รีเซต

ธปท. คาดลูกหนี้ 1 แสนราย โดดแจมมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ออนไลน์-เล็งช่วยสินเชื่อบ้านต่อ

ธปท. คาดลูกหนี้ 1 แสนราย โดดแจมมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ออนไลน์-เล็งช่วยสินเชื่อบ้านต่อ
ข่าวสด
1 มิถุนายน 2564 ( 16:55 )
80

 

ข่าววันนี้ นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท. ตั้งเป้าหมายว่าจะมีลูกหนี้เข้าร่วมมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ออนไลน์ ระหว่างวันที่ 1 มิ.ย.- 31 ก.ค. 2564 ประมาณ 1 แสนบัญชี หรือคิดเป็นมูลหนี้ 3.8 หมื่นล้านบาท เฉลี่ยมูลหนี้รายละประมาณ 3.8 แสนบาท จากปัจจุบันมีพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์อยู่ที่ 6.6 ล้านบัญชี คิดเป็นยอดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ประมาณ 2.5 ล้านล้านบาท โดยใน 1 แสนบัญชี แบ่งเป็น ลูกหนี้กลุ่มที่ 1. ยังไม่เป็นหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) หรือกลุ่มที่เป็นเอ็นพีแอล แต่ยังไม่ถูกยึดรถ ประมาณ 5 หมื่นบัญชี และเป็นลูกหนี้กลุ่มที่ 2. ลูกหนี้ที่รถถูกยึดแล้วแต่ยังไม่ขายทอดตลาด ประมาณ 2.5 หมื่นบัญชี และลูกหนี้กลุ่มที่ 3. ลูกหนี้ที่รถถูกขายทอดตลาดแล้ว แต่ยังมีหนี้เช่าซื้อส่วนที่ขาด อีก 2.5 หมื่นบัญชี

 

ทั้งนี้ มหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ออนไลน์ มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผล กระทบจากวิกฤตโควิด-19 ให้สามารถชำระหนี้ได้ลดน้อยลง เพราะปัจจุบันสินเชื่อดังกล่าวที่มีปริมาณสูงเป็นอันดับที่ 3 รองจากสินเชื่อบัตรเครดิต-สินเชื่อบุคคล และสินเชื่อที่อยู่อาศัย โดย ธปท. เห็นว่ารถยนต์เป็นพาหนะที่สำคัญในการประกอบธุรกิจ และใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้นจึงอยากช่วยบรรเทาภาระให้ลูกหนี้ที่เดือดร้อนและอาจถูกยึดรถยนต์ เพื่อให้ยังสามารถมีเครื่องมือในการทำมาหากิน และใช้ชีวิตประจำวันต่อไปได้

 

โดยแนวทางการช่วยเหลือตามมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ออนไลน์นั้น จะสอดคล้องกับมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยระยะที่ 3 ของ ธปท. ซึ่งมีเรื่องเกี่ยวกับการช่วยเหลือลูกหนี้ในสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์อยู่แล้ว แต่แนวทางการช่วยเหลือในมหกรรมฯ ครั้งนี้จะมีควาชัดเจนเกี่ยวกับเงื่อนไขและกระบวนการต่างๆ มากขึ้น รวมถึงสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น โดยจะมีการรายงานความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือตามมหกรรมฯ ทุกสัปดาห์

 

“ในงานมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ จะมีแนวทางใหม่ที่แตกต่างจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยระยะที่ 3 คือ การคำนวณดอกเบี้ยในช่วงพักชำระหนี้ ซึ่งจะคิดจากฐานของค่างวดที่ได้พักชำระหนี้เท่านั้น ตามเกณฑ์ของ สคบ. ดังนั้นดอกเบี้ยที่ลูกหนี้ต้องจ่ายในช่วงพักชำระจะลดลงอย่างมาก ทำให้ภาระของลูกหนี้ลดลง” นางธัญญนิตย์ กล่าว

 

นางธัญญนิตย์ กล่าวอีกว่า ธปท. มองว่าระยะเวลาการดำเนินมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ออนไลน์ ที่ 2 เดือน น่าจะเพียงพอในการรองรับความต้องการในการช่วยเหลือของลูกหนี้ที่มีปัญหาได้ เนื่องจากแนวทางการให้ความช่วยเหลือของมหกรรมฯ สอดคล้องกับมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยระยะที่ 3 ของ ธปท. ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินการถึงสิ้นปี 2564 ซึ่งหากยังมีลูกหนี้ที่ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมหลังจากนี้ก็สามารถขอรับความช่วยเหลือในมาตรการระยะที่ 3 ได้ และภาพรวมเอ็นพีแอลของสินเชื่อเช่าซื้อก็ยังไม่ได้อยู่ในระดับที่น่ากังวลมากนัก ยังอยู่ในระดับที่ยอมรับได้

 

สำหรับความคืบหน้ามหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อบุคคลและบัตรเครดิต พบว่า ปัจจุบันมีลูกหนี้ที่ยื่นขอลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือผ่านระบบออนไลน์ ประมาณ 3 แสนราย คิดเป็น 6-7 แสนรายการ เฉลี่ย 1 ราย ต่อ 2 รายการ โดยพบว่าที่ผ่านมามีลูกหนี้ที่ยื่นขอรับความช่วยเหลือ ได้รับความช่วยเหลือเรียบร้อยแล้ว ประมาณ 1.5 แสนราย คิดเป็น 70% ของยอดลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือทั้งหมด เป็นมูลหนี้ 8.6 พันล้านบาท และส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างพิจารณาเงื่อนไข หากผ่านเกณฑ์ก็สามารถรับความช่วยเหลือได้

 

“มหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อบุคคลและหนี้บัตรเครดิต จะดำเนินการถึงสิ้น มิ.ย. นี้เท่านั้น หลังจากดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ. 2564 ซึ่งในช่วงแรกๆ มีลูกหนี้ให้ความสนใจขอเข้าร่วมจำนวนมาก แต่หลังๆ เริ่มแผ่ว เหลือหลักพันราย ดังนั้น ธปท. อาจไม่มีการขยายระยะเวลาสำหรับมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อบุคคลและหนี้บัตรเครดิตแล้ว โดยลูกหนี้ที่ยังต้องการความช่วยเหลือก็สามารถขอรับความช่วยเหลือตามมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยระยะที่ 3 ของ ธปท. ได้ อีกทั้งขณะนี้ ธปท. อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะจัดมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อประเภทอื่นๆ อีกหรือไม่ โดยที่เหลือตอนนี้จะเป็นสินเชื่อบ้าน ซึ่งเป็นสินเชื่อก้อนใหญ่ มีความยุ่งยากและซับซ้อนมาก เพราะเป็นสินเชื่อที่มีหลักประกัน รวมถึงน่าจะเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ดังนั้นจึงขอเวลาพิจารณาอย่างรอบคอบก่อน” นางธัญญนิตย์ กล่าว

 

อย่างไรก็ดี ความช่วยเหลือในมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ออนไลน์ แบ่งเป็น 1. ลูกหนี้ที่ยังไม่เป็นเอ็นพีแอลหรือเป็นเอ็นพีแอลแล้วแต่รถยังไม่ถูกยึด แนวทางช่วยเหลือจะสอดคล้องกับมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยระยะที่ 3 ของ ธปท. ได้แก่ การปรับโครงสร้างหนี้ ลดค่างวด ขยายระยะเวลาชำระหนี้ สำหรับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบรุนแรง สามารถขอพักชำระค่างวดได้ 3เดือน หรือตามผลกระทบที่ลูกหนี้ได้รับ โดยแนวทางใหม่จะคำนวณดอกเบี้ยในช่วงพักชำระหนี้จากฐานของค่างวดที่ได้พักชำระหนี้ตามเกณฑ์ของ สคบ.ซึ่งจะทำให้ดอกเบี้ยในช่วงที่พักชำระหนี้ถูกลงอย่างมาก

 

ส่วนลูกหนี้ที่เคยพักชำระค่างวดหรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และได้รับผลกระทบรุนแรงจนไม่สามารถชำระหนี้ต่อไปได้ สามารถคืนรถยนต์เพื่อลดภาระหนี้ได้ และหากราคาขายรถทอดตลาดที่ได้รับต่ำกว่าภาระหนี้คงค้าง ลูกหนี้สามารถขอผ่อนปรนเพิ่มเติมได้โดยผู้ให้บริการทางการเงินอาจพิจารณายกหนี้ส่วนที่เหลือให้ตามความเหมาะสม

 

2. ลูกหนี้ที่รถถูกยึดแล้ว แต่ยังไม่ถูกขายทอดตลาด ลูกหนี้เช่าซื้อสามารถใช้ช่องทางของงานมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในครั้งนี้ เพื่อเจรจากับเจ้าหนี้เช่าซื้อที่ร่วมงานเพื่อขอรถที่ถูกยึดไปคืน โดยเจ้าหนี้เช่าซื้อจะชะลอการขายทอดตลาด และปรับโครงสร้างหนี้ โดยงานมหกรรมในครั้งนี้จะช่วยให้ลูกหนี้เช่าซื้อมีโอกาสที่จะนำรถกลับไปประกอบอาชีพหรือใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยครั้งนี้หวังว่าลูกหนี้ที่ถูกยึดรถไป ส่วนหนึ่งจะมีโอกาสที่จะได้รับรถคืน ซึ่งเป็นทางเลือกที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย

 

3. ลูกหนี้ที่รถถูกขายทอดตลาดแล้ว แต่ยังมีมูลหนี้เช่าซื้อส่วนที่ขาดกรณีรถถูกขายทอดตลาดแล้ว ปรากฏว่าเงินที่ได้รับนั้นน้อยกว่ายอดหนี้เช่าซื้อคงเหลือ ทำให้มียอดหนี้ส่วนขาด หรือติ่งหนี้ โดยในงานมหกรรมครั้งนี้ สคบ. และ ธปท. ได้ร่วมกันศึกษาแนวคำพิพากษาของศาลยุติธรรมเกี่ยวกับการคำนวณยอดหนี้เช่าซื้อส่วนขาด และได้จัดทำโปรแกรมการคำนวณยอดหนี้เช่าซื้อส่วนขาดแบบง่ายๆ เพื่อให้ลูกหนี้จะได้ใช้คำนวณ โดยลูกหนี้เช่าซื้อที่มีปัญหาเกี่ยวกับยอดหนี้เช่าซื้อส่วนขาดสามารถใช้ช่องทางของงานมหกรรมในครั้งนี้ไกล่เกลี่ยปัญหาที่เกิดขึ้นกับเจ้าหนี้ทั้งในส่วนที่ยังไม่มีการฟ้อง หรือฟ้องแล้ว ซึ่งคาดหวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรื่องนี้เป็นธรรมมากขึ้น และช่วยให้เจ้าหนี้และลูกหนี้เช่าซื้อสามารถตกลงกันได้ง่ายขึ้นและตรงไปตรงมา

 

 

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง