ผ่าหุ้นmaiกำไรโตสูงสุด ชูPPM- PROS- PSTC-BIZ
ทันหุ้น -เปิดโผ 5 หุ้น บจ.เอ็ม เอ ไอ กำไรไตรมาส 1/64 เติบโตสูงสุด อันดับ1 PPM ทะยาน 5,452.92% รองลงมา PROS เติบโต 952.65% PSTC เติบโต 922.99% BIZ เติบโต 435.07% และ KWM เติบโต 406.88% ฟากโบรกเชียร์”ซื้อ” KWM ชี้ไตรมาส 2/64 ดีต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ พบบริษัทจดทะเบียนในตาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/2564 มีกำไรสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ บริษัท พรพรหมเม็ททอล จำกัด (มหาชน) หรือ PPM มีกำไรไตรมาส 1/2564 จำนวน 28.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.03 ล้านบาท หรือ 5,452.92 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 0.51 ล้านบาท
บริษัท พรอสเพอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PROS มีกำไรไตรมาส 1/2564 จำนวน 23.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.53 ล้านบาท หรือ 952.65% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 2.26 ล้านบาท
PSTC กำไรโต 922%
บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PSTC มีกำไรไตรมาส 1/2564 จำนวน 53.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.98 ล้านบาท หรือ 922.99% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 5.19 ล้านบาท
บริษัท บิสซิเนสอะไลเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ BIZ มีกำไรไตรมาส 1/2564 จำนวน 81.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66.48 ล้านบาท หรือ 435.07% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน 15.28 ล้านบาท
บริษัท เค.ดับบลิว.เม็ททัล เวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ KWM มีกำไรไตรมาส 1/2564 จำนวน 25.04 ล้านบาทเ พิ่มขึ้น 20.10 ล้านบาท หรือ 406.88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 4.94 ล้านบาท
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เอเชียเวลท์ จำกัด ระบุถึง KWM ว่า แนวโน้มไตรมาส 2/64 ยังคงสดใส คาดผลประกอบการ ยังคงดีต่อเนื่อง จากความต้องการใช้อุปกรณ์การเกษตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากโดยเฉพาะส่วนของใบผาล หนุนรายได้จากการขายเติบโต YoY และ อัตราการทำกำไรที่ยังอยู่ในระดับสูง แม้ว่าราคาวัตถุดิบของบริษัท ซึ่งได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นของราคาเหล็กแต่ปัจจุบันได้มีการเจรจาในการปรับขึ้นราคาขายกับทางคูโบต้าแล้ว ซึ่งอยู่ในทิศทางที่ดี
เคาะเป้า 7.00 บ.
ขณะที่ปรับประมาณการทั้งปี 64 จากรายได้ธุรกิจหลักที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นในไตรมาส 1/64 พร้อมแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องไปจนถึงช่วงไตรมาส 3/64ทำให้เราปรับประมาณการรายได้ในปี 64 มาที่ 541 ล้านบาท จากเดิมที่ 443 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.3% ส่งผลทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่่ 82.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.0%จากประมาณการเดิม
ทางฝ่ายปรับราคาเหมาะสมของ KWM ในปี 64 ใหม่มาอยู่ที่ 7.00 บาทต่อหุ้น (Gordon Growth Model: g=3.5% (จากเดิม 2.5%), Rm=6.7%, Rf=0.78%, Beta=0.78) จากแนวโน้มของกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นและแนวโน้มของการทำเกษตรที่เพิ่มขึ้นจากราคาสินค้าการเกษตรที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นและปริมาณน้ำฝนในอ่างเก็บน้ำที่เพิ่มขึ้น เราจึงปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” แม้ว่าราคาจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1