PPM รับเต็มค่าไฟขึ้น - EV บูม แห่ติดแผงโซลาร์บ้านพรึ่บ
ข่าววันนี้ PPM รับสองเด้ง กกพ.ปรับขึ้นค่าไฟ - รถ EV บูม เชื่อคนหันมาติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ตามบ้านเพียบ พร้อมแย้มพันธมิตรสนใจถือหุ้นบริษัทลูกโซลาร์ พีพีเอ็ม คาดชัเจนเร็วๆ นี้ ล่าสุดโชว์ผลงานยอดเยี่ยมปี 64 พลิกกำไรแรง 1,137.25% แตะ 86.84 ล้านบาท
นายชำนาญ พรพิไลลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พรพรหมเม็ททอล จำกัด (มหาชน) หรือ PPM เปิดเผยว่า การที่ กกพ.ได้มีมติให้ปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปร หรือค่าเอฟที โดยเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในรอบเดือน พฤษภาคม-สิงหาคม 2565 เพิ่มขึ้น 23.38 สตางค์ จากปัจจุบัน 1.39 สตางค์ มาอยู่ที่ 24.77 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.00 บาทต่อหน่วย หรือเพิ่มขึ้น 5.82% จากงวดปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นผลบวกต่อธุรกิจโซลาร์เซลล์ บริษัท โซลาร์พีพีเอ็ม จำกัด หรือ SPPM ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ PPM
@@ รัฐหนุนใช้รถ EV
นอกจากนี้จากนโยบายรัฐบาลที่ได้มีการสนับสนุนให้ค่ายรถยนต์ประกอบรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ภายในประเทศ และยังมีการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจำนวนมาก รวมถึงการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ จำนวนมากของค่ายรถยนต์เข้าสู่ตลาด เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้มีความต้องการใช้แผงโซลาร์เซลล์เพิ่มขึ้น เนื่องจากหากมีการปรับค่าไฟฟ้าแพงขึ้น การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ไว้ในบ้านจะมีความคุ้มค่าและประหยัดมากกว่า
“กกพ. ขึ้นค่าไฟ เราเชื่อว่าตลาดโซลาร์เซลล์จะบูมมาก ซึ่งโซลาร์เซลล์ของเราได้ มอก.แล้ว และการขึ้นค่าไฟนั้น ทำให้การลงทุนในโซลาร์เซลล์มีความคุ้มค่า เชื่อว่าดีมานด์จะกลับมาเพิ่มสูงขึ้น ส่วนการใช้อีวีที่ปัจจุบันเริ่มมีมากขึ้น ก็เชื่อว่าคนจะหันมาติดตั้งโซลาร์ตามบ้านกันมากขึ้นเช่นกัน เพราะถ้าไฟบ้านแพงการติดตั้งโซลาร์จะถูกกว่า” นายชำนาญ กล่าว
@@ แผนงานปี 65
สำหรับแผนงานในปี 2565 คาดยอดขายทั้ง 3 บริษัทจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 2.5 พันล้านบาท ซึ่งในส่วนของธุรกิจโซลาร์เซลล์ บริษัท โซลาร์ พีพีเอ็ม จำกัด หรือ SPPM จะเป็นตัวหลักในการสร้างรายได้ โดยคาดว่าจะเติบโตอยู่ที่ 30% ส่วนของ บริษัท พรีเมี่ยม เฟล็กซิเบิ้ล แพคเกจจิ้ง จำกัด หรือ PFP คาดว่าจะโต 10% และส่วนของ PPM โต 20%
นอกจากนี้ยังมีรายได้อุตสาหกรรมผลิตแบริเออร์ยางพารา และเสาหลักนําทางยางพารา ซึ่งคาดว่าในปี 2565 จะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
นายชำนาญ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันบริษัทเปิดกว้างรับพันธมิตรใหม่เข้ามาเพิ่มเติมในส่วนของธุรกิจโซลาร์ ซึ่งอยากให้เข้ามาเสริมด้านเงินทุน (Funding) เพื่อทำให้สามารถควบคุมต้นทุน และกระจายฐานลูกค้าให้ดีขึ้น เนื่องจากในอนาคตบริษัทมีแผนที่จะนำ SPPM เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งตอนนี้มีผู้แสดงความสนใจเข้ามาถือหุ้น โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้
@@ โชว์ผลงานปี 64
สำหรับผลการดําเนินงานในปี 2564 จากงบรวมบริษัทมีกําไรสําหรับงวดส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่เป็นเงิน 86.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,137.25% จากปีก่อนหน้าที่มีผลขาดทุนสําหรับงวดส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่เป็นเงิน 8.37ล้านบาท
ทั้งนี้เนื่องจากในไตรมาสนี้บริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจโซลาร์เซลล์มีผลกําไรมาก และบริษัทมีผลกําไรดีเช่นกัน ในขณะที่บริษัทย่อยอีกแห่งผลิตสินค้ากลุ่มบรรจุภัณฑ์มีผลขาดทุนจากยอดขายลดลงและต้นทุนสูงขึ้น เมื่อผ่านพ้นวิกฤตการณ์โควิด- 19 แล้ว ยอดขายคาดว่าจะกลับสู่ภาวะปกติและมีผลกําไร
ขณะที่บริษัทมีรายได้จากการขายในปี 2564 อยู่ที่ 2,044.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 37.76% เนื่องด้วยธุรกิจโซลาร์เซลล์เติบโตเพิ่มขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่บริษัทยังจําหน่ายวัตถุดิบเพื่อผลิตแบริเออร์ยางพารา และเสาหลักนําทางยางพาราได้ดีอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติเสนอผู้ถือหุ้นอนุมัติจ่ายปันผลงวดปี 2564 (ม.ค.-ธ.ค.) เป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.033 บาท โดยวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record Date) วันที่ 11 พฤษภาคม 2565 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 10 พฤษภาคม 2565 เพื่อดำเนินการจ่ายปันผลในวันที่ 27 พฤษภาคม 2565