เอาไม่อยู่! เวียดนามเข้มเคอร์ฟิวโฮจิมินห์ไม่มีกำหนดหลัง “เดลตา” คุมไม่อยู่

วันนี้ ( 27 ก.ค. 64 )เวียดนามประกาศมาตรการเคอร์ฟิว หรือห้ามออกนอกเคหสถานยามวิกาลอย่างเข้มงวด ในนครโฮจิมินห์ เมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของเวียดนาม เพื่อสกัดการระบาดของโควิดกลายพันธุ์ “เดลตา” ที่กำลังระบาดหนักในโฮจิมินห์ โดยจะเริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น. จนถึง 6.00 น. ของทุกวัน เริ่มใช้เมื่อวานนี้ (26 ก.ค. ) และยังไม่มีกำหนดวันสิ้นสุด โฮจิมินห์ยังไม่เคยใช้มาตรการนี้มาก่อนเลย

ด้าน เหวียน ถั่น ฟอง นายกเทศมนตรีนครโฮจิมินห์ ระบุว่า เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย จะเพิ่มความเข้มงวดกวดขันในการออกตรวจท้องที่ในโฮจิมินห์นับตั้งแต่นี้ และหากพบผู้ฝ่าฝืนมาตรการห้ามออกนอกเคหสถานยามวิกาล จะลงโทษอย่างเหมาะสม ซึ่งรวมถึงโทษกักขังด้วย

รัฐบาลเวียดนามเลี่ยงใช้คำว่า “เคอร์ฟิว” แต่ภายใต้มาตรการนี้ ประชากรที่มีทั้งหมดกว่า 10 ล้านคนในโฮจิมินห์ จะต้องอยู่ภายในมาตรการห้ามออกนอกเคหสถานในช่วงเวลาที่กำหนด ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโฮจิมินห์

ขณะนี้ โฮจิมินห์ เป็นศูนย์กลางการระบาดของโควิดหนักที่สุดในเวียดนาม พบผู้ติดเชื้อในโฮจิมินห์แล้วมากกว่า 62,000 คนนับตั้งแต่เดือนเมษายนปีนี้ หรือมากกว่า 60% ของยอดรวมตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดล่าสุดในเวียดนาม ซึ่งอยู่ที่กว่า 106,000 คน เพิ่มขึ้น 7,882 คนในรอบ 24 ชั่วโมง ส่วนยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 524 คน เพิ่มขึ้น 31 คน

นับเป็นการยกระดับมาตรสกัดการระบาดของโควิดที่เข้มข้นมากขึ้นในโฮจิมินห์ หลังจากได้ใช้มาตรการจำกัดการเคลื่อนย้ายของประชาชนในเมืองนี้ มานานกว่า 2 เดือนแล้ว และเวียดนามเพิ่งเพิ่มมาตรการเข้มข้นมากขึ้น ด้วยการเริ่มใช้มาตรการล็อกดาวน์ หรือจำกัดพื้นที่ ในโฮจิมินห์ ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทั้งยังสั่งระงับระบบขนส่งมวลชนเกือบทั้งหมด ที่เชื่อมกับโฮจิมินห์ ส่วนชาวโฮจิมินห์ที่เดินทางไปยังเมืองอื่น ๆ จะต้องถูกกักตัวในศูนย์กักตัวของรัฐอย่างน้อย 2 สัปดาห์ แต่ก็ยังคงคุมการระบาดของเดลตาไม่อยู่

จากที่เคยเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลก ที่ประสบความสำเร็จในการคุมการระบาดของโควิดรอบแรกเมื่อปีที่แล้ว และเศรษฐกิจยังเติบโตโดยไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด แต่ในขณะนี้ ประชากรมากกว่า 1 ใน 3 ของเวียดนาม ที่มีประชากรทั้งประเทศ 100 ล้านคน กลับต้องอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ หรือจำกัดพื้นที่ รวมไปถึงกรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนามด้วย อันเนื่องมาจากการระบาดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของโควิดกลายพันธุ์ “เดลตา” 

ส่วนการจัดซื้อและการฉีดวัคซีนต้านโควิดก็ยังเชื่องช้า จนถึงบัดนี้ เวียดนามเพิ่งฉีดวัคซีนต้านโควิดไปได้เพียง 4.7 ล้านเข็มเท่านั้น รัฐบาลเวียดนามตั้งเป้าว่าจะบรรลุภูมิคุ้มกันหมู่โควิดในช่วงต้นปีหน้า 2022.