ปลดล็อกอาชีพช่างสักที่เกาหลีใต้ ถูกกฎหมายแล้ว ไม่เป็นแพทย์ก็ทำได้

รัฐบาลเกาหลีใต้ผ่านกฎหมายอนุญาตให้ช่างสักที่ไม่ได้เป็นแพทย์สามารถประกอบอาชีพได้อย่างถูกกฎหมายเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่คำตัดสินของศาลฎีกาเมื่อปี 1992 ที่จำกัดการสักให้เป็นกิจกรรมทางการแพทย์เท่านั้น
กฎหมายฉบับใหม่ที่มีชื่อว่า “Tattooist Act” ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากสภาแห่งชาติเมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา กำหนดให้ผู้ที่ไม่ได้เป็นแพทย์สามารถขอรับใบอนุญาตประกอบอาชีพได้อย่างเป็นทางการ
อิม โบ-รัน ประธานสมาพันธ์ช่างสักแห่งเกาหลี กล่าวด้วยน้ำตาหลังการผ่านกฎหมายว่า “เหมือนฝันที่เป็นจริง ขอบคุณจากใจจริง”
ก่อนหน้านี้ ผู้ที่สักโดยไม่มีคุณวุฒิทางการแพทย์เสี่ยงต่อการถูกจำคุกสูงสุด 5 ปี หรือปรับสูงสุด 50 ล้านวอน หรือราว 1.2 ล้านบาท แม้จะไม่มีสถิติทางการว่ามีผู้ถูกดำเนินคดีมากน้อยเพียงใด แต่สหภาพช่างสักเกาหลีระบุว่าให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายกับช่างสักอย่างน้อยปีละ 50 ราย และเชื่อว่ามีคดีอีกมากที่จบลงด้วยการเสียค่าปรับ
กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการคาดการณ์ว่า เมื่อปี 2021 เกาหลีใต้มีช่างสักราว 350,000 คน ส่วนใหญ่ทำงานในสายสักกึ่งถาวรเพื่อความสวยงาม เช่น สักคิ้ว สักปาก และสักไรผม โดยแทบไม่มีแพทย์ที่ทำงานในสาขานี้ ขณะที่ช่างสักจำนวนมากมาจากพื้นฐานด้านศิลปะและความงามเช่นเดียวกับในต่างประเทศ
การสักที่ถือเป็น “กิจกรรมผิดกฎหมาย” มานาน ทำให้ช่างสักจำนวนไม่น้อยต้องเผชิญการคุกคาม ข่มขู่ หรือถูกลูกค้าแจ้งความ ตัวอย่างเช่น ช่างสักหญิงรายหนึ่งเคยเล่าว่าเธอถูกลูกค้าผู้ชายลวนลาม แต่ไม่กล้าแจ้งความเพราะกลัวถูกดำเนินคดีฐานสักโดยผิดกฎหมาย
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ศาลเกาหลีใต้เริ่มมีคำตัดสินยกฟ้องช่างสักหลายราย สะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติสังคมที่เริ่มเปลี่ยนแปลง
พัค จู-มิน ประธานคณะกรรมาธิการด้านสาธารณสุขของสภาและผู้ผลักดันกฎหมาย กล่าวว่า การผ่านกฎหมายครั้งนี้จะทำให้ประชาชน “สามารถรับบริการสักได้อย่างปลอดภัย และผู้ประกอบวิชาชีพในอุตสาหกรรมนี้จะได้รับการยอมรับอย่างถูกต้องตามกฎหมาย”
แต่ก็มีเสียงคัดค้านจากวงการแพทย์ โดยสมาคมแพทย์เกาหลีแถลงว่า การสัก “เป็นการทำลายผิวหนังและอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพ เช่น การขัดขวางการตรวจวินิจฉัยมะเร็ง” พร้อมยืนยันว่าการสัก “เป็นหัตถการทางการแพทย์โดยพื้นฐาน”
นอกจากนี้ แม้การสักจะได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่คนรุ่นใหม่และผู้มีอิทธิพลในโลกออนไลน์ แต่โพลล่าสุดยังชี้ว่า ชาวเกาหลีใต้ส่วนใหญ่ยังคงมีทัศนคติในแง่ลบต่อรอยสัก
กฎหมายใหม่จะมีผลบังคับใช้ภายใน 2 ปีข้างหน้า โดยช่างสักต้องสอบใบอนุญาตระดับชาติ ผ่านการอบรมด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย รวมทั้งเก็บบันทึกรายละเอียดการทำงานอย่างเข้มงวด ขณะที่การลบรอยสักด้วยเลเซอร์ ยังคงสงวนไว้เฉพาะผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์เท่านั้น
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
