พ่อแค้นเกินต้าน ญาติผู้น้องลวนลามหวังย่ำยีลูกสาววัย 14 เดือดบุกบ้านแทงสาหัส
พ่อแค้นเกินต้าน ญาติผู้น้องลวนลามหวังย่ำยีลูกสาววัย 14 หลังหลอกให้ขี่รถจยย.ซ้อนท้าย จะพาไปหาพ่อ เดือดบุกบ้านแทงสาหัส ตาเล่านาทีระทึก
วันที่ 17 ม.ค.65 จากเหตุการณ์พ่อแค้นญาติผู้น้องลวนลามลูกสาวจึงบุกแทง เมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 ม.ค.65 ผู้บาดเจ็บคือ นายไกรณรงค์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ชาว ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ถูก นายสมพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นญาติผู้พี่ใช้มีดปลายแหลมบุกแทงถึงในบ้านพัก ทำให้ นายไกรณรงค์ ได้รับบาดเจ็บถูกแทงเข้าที่เอวด้านหลังซ้าย โดยแพทย์ได้เย็บบาดแผล 5 เข็ม ก่อนกลับมารักษาตัวที่บ้าน
โดยในวันนี้ เด็กหญิงผู้เสียหายระบุว่า สาเหตุที่พ่อไปแทง นายไกรณรงค์ เพราะหลอกตนพาขี่รถ จยย.นั่งซ้อนท้ายไปด้วยกัน บอกว่าจะพาไปหาพ่อ ที่กำลังสูบน้ำหาปลาที่หนองน้ำในหมู่บ้าน พอไปถึงที่ลับตาคน นายไกรณรงค์ ได้บอกให้ตนขี่รถ โดยนายไกรณรงค์ สลับไปนั่งซ้อนท้ายแทน ตนจึงไปขี่ให้ แต่พอ นายไกรณรงค์ นั่งซ้อนก็ได้เอามือล้วงเข้าไปในเสื้อจับหน้าอกพยายามลวนลามเพื่อจะข่มขืน
“ช่วงนั้นหมูได้ร้องขอความช่วยเหลือและขัดขืนต่อสู้ ใช้ปากกัดเข้าที่แขน นายไกรณรงค์ ก่อนจะดิ้นเอาตัวรอดมาได้อย่างหวุดหวิด ต่อมา นายไกรณรงค์ พยายามขอร้องไม่ให้เอาเรื่องและอย่าไปบอกใคร แต่หนูไม่ยอม หลังจากกลับมาบ้านแล้วก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ นางรัชนี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นแม่เลี้ยงฟัง นางรัชนี จึงบอกพ่อ ทำให้พ่อ ไม่พอใจก่อนจะเดินไปที่บ้าน นายไกรณรงค์ และก่อเหตุดังกล่าว" เด็กหญิง ระบุ
ด้าน นายสวัสดิ์ อายุ 83 ปี ตาของ นายสมพร และ นายไกรณรงค์ ได้เล่าเหตุการณ์ให้ทราบว่า นายสมพร ได้ไปสอบถาม นายไกรณรงค์ ว่า “ทำไมถึงทำกับลูกของตนแบบนั้น” ก่อนใช้กิ่งไม้ฟาด นายไกรณรงค์ ซึ่งตนได้ห้ามปราม ขณะที่ นายไกรณรงค์ ก็พยายามต่อสู้และเข้ามาทำร้าย นายสมพร ก่อนถูก นายสมพร ใช้มีดแทงจนได้รับบาดเจ็บ
อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ดังกล่าว นางรัชนี ได้เข้าแจ้งความไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งใหญ่ ในข้อหาอนาจาร ส่วน นายไกรณรงค์ ไปพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านยาย อาการยังไม้สู้ดีนัก นอกจากนี้ยังได้เปิดเสื้อให้ผู้สื่อข่าวดูบาดแผลที่ถูกแทง โดยนายไกรณรงค์ ได้พูดถึงเหตุการณ์เพียงสั้นๆ ว่า “วันเกิดเหตุฝ่ายผู้เสียหายกล่าวหาว่าตนไปข่มขืนลูกสาวเขา แต่ตนไม่ได้ข่มขืน”
ส่วนในทางคดีนั้น ทางพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งใหญ่ จะลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อไปสอบปากคำญาติทั้งสองฝ่ายว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งหากไม่สามารถตกลงกันไม่ได้ก็จะต้องดำเนินคดีไปตามกฏหมาย ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ส่วนฝ่ายใดจะแจ้งความอย่างไรนั้น ตอนนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด และพร้อมให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายด้วย