เที่ยวญี่ปุ่นแพงขึ้น "เกียวโต" ขึ้นภาษีที่พัก สูงสุด 10 เท่า สู้ภาวะ "Overtourism"

"เกียวโต" ขึ้นภาษีที่พัก สูงสุด 10 เท่า สู้ภาวะ "Overtourism"
การไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกำลังจะแพงขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด เกียวโต ของญี่ปุ่น ประกาศขึ้นภาษีทีพัก แพงขึ้น 10 เท่า สูงสุดตั้งแต่เคยมีมา เพื่อแก้ปัญหาภาวะนักท่องเที่ยวล้นเมือง หวังนำรายได้มาดูแลท้องถิ่นได้มากขึ้น
เมือง “เกียวโต” (Kyoto) ได้รับการอนุมัติจากทางการให้เริ่มปรับขึ้น ภาษีที่พักหรือภาษีโรงแรม (Accommodation Tax) ในอัตราสูงสุดถึง 10,000 เยนต่อคนต่อคืน หรือหมายความว่าเพิ่มสูงสุดถึง 10 เท่า จากอัตราในปัจจุบัน มาตรการดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่เดือนมีนาคม 2026 เป็นต้นไป
เกียวโต คือ หนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของญี่ปุ่น เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เพราะเป็นเมืองเก่าแก่ของญี่ปุ่น เต็มไปด้วยวัด ศาลเจ้า สถาปัตยกรรมโบราณ และกลิ่นอายความเป็นญีปุ่นแบบดั้งเดิม และธรรมชาติอันงดงาม มีสถานที่สำคัญที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกของยูเนสโก (UNESCO World Heritage) รวมถึง 17 แห่ง รวมไปถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวดังที่คนไทยรู้จักกันดี เช่น
“วัดทอง” วัดคินคะคุจิ (Kinkaku-ji ) หนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของเกียวโต อาคารหลักปิดทองคำแท้ทั้งหลัง ตั้งอยู่กลางสระน้ำสะท้อนเงางาม เป็นตัวแทนของความหรูหราในยุคมุโรมาจิ
ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ (Fushimi Inari Taisha ) ศาลเจ้าชินโตที่มีเสาโทริอิ (Torii) สีแดงเรียงรายเป็นพันต้นบนภูเขาอินาริ เส้นทางนี้ยาวกว่า 4 กิโลเมตร เป็นจุดยอดนิยมในการถ่ายรูป และเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและโชคลาภ
“วัดน้ำใส” วัดคิโยมิซุเดระ (Kiyomizu-dera ) จุดชมวิวเมืองเกียวโตจากระเบียงไม้สูงเหนือหุบเขา โดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว เป็นมรดกโลกและได้รับความนิยมทั้งช่วงซากุระบานและใบไม้แดง
การขึ้นภาษีที่พักไปยังเมืองที่เป็นหัวใจของการท่องเที่ยว นับได้ว่าเป็นความพยายามของทางการญี่ปุ่นที่จะดูแลและปกป้องท้องถิ่น จากภาวะ "Overtourism" หรือนักท่องเที่ยวล้นเมือง ที่เกิดขึ้นมายาวนาน สะสมมาหลายปี เนื่องจากรัฐบาลต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นรายได้ประเทศ และดูเหมือนว่ารัฐบาลจะทำได้สำเร็จ เพราะหลายปีที่ผ่านมาตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเยือนประเทศญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงล่าสุดปีที่แล้ว ได้ทำนิวไฮ ทำลายสถิติสูงสุดถึงเกือบ 37 ล้านคน และในครึ่งแรกของปีนี้ (2025) มีผู้มาเยือนกว่า 21.5 ล้านคนแล้ว
อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่ก็ยังคงกระจุกอยู่ในเมืองยอดนิยม เช่น “โตเกียว–โอซากา–เกียวโต” และเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอื่นๆ เช่น นารา คามาคุระ ฟูจิคาวากุจิโกะ สิ่งที่ตามา คือ การจราจรแน่นขนัด การแทรกตัวในพื้นที่แคบ การจัดการขยะ การละเมิดมารยาททางวัฒนธรรม
ข้อมูลจากสื่อระบุว่าในวันที่ 3 ตุลาคม 2025 รัฐบาลกลางผ่านการอนุมัติแผนการปรับอัตราภาษีที่พักให้แก่เกียวโต ซึ่งทางการเกียวโตยืนยันว่าเหตุที่จำเป็นต้องปรับภาษี เพราะแรงกดดันจากปริมาณนักท่องเที่ยวที่ล้นเมืองได้ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐาน วิถีชีวิตคนในพื้นที่ และทรัพยากรทางวัฒนธรรม โดยเมืองเกียวโตต้องการให้ผู้มาเยือน หรือนักท่องเที่ยว ต้องมีส่วนรับผิดชอบ ด้วยการจ่ายเงิน เพื่อดูแลคุณภาพของเมืองให้ยั่งยืนในระยะยาวได้
ทั้งนี้อัตราภาษีที่พักแบบใหม่ของเกียวโตในมีนาคมปีหน้านี้ จะถูกจัดเรียงในระบบขั้นบันไดตามราคาที่พักต่อคืน หมายความว่า "ที่พักยิ่งแพงยิ่งหรู ภาษียิ่งแพงขึ้น"
ที่พักที่มีราคาต่ำกว่า 6,000 เยน ภาษียังคงอยู่ที่ 200 เยนไม่เปลี่ยนแปลง
ที่พักในช่วงราคาที่ 6,000–20,000 เยน จะถูกเก็บภาษีที่ 400 เยน จากเดิม 200 เยน
ที่พักในราคาตั้งแต่ 20,000–50,000 เยน จะถูกเก็บที่ 1,000 เยน (เพิ่มจาก 500 เยน)
ที่พักในราคาตั้งแต่ 50,000–100,000 เยน จะถูกเก็บที่ 4,000 เยน (จากเดิม 1,000 เยน)
ส่วนที่พักหรูที่มีราคาสูงมากกว่า 100,000 เยนต่อคืนขึ้นไป จะต้องจ่ายภาษีสูงสุดถึง 10,000 เยน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเพดานเดิม 1,000 เยนถึง 10 เท่า
ดังนั้นชัดเจนว่าภาระการขึ้นภาษีใหม่นี้จะไม่ส่งผลกระทบหนักต่อนักท่องเที่ยวแบบประหยัด (budget travellers) เพราะอัตราภาษีที่พักถูกจะไม่ได้รับการปรับขึ้นมากนัก แต่เป็นความจงใจรีดภาษีไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับสูง เพิ่มเฉพาะในกลุ่มที่พักหรู (luxury) ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวเหล่านี้มักเป็นคนมีเงิน และมองว่าสามารถจ่ายได้อยู่แล้วนั่นเอง
โจทย์ใหญ่ "ญี่ปุ่น" สร้างสมดุล- ท่องเที่ยวยั่งยืน
เกียวโต ไม่ใช่เมืองแรกที่ขึ้นภาษีที่พัก และไม่ใช่ที่สุดท้ายด้วยสำหรับอนาคต เป็นความตั้งใจของญี่ปุ่นเพื่อสร้างความสมดุลในด้านการท่องเที่ยว
การเก็บภาษีที่พักในญี่ปุ่นไม่ใช่เรื่องใหม่ ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวออกมาเป็นระยะๆ โดยเฉพาะเมืองใหญ่ๆหลายแห่งได้ออกกฎหมายหลายอย่างๆคล้ายๆกันมาแล้ว แต่สำหรับเมืองโตเกียวเป็นหนึ่งในเมืองแรกที่เริ่มเก็บภาษีที่พักตั้งแต่ปี 2002 แต่มีการยกเว้นที่พักราคาถูก หรือต่ำกว่า 10,000 เยน ต่อคนต่อคืน และจะเก็บภาษีในอัตรา 100 เยนสำหรับที่พัก 10,000–15,000 เยน และ 200 เยนสำหรับที่พักที่มากกว่า 15,000 เยน
ขณะที่เมืองโอซากาเริ่มเก็บภาษีที่พักตั้งแต่ปี 2017 โดยรวมถึงโรงแรมและหอพักเอกชน และไม่เก็บภาษีสำหรับห้องพักราคาต่ำกว่า 7,000 เยน ในขณะที่ช่วงราคาที่พัก 7,000–15,000 เยน เก็บภาษี 100 เยน, 15,000–20,000 เยน เก็บ 200 เยน, และมากกว่า 20,000 เยน เก็บ 300 เยน นอกจากนี้ เมืองอื่นๆ เช่นในฮอกไกโด (Kotchan) เคยใช้ระบบภาษีแบบร้อยละ (ประมาณ 2% ของค่าห้องพัก) และในฟุกุโอกะเมืองหนึ่งยังมีระบบเก็บภาษีสองระดับ (double taxation) คือ ภาษีจังหวัด (prefectural) และภาษีเมือง (city) ในอัตราที่ต่างกัน
เกียวโตเองเคยเริ่มเก็บภาษีที่พักตั้งแต่ปี 2018 โดยมีเพดานภาษีสูงสุดอยู่เพียงแค่ 1,000 เยนเท่านั้น แต่ภายใต้แผนใหม่เพดานจะพุ่งไปถึง 10,000 เยน ทางการคาดว่า หลังจากปรับภาษี ระบบใหม่ เมืองเกียวโตจะทำรายได้จากภาษีที่พักเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว จากประมาณ 5,200–5,900 ล้านเยน เป็นประมาณ 12,600 ล้านเยนต่อปี รายได้ส่วนที่เพิ่มขึ้นคาดว่าจะถูกนำไปใช้เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในเมือง รับมือการเดินทางที่เพิ่มขึ้น และแก้ไขปัญหาที่เกิดจากจำนวนนักท่องเที่ยวล้น เช่น การจัดการขยะ ปรับปรุงระบบขนส่งสาธารณะ และอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม
อย่างไรก็ตามสิ่งที่นักวิเคราะห์เตือนตามมา คือ ภาษีที่พุ่งขึ้น อาจจะทำให้เกิด “การโยกย้าย” นักท่องเที่ยวออกจากเกียวโตไปยังเมืองใกล้เคียง เช่น โอซากา หรือเมืองรองที่ค่าใช้จ่ายถูกกว่า และนักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางมาเที่ยวเกียวโตได้โดยไม่พักค้างคืนในเกียวโต จึงอาจทำให้รายได้จากภาคที่พักของเกียวโตถูกบั่นทอนไปได้
เศรษฐกิจญี่ปุ่นพึ่งพาการท่องเที่ยวไม่น้อย รัฐบาลญี่ปุ่นยังคงตั้งเป้านำนักท่องเที่ยวให้แตะ 60 ล้านคนต่อปีภายในปี 2030 โดยในปัจจุบัน ภาคการท่องเที่ยวคิดเป็นราว 7.3% ของ GDP ญี่ปุ่น และรองรับการจ้างงานกว่า 9% ของแรงงานทั้งหมดของประเทศ ในปี 2024 นักท่องเที่ยวต่างชาติใช้จ่ายในญี่ปุ่นทำนิวไฮมากกว่า 8.1 ล้านล้านเยน ขณะเดียวกันทางการก็ได้กระตุ้นและโปรโมทการท่องเที่ยวไปยังเมืองใหม่ๆ เมืองรองในชนบทให้มากขึ้นเพื่อกระจายรายได้ให้สมดุล
อีกปัจจัยที่หนุนให้นักท่องเที่ยวบุกญี่ปุ่นคือค่าเงินเยนที่อ่อนลง ทำให้ญี่ปุ่นกลายเป็นจุดหมายที่ถูกลงในสายตานักท่องเที่ยวต่างชาติ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลญี่ปุ่นก็พยายามออกมาตรการควบคุมค่าเงินและเสถียรภาพเศรษฐกิจเพื่อไม่ให้เกิดผลด้านลบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
