ฟังอีกมุม! ช่างสักพญานาคเปิดใจบ้าง ยอมรับไม่ตรงปก ลูกค้าแห่ยกเลิกงาน

     ฟังอีกมุม! ช่างสักพญานาคเปิดใจบ้าง ยอมรับไม่ตรงปก ลูกค้าแห่ยกเลิกงาน ลั่นพร้อมรับผิดชอบ แต่ลูกค้าใจร้อนไปโพสต์เฟซบุ๊ก จนได้รับผลกระทบหนัก

จากกรณีหญิงสาวรายหนึ่งว่าจ้างให้ช่างสักลายบนแผ่นหลังเป็นรูปพญานาค แต่ลายที่ได้กลับไม่เหมือนต้นแบบ ขณะที่สาวเจ้าของลายสักประสานขอแก้ไข แต่กลับถูกโพสต์หยามนั้น จากนั้นเรื่องนี้กลายเป็นกระแสดราม่าในโลกออนไลน์

สำหรับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังร้านสักดังกล่าว ก่อนพบช่างสักอยู่กับภรรยาด้วยท่าทีเคร่งเครียด ขณะที่ภรรยานั่งร้องไห้จากความเครียดที่เกิดขึ้น ทั้งจากการด่าทออย่างรุนแรงของชาวเน็ต รวมทั้งความเดือดร้อนหลังจากลูกค้าที่นัดสักได้ยกเลิกการว่าจ้างเกือบทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ ทำให้สูญเสียรายได้ ขณะที่มีค่าใช้จ่ายสูง รวมทั้งเพิ่งขาดทุนจากการเปิดร้านสักที่อ.เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี จากวิกฤติโควิดที่ต้องปิดร้านและกลับมาเปิดร้านที่นครศรีธรรมราชได้เพียง 1 เดือน 

ช่างสักรายนี้เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ก.ย. โดยลูกค้าส่งแบบมา เมื่อตนได้รับแบบก็ร่างแบบและก่อนจะสัก ตนก็เอาแบบที่วาดให้ดู เค้าก็บอกว่าใหญ่ไป ตนก็แก้ใหม่เอาให้ดู ลูกค้าก็บอกว่าโอเค ตนก็เลยสักไป พอสักเสร็จถ่ายรูปจากมือถือและถามว่าชอบหรือไม่ ลูกค้าก็บอกว่าชอบอยู่ แต่อยากได้รูปเก่าเป็นพญานาคมากกว่า เดียวว่างๆ จะมาสักเพิ่มเป็นลายขนนก ซึ่งก็มีหลักฐานทางแชทไลน์

ส่วนที่ลูกค้านำเรื่องไปโพสต์เฟซบุ๊กนั้น มองว่าลูกค้าใจร้อนมากกว่า เพราะหลักฐานก็มีอยู่ และไม่จริงที่มากล่าวหาว่าจะไม่รับผิดชอบ เพราะได้ทักแชทไปถามว่า ถ้าไม่ชอบก็กลับมาแก้ไขได้ พร้อมขอโทษไปหลายครั้ง แต่ลูกค้ายังไม่หยุดโพสต์ เพราะคิดว่าจะไม่รับผิดชอบ

สำหรับประเด็นที่ลูกค้าแจ้งความและนัดไกล่เกลี่ยและตนไม่ได้เดินทางไปนั้น เพราะไม่มีรถไปสภ.เมืองนครศรีธรรมราช แต่พอไปถึงลูกค้าก็กลับไปแล้ว ส่วนผลกระทบตอนนี้ลูกค้าได้ยกเลิกงานทั้งหมด และไม่รู้ว่าจะไปทำอาชีพอะไร เพราะทำอาชีพสักเลี้ยงครอบครัวมากว่า 6 ปี ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหา ตอนนี้ตนโดนโจมตีทุกทางไม่กล้าออกไปใหน กระทบมาถึงลูกไปโรงเรียนโดนเพื่อนต่อว่าทำไมพ่อเป็นแบบนั้น จนลูกไม่กล้าไปโรงเรียน

ด้านภรรยาช่างสักกล่าวว่า ตอนนี้รายได้หายไปหมด ไม่กล้าออกไปไหน กระทบมาถึงลูกไม่กล้าไปโรงเรียนจริงๆ แฟนก็ยอมรับผิดทุกอย่าง พร้อมจะแก้ไขให้ โดยพยายามชี้แจง แต่ลูกค้าก็ไม่ฟัง คนที่สักไม่มีปัญหาอะไรพูดดี แต่คนที่แชร์ข่าวออกไปค่อนข้างจะออกตัวแรงไปหน่อย ตนก็ยอมรับว่าที่แฟนสักไม่ต้องปก และบอกลูกค้าแล้วว่าต้องให้แผลหายก่อนจึงจะมาแก้ ตนอยากให้ฟังทั้งสองฝ่าย ไม่อยากให้ฟังฝ่ายเดียว