รีเซต

ร้านขายชุดนักเรียน 50 บาท : ภาพสะท้อนปัญหาเศรษฐกิจและการศึกษาไทย

ร้านขายชุดนักเรียน 50 บาท : ภาพสะท้อนปัญหาเศรษฐกิจและการศึกษาไทย
TNN ช่อง16
13 พฤษภาคม 2567 ( 08:36 )
36

ในช่วงเปิดเทอมใหญ่ของปี 2567 ภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวดีและค่าใช้จ่ายในครัวเรือนที่สูงขึ้น ทำให้ผู้ปกครองต้องใช้จ่ายอย่างประหยัดมากขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากการประเมินมูลค่าการใช้จ่ายด้านการศึกษาในกรุงเทพฯและปริมณฑลที่เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 2.3 เมื่อเทียบกับปีก่อน 


อย่างไรก็ตาม ร้านขายชุดนักเรียนในจังหวัดนนทบุรีที่ประกาศขายชุดนักเรียนในราคาตัวละ 50 บาท ได้สร้างความสนใจและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ปกครอง



เจ้าของร้านชุดนักเรียน 50 บาท: ความตั้งใจช่วยเหลือสังคม


นางประทุมพร ขำประไพร เจ้าของร้านชุดนักเรียน 'ร้านป้าพร' ในจังหวัดนนทบุรี เป็นผู้ริเริ่มแนวคิดการขายชุดนักเรียนในราคาถูกเพียงตัวละ 50 บาท โดยมีเป้าหมายเพื่อแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองที่มีรายได้น้อย แม้ว่าชุดนักเรียนที่นำมาขายจะมีตำหนิบ้าง แต่ก็ยังได้รับความสนใจจากผู้ปกครองเป็นอย่างมาก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของเจ้าของร้านในการช่วยเหลือสังคม



ผลตอบรับจากผู้ปกครอง: การประหยัดค่าใช้จ่ายในยามเศรษฐกิจฝืดเคือง


ผู้ปกครองที่ได้ซื้อชุดนักเรียนจากร้านป้าพร ต่างชื่นชมในความถูกของราคาที่เพียงตัวละ 50 บาท เมื่อเทียบกับราคาชุดนักเรียนทั่วไปที่มักไม่ต่ำกว่า 150 บาท การซื้อชุดนักเรียนราคาถูกช่วยให้ผู้ปกครองสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากในช่วงที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวดีนัก



สถานการณ์ค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา: เพิ่มขึ้นเล็กน้อยท่ามกลางเศรษฐกิจชะลอตัว


ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า มูลค่าการใช้จ่ายด้านการศึกษาในกรุงเทพฯและปริมณฑล ในช่วงเปิดเทอมใหญ่ปี 2567 เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 2.3 เมื่อเทียบกับปีก่อน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 29,000 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวดีและค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้ผู้ปกครองต้องควบคุมค่าใช้จ่ายและใช้จ่ายอย่างประหยัดมากขึ้น เพื่อรองรับค่าเทอมและค่าธรรมเนียมการศึกษาที่ปรับตัวสูงขึ้น



ร้านขายชุดนักเรียนราคาถูกเพียง 50 บาท สะท้อนให้เห็นถึงความยากลำบากของผู้ปกครองในการแบกรับค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของบุตรหลานท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย การริเริ่มขายชุดนักเรียนราคาถูกของร้านป้าพรนับเป็นตัวอย่างที่ดีของการช่วยเหลือสังคม 


อย่างไรก็ตาม ปัญหาค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาที่สูงเกินไปเมื่อเทียบกับรายได้ของประชาชน ยังเป็นประเด็นที่ภาครัฐและสังคมควรให้ความสำคัญและหาทางแก้ไขอย่างยั่งยืนต่อไป เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียมสำหรับเยาวชนไทยทุกคน โดยไม่แบ่งแยกฐานะทางเศรษฐกิจ



ข่าวที่เกี่ยวข้อง