มรสุมถล่มภาคใต้ เรนบอมบ์ทำสุราษฎร์ฯ ฝนตกหนัก

ภาพล่าสุด สถานการณ์น้ำท่วมเขตเทศบาลเมืองไชยา อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ถนนไชยา-ท่าชนะเส้นล่าง มีน้ำท่วมขังตลอดเส้นทาง แต่รถขนาดใหญ่ยังสัญจรผ่านได้ ส่วนตลาดเทศบาลยังมีน้ำท่วมขังสูงประมาณ 50 ซม.บางจุด 

มวลน้ำจากตลาดไชยา ยังไหลหลากผ่านถนนไชยา-ท่าชนะ สายเก่า เพื่อไหลลงสู่ทะเล แต่ยังระบายได้ช้า อีกทั้งล่าสุดฝนยังตกหนักต่อเนื่อง เป็นระยะตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา คาดการณ์ว่าจะตกหนักตลอดทั้งวันนี้ 

ชาวบ้านบางส่วนต้องอพยพสิ่งของไว้บนที่สูงและมีบางส่วนได้อพยพไปอยู่บ้านญาติ และมีรถยนต์จมอยู่ใต้น้ำหลายคันและมีบางคนได้ขับรถฝ่ากระแสน้ำแต่รถถูกกระแสน้ำไหลเชี่ยวพัดพารถตกน้ำไปแต่ก็โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

มีภาพนาทีชีวิต กองพันทหาราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 25 จัดทีมชุดบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับ อำเภอไชยา และหน่วยกู้ภัยกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี และภาคประชาชน ลงพื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลป่าเว อำเภอไชยา ให้การช่วยเหลือเคลื่อนย้ายอพยบผู้ป่วยติดเตียง เพศ หญิง อายุ 88 ปี ซึ่งบ้านพักอาศัยประสบภัยน้ำท่วมสูง ไม่สามารถออกมาได้ หน่วยจึงร่วมกับหน่วยกุ้ภัยในพื้นที่ นำเรือท้องแบน ออกให้ความช่วยเหลือในการเคลื่อนย้าย ไปที่ปลอดภัยแล้ว

ส่วนนี่เป็นภาพคืนที่ผ่านมา พื้นที่ตำบลปากหมาก อำเภอไชยา น้ำป่าไหลหลากไหลลงมาสู่ที่ต่ำในเขตเทศบาลตำบลตลาดไชยา ซึ่งเป็นจุดรับน้ำทำให้เกิดน้ำท่วมขังตั้งแต่สถานีรถไฟ ถึงสี่แยกท่าโพธิ์ เนื่องมวลน้ำไม่สามารถระบายได้ทัน เพราะมีการก่อสร้างสะพาน 

มวลน้ำยังไหลลงคลองท่าโพธิ์ช้า จนล้นตลิ่งท่วมโรงพยาบาลอำเภอไชยา และซอยวัดใหม่ท่าโพธิ์ ซึ่งอยู่ตรงข้ามโรงพยาบาล ระดับน้ำสูงประมาณ 30 เซนติเมตร จนถึง 1 เมตร ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวในค่ำคืนที่ผ่านมา ต้องอาศัยนอนอยู่กับน้ำท่วม

นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวในการประชุมเชิงปฏิบัติการเสริมสร้างศักยภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำในพื้นที่เสี่ยงภาคใต้ปี 2568 ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า จากการประเมินสภาพอากาศ จากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน 

จากการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักล่วงหน้า พบว่าบางพื้นที่ จังหวัดนราธิวาส ยะลา สตูล สงขลา พัทลุง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และชุมพร จะมีปริมาณฝนสะสมมากกว่า 200 มิลลิเมตร ส่งผลให้ภาคใต้ต้องเฝ้าระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย