BANPU คัมแบ็ค ถ่านหิน-ก๊าซวิ่ง บาร์เนตต์ทำเงิน
ทันหุ้น - BANPU ยิ้มรับเข้าไฮซีซันราคาถ่านหิน-ก๊าซธรรมชาติขยับขึ้นรับฤดูหนาว หนุนความต้องการใช้งานถ่านหินพุ่ง แม่ทัพหญิง "สมฤดี ชัยมงคล" มองจากนี้ราคาถ่านหิน-ก๊าซพ้นจุดต่ำ ปูพรมรับทรัพย์แหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ 89ล้านเหรียญฯปลายปีนี้ พร้อมเดินหน้าตามแผนการเป็น Greener & Smarter
สถานการณ์ราคาหุ้น บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ขยับขึ้นมาอย่างน่าจับตา โดยวานนี้ (27 ต.ค. 63) ราคาปิดตลาดที่ 7 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.35 บาท หรือ 5.26% มีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้นที่ 1,073 ล้านบาท
นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้น BANPU เป็นผลมาจากปัจจัยเชิงบวกของการเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว ทำให้คาดว่าความต้องการใช้ถ่านหินในปลายปีนี้จะปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาถ่านหินและราคาก๊าซธรรมชาติมีโอกาสไต่ระดับขึ้น โดยล่าสุดราคาก๊าซธรรมชาติปิดที่ระดับราคา 3.02เหรียญสหรัฐต่อMMBtu ทำระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนมกราคม 2562 หนุนให้ราคาหุ้นมี Sentiment บวก
ทั้งนี้ แม้ว่าแนวโน้มกำไรในไตรมาส 3/2563อาจยังถูกดดันจากราคาถ่านหินที่ทรงตัวในระดับต่ำ อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นซื้อขายที่ PBV เพียง 0.58 เท่า ได้สะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว ขณะที่ปี 2564จะมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจก๊าซธรรมชาติมากขึ้น ทางฝ่ายจึงมองว่าจะส่งผลบวกต่อเสถียรภาพของกำไร BANPU ในอนาคต จากปัจจัยข้างต้นที่กล่าวมาทางฝ่ายจึงแนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" โดยวางกรอบแนวต้านทางเทคนิคไว้ที่ระดับราคา 6.90 บาท
**ถ่านหิน-ก๊าซพ้นจุดต่ำ
นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU กล่าวว่า ราคาถ่านหินและก๊าซธรรมชาติได้พ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว และมองว่าจากการเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวจะหนุนให้ต่างประเทศมีความต้องการใช้ถ่านหินเพิ่มขึ้น โดยแม้ว่าราคาถ่านหินในช่วงที่เหลือของปีนี้มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นตามปัจจัยของฤดูกาล แต่บริษัทยังคงเป้าหมายปริมาณการขายถ่านหินไว้ที่ประมาณ 40ล้านตันต่อปี เพราะประเมินว่าราคาถ่านหินในปีนี้และปีหน้าอาจปรับขึ้นได้ไม่สูงมากนักตามสภาวะเศรษฐกิจ
ในด้านธุรกิจก๊าซธรรมชาติ (Shale Gas) มองว่าในช่วงไตรมาส 4/2563จะเห็นการเติบโตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลักๆ เป็นผลมาจากการลงทุนในแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ (Barnett) ที่เพิ่งปิดดีลไปในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2563ที่ผ่านมาทำให้ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะมีการรับรู้กระแสเงินสดที่ได้จากผลการดำเนินงานของ Barnett ย้อนหลังไป 13 เดือน นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2562 มาจนถึงเดือนกันยายน 2563 มูลค่ารวมกว่า 89 ล้านเหรียญฯ เข้ามาได้อย่างเต็มไตรมาส และจะเติบโตอย่างชัดเจนตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมุ่งมั่นตามแผนการเป็น Greener & Smarter โดยให้ความสนใจในการขยายกลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน (Energy Generation) โครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันบริษัทยังคงมองหาโอกาสการลงทุนโดยเฉพาะในรูปแบบของการเข้าซื้อกิจการในโรงไฟฟ้าที่ดำเนินการอยู่แล้วเพื่อสร้างการรับรู้รายได้และผลกำไรเข้ามาทันทีหลังการลงทุน และมุ่งเน้นการลงทุนในตลาดที่มีความเติบโตของความต้องการใช้ไฟฟ้าและมีนโยบายสนับสนุนรัฐบาล เพื่อให้บรรรลุเป้าหมายกำลังการผลิต 5,300 เมกะวัตต์ (MW) ภายในปี 2568 ตามแผนงานที่วางไว้