุนในกองทุนและหุ้นกู้ ที่มีความเสี่ยงต่ำไม่ได้ต้องการผลกำไรจากการลงทุนส่วนนี้เป็นหลัก แต่เป็นการบริหารจัดการสินทรัพย์สภาพคล่องเพื่อให้ได้ผลตอบแทนมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากปกติ และกลุ่มบริษัทยังคงนโยบายการลงทุนกับการประกอบธุรกิจหลักของบริษัทเป็นนโยบายหลัก และนอกจากนี้ มีการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่าย อาทิเช่น ค่าใช้จ่ายในการบริหารของบริษัทย่อย และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานและค่าตัดจำหน่ายสินทรัพย์ไม่มีตัวตนจากจำนวนลิขสิทธิ์ที่กลุ่มบริษัทถือครองมากขึ้น

 

กำไรสุทธิ

กลุ่มบริษัทมีผลขาดทุนสุทธิสำหรับงวด 6 เดือนแรก ปี 2566 เท่ากับจำนวน 24.68 ล้านบาท ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 จำนวน 32.25 ล้านบาท มีสาเหตุหลักเนื่องจากกลุ่มบริษัทมีผลขาดทุนทางบัญชีจากลงทุนในหุ้นกู้ STARK ประกอบกับมีต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากช่วงแรกของการพัฒนา และนำออกสู่ตลาดของ Alisa Generative AI ส่งผลให้กำไรสุทธิของกลุ่มบริษัทลดลง

 

ฐานะทางการเงิน

สินทรัพย์รวม

ณ 30 มิถุนายน 2566 กลุ่มบริษัทมีสินทรัพย์รวมจำนวน 298.30 ถ้านบาท โดยการลดลงเมื่อเทียบกับ ณ 31 ธันวาคม 2565 จำนวน 7.28 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราที่ลดลงร้อยละ 16 มีสาเหตุหลักมาจากการลงทุนในผลิตภัณฑ์ใหม่ของกลุ่มบริษัท Alisa Generative AI ,การตั้งค่าเผื่อจากการตัดจำหน่ายเงินลงทุน ของหุ้นกู้ STARK, การรับชำระจากลูกหนี้การค้าจากการขายสินค้า, เงินลงทุนในบริษัทร่วม และสินทรัพย์ไม่มีตัวตน อันเป็นผลมาจากการซื้อลิขสิทธิ์งานวรรณกรรมเพิ่มเติมขึ้น

 

หนี้สินรวม

ณ 30 มิถุนายน 2566 กลุ่มบริษัทมีหนี้สินรวมจำนวน 18.9 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 6ของยอดหนี้สินรวมและส่วนของผู้ถือหุ้น โดยการลดลงของหนี้สินรวมเมื่อเทียบกับ ณ 31 ธันวาคม 2565 จำนวน 16,40 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการลดลงร้อยละ 4มีสาเหตุหลักมาจากเจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่นซึ่งเกิดจากการดำเนินธุรกิจปกติที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ

 

ส่วนของผู้ถือหุ้น

ณ 30 มิถุนายน 2566 ส่วนของผู้ถือหุ้นของกลุ่มบริษัทมีจำนวน 279.35 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 94 ของหนี้สินรวม และส่วนของผู้ถือหุ้น โดยการลดลงของส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 40.88 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้น ณ 31 ธันวาคม 2565มาจากผลขาดทุนจากการดำเนินงานของบริษัทสำหรับงวด 6 เดือนแรก ปี 2566 จำนวน 24.68 ถ้านบาท และกลุ่มบริษัทมีการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2565 จำนวน 16.20 ล้านบาท

GLORY แจ้งรายการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ไม่เกิน 3 ปี

บริษัทแจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2566 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2566โดยที่ประชุมได้มีมติอนุมัติเรื่องสำคัญ ภายใต้ความเห็นชอบของที่ประชุมคณะกรรมการตรวจสอบของบริษัท ครั้งที่ 3/2566 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2566อนุมัติเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกันประเภทให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ไม่เกิน 3 ปี แก่ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ( "KANDA") และ บริษัท ออฟทิไมซ์ คอนสตรัคชั่นเทคโนโลยี จำกัด ("OCT") โดยการแบ่งเช่าอาคารสำนักงาน ซึ่งมีรายละเอียดการทำรายการ ดังนี้

 

1. วัน เดือน ปี ที่เกิดรายการ ภายในวันที่ 1 กันยายน 2566

2. คู่สัญญาที่เกี่ยวข้อง ผู้ให้เช่า : GLORY ผู้เช่า : KANDA , OCT

ความสัมพันธ์กับ KANDA : มีกรรมการที่เป็นบุคคลเกี่ยวโยงกัน ดังนี้

นายอิสระ บุญยัง กรรมการของบริษัท ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม ของ KANDA ( 4.5%) ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม และเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ของ OCT ( 50%)

นางสาวอรุณี พูลมาสิน ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม ของ KANDA ( 1.5%)ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม และเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ของ OCT ( 40%)

 

3. ลักษณะโดยทั่วไปของรายการ GLORY ได้ตกลงทำสัญญาให้เช่าพื้นที่อาคารบางส่วนโดยมีรายละเอียด ดังนี้

รายละเอียดการเช่า : ทำสัญญาเช่าพื้นที่บางส่วน อาการเลขที่ 20 หมู่ที่6ตำบลพันท้ายนรสิงห์อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร

ระยะเวลาการเช่า : 3 ปี เริ่มวันที่ 1 กันยายน 2566 สิ้นสุดวันที่ 31 สิงหาคม 2569

อัตราค่าเช่า : KANDA เดือนละ 35,035 บาท OCT เดือนละ 7,840 บาท

การจ่ายชำระค่าเช่า : ชำระภายในวันที่ 5 ของแต่ละเดือน

 

4. มูลค่ารวมและเกณฑ์ที่ใช้กำหนดมูลค่ารวมของรายการค่าเช่าตลอดสัญญาเช่า ของ KANDA และ OCT ( นับรวมมูลค่า เนื่องจากบุคคลที่เกี่ยวโยงเป็นบุคคลเดียวกัน) เท่ากับ 1.54 ล้านบาท เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ที่ใช้กำหนดมูลค่ารวมของรายการ พบว่าเกณฑ์มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NTA ซึ่งคำนวณมูลค่าของ 0.03% ของ NTA (เท่ากับ 0.1 ล้านบาท) และ 3%ของ NTA (เท่ากับ 9.6 ล้านบาท) ตามข้อมูลงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 แล้ว สรุปว่าขนาดของการทำรายการมากกว่า 1 ล้านบาท แต่น้อยกว่า 9.6 ล้านบาท เป็นรายการขนาดกลาง ประเภทการให้เช่าทรัพย์สินอายุไม่เกิน 3 ปี ซึ่งต้องผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารและเปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

 

5. เหตุผลและความจำเป็นในการทำรายการเดิม GLORY กับ KANDA และ OCT ได้เข้าทำสัญญาเช่าพื้นที่ซึ่งใช้เป็นสถานที่ตั้งสำนักงานของ KANDA และ OCT แต่เนื่องจากสัญญาเช่าเดิม สิ้นสุดลง KANDA และ OCT จึงเป็นต้องเข้าทำสัญญาเช่าพื้นที่กับ GLORY เพื่อใช้เป็นสถานประกอบการต่อไป

 

6. กรรมการบริษัทที่มีส่วนได้เสียไม่ได้เข้าร่วมประชุมในวาระนี้

นายอิสระ บุญยัง และนางสาวอรุณี พูลมาสิน กรรมการของบริษัท ซึ่งถือเป็นกรรมการที่มีส่วนได้เสีย และ/หรือผู้บริหารที่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัทในการเข้าทำรายการตังกล่าว ดังนั้น เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการออกเสียงลงคะแนน กรรมการที่มีร้ายชื่อดังกล่าว จึงของดออกเสียงและออกจากห้องประชุมเป็นการชั่วคราวเพื่อให้ที่ประชุมพิจารณาและลงมติโดยอิสระ

 

7. ความเห็นของกณะกรรมการบริษัทเกี่ยวข้องกับข้อตกลงเข้าทำรายการ คณะกรรมการบริษัท GLORY ได้พิจารณาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับรายการที่เกี่ยวโยงกันแล้ว มีความเห็นว่าการเข้าทำรายการดังกล่าวมีความเห มาะสม เปีนประโยชน์ต่อ GLORY โดยอัตราค่าเช่าพื้นที่เป็นอัตราที่เหมาะสมเมื่อเทียบกับราคาประเมิณและราคาตลาด

8. ความเห็นของคณะกรรมการตรวจสอบและ/หรือกรรมการของบริษัทที่แตกต่างจากความเห็นของคณะกรรมการบริษัทตามข้อ 7 ที่ประชุมคณะกรรมการตรวจสอบมีความเห็นสอดคล้องกับคณะกรรมการบริษัท โดยไม่มีกรรมการที่มีความเห็นแตกต่าง หรืองดออกเสียง

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง