ฉีดวัคซีนแล้ว60% โควิดยังระบาด เซเชลส์เปิดรับนักท่องเที่ยว
วันที่ 16 พ.ค. ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ประเทศเซเชลส์ หมู่เกาะในแอฟริกาตะวันออกฉีดวัคซีนให้ประชาชนแล้วร้อยละ 60 ของประชากรทั้งหมด 98,000 คน แต่จำนวนผู้ติดเชื้อยังเพิ่มสูงขึ้น
เดือนเมษายน จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นทำให้เจ้าหน้าที่ใช้มาตรการสกัดโควิด-19 กระทั่งเมื่อวันที่ 13 พ.ค.มีผู้ติดเชื้อรวมกว่า 2,700 คน โดยในจำนวนนี้มีร้อยละ 33 ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วแต่ยังติดเชื้อ
ถือว่าเซเชลส์มีการฉีดวัคซีนที่ครอบคลุมสูงยังคงเผชิญกับปัญหาว่า ประเทศสามารถฉีดวัคซีนป้องกันจากโรคโควิดได้หรือไม่
แต่ผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าวว่า การระบาดในเซเชลส์ไม่ได้เป็นสัญลักษณ์ว่าวัคซีนไม่ได้ผล แค่เป็นเครื่องเตือนใจว่าแม้แต่ประเทศที่มีระดับการฉีดวัคซีนสูง จะปล่อยให้การ์ดตกไม่ได้
รับนักท่องเที่ยวเต็มที่
ประเทศที่พึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยว เมื่อกว่าหนึ่งเดือนมาแล้ว ที่เซเชลส์มั่นใจมากว่า รับมือโควิด-19 ได้ จึงยกเลิกข้อจำกัดสำหรับนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ พร้อมเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวเกือบจะทุกชาติอีกครั้ง
หากมีผลตรวจหาโควิดแบบพีซีอาร์เป็นลบ คนนั้นๆ เข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัว
นับเป็นก้าวที่สำคัญของประเทศที่การท่องเที่ยวทำรายได้คิดเป็นร้อยละ 72 ของจีดีพีทั้งทางตรงและทางอ้อมและจ้างงานกว่าร้อยละ 30 ของประชากร โดยในขณะนั้น เซเชลส์รายงานมีผู้ติดเชื้อน้อยกว่า 3,800 คนและเสียชีวิต 16 ราย
นับตั้งแต่นั้นจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มกว่า 2 เท่าขึ้นสู่ 9,184 คน และเสียชีวิต 32 คน เมื่อ 13 พ.ค. โดยยังไม่ชัดเจนว่าทำไมจึงระบาด
นายซิลเวส เรดกอนเด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศและการท่องเที่ยวเซเชลส์กล่าวว่า ในช่วงกว่า 2-3 เดือนที่ผ่านมา หลังการฉีดวัคซีน ประชาชนเห็นว่าใครก็ตามที่ฉีดวัคซีนแล้วจะไม่ป่วยหนัก ไม่มีใครตาย ไม่มีใครที่เกิดภาวะแทรกซ้อนมากมาย
“ชาวเซเชลส์ซึ่งชอบงานเลี้ยงอยู่แล้วไปสังสรรค์โดยไม่ระวัง ประชาชนปล่อยให้การ์ดตก “นายเรด กอนเด กล่าว
ฉีดซิโนฟาร์มของจีน-โควิชีลด์ของอินเดีย
เซเชลส์พึ่งพาวัคซีน ชิโนฟาร์ม ของจีน และโควิชีลด์ ของแอสตราเซเนกา อินเดีย ในจำนวนประชาชนที่ได้รับวัคซีนครบ แบ่งเป็นประชาชนร้อยละ 57 ที่ได้รับวัคซีนชิโนฟาร์ม ซึ่งฉีดให้ประชาชนอายุ 18-60 ปี ขณะที่ร้อยละ 43 ฉีดโควิชีลด์โดยฉีดให้ผู้ที่อายุเกิน 60 ปี
สถิติจากรัฐบาลเผยว่า ราวร้อยละ 20 ของผู้ที่รักษาที่โรงพยาบาลได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว แต่อาการไม่รุนแรง และแทบไม่มีผู้ที่ฉีดแล้วคนไหนที่ต้องรักษาในแผนกผู้ป่วยวิกฤต โดยมีเพียง 2 คนที่ฉีดวัคซีนแล้วแต่มีอาการวิกฤต จึงได้ผลสรุปว่าวัคซีนคุ้มครองประชาชน
สำหรับคนจำนวนหนึ่ง คนที่ฉีดแล้วแต่ยังป่วยโควิด-19 ดูเหมือนจะชี้ว่าวัคซีนไม่ได้ผล แต่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ผู้เชี่ยวชาญและองค์การอนามัยโลก หรือ WHO กล่าวว่าประสบการณ์ของเซเชลส์เป็นไปตามความคาดหมายโดยกว้างขวาง แม้ว่าทั้งสองวัคซีนได้รับการอนุมัติจากองค์การอนามัยโลก แต่ไม่มีวัคซีนยี่ห้อใดต้านโควิด-19 ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
ดร.ริชาร์ด มีฮีโก ผู้ประสานงานโครงการโรคที่วัคซีนป้องกันได้ จากองค์การอนามัยโลก สำนักงานภูมิภาคแอฟริกา กล่าวว่า ทีมงานกำลังทบทวนข้อมูล ประเมินความก้าวหน้าและทำความเข้าใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศเซเชลส์
ชีวิตหลังการฉีดวัคซีน
เซเชลส์เป็นเครื่องเตือนว่าหลังการฉีดวัคซีนเป็นวงกว้าง การติดเชื้อไม่มีแนวโน้มที่จะยุติไปเลย
นายเจรามี ลิม รองศาตราจารย์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์กล่าวว่า วัคซีนลดอาการรุนแรงจากการติดเชื้อ แม้ว่าอาจจะไม่ได้คุ้มครองสมบูรณ์
แต่น.ส.คาสซานดรา เบอร์รี่ อาจารย์ด้านภูมิคุ้มกันวิทยา มหาวิทยาลัยเมอร์ด็อก ในเมืองเพิร์ต ออสเตรเลียกล่าวว่า สถานการณ์ในเซเชลส์ไม่จำเป็นว่าจะเหมือนกันทั่วโลกและว่า อัตราการติดเชื้อของคนที่ฉีดวัคซีนแล้วจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย
รวมถึงชนิดของวัคซีนที่ได้รับและพันธุกรรมของประชากร ภูมิคุ้มกันหมู่จะเกิดขึ้นได้เร็วกว่าในหลายประเทศที่ใช้วัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า โดยยกตัวอย่างไฟเซอร์ ที่มีประสิทธิภาพต้านอาการรุนแรงได้กว่าร้อยละ 90
นายไมเคิล ซี.ลิน รองศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สหรัฐกล่าวว่า การได้รับวัคซีนชนิดใดก็ได้เป็นที่ต้องการมากขึ้นมากกว่าการยังคงไม่ได้รับการคุ้มครองและเสี่ยงต่อการเสียชีวิต หลายวัคซีนมีประสิทธิภาพอย่างมากในการป้องกันไม่ให้เสียชีวิต ข้อดีแน่นอนในการรับวัคซีนมีมากกว่าการที่จะรอให้สิ่งสมบูรณ์แบบเกิดขึ้น
น.ส. เจนนิเฟอร์ ฮวง โบวอย นักระบาดวิทยาที่สถาบันคลังสมอง RAND Corporation ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐกล่าวว่า ไม่ใช่ทุกประเทศที่มีทางเลือกฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพมากกว่า โดยเฉพาะวัคซีนที่ต้องควบคุมอุณหภูมิ
วัคซีนไม่ใช่ยาครอบจักรวาล
ศาสตราจารย์เบอร์รีกล่าวอีกว่า เซเชลส์ประสบความสำเร็จในการฉีดวัคซีนแต่มีข้อระวังว่าวัคซีนไม่ใช่ยาครอบจักรวาล ทำให้หลายประเทศต้องระวังเชื้อกลายพันธุ์ชนิดใหม่และการแพร่กระจาย
น.ส.โบวอย ผู้เชี่ยวระบุว่า บุคลากรในภาคสาธารณสุขพากันเห็นด้วยมากขึ้นว่าวัคซีนสำคัญสำหรับการบรรเทาโควิด-19 แต่วัคซีนจะไม่กำจัดการแพร่กระจายหริอการระบาดให้หมดไป
“โควิดจะไม่หายไปทันทีทันใด สิ่งที่เป็นไปได้ที่สุดในอนาคตคือโลกต้องอยู่ร่วมกับโควิด” รองศาตราจารย์ลิมกล่าว
จากเมื่อปีที่แล้ว เซเชลส์เห็นว่าภาคการท่องเที่ยวได้รับความเสียหายอย่างหนักจากโควิด-19 แต่เมื่อฉีดวัคซีนทำให้การติดโควิดแล้วอาการรุนแรงนั้นน่ากังวลน้อยลงแต่ที่น่ากังวลกว่าคือผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้น
ฉีดวัคซีนแล้ว60% ก็ยังต้องระวัง
รัฐมนตรีระบุว่า ปัจจุบันยังไม่มีผลกระทบ โดยนักท่องเที่ยววันละราว 500 คนมาเยือน เซเชลส์
“หากสถานการณ์แย่ลงจนถึงจุดที่นักท่องเที่ยวไม่มาเที่ยวเซเชลส์นั้นจะน่ากังวลอย่างมาก เซเชลส์ยังคงเปิดรับนักท่องเที่ยว เรายินดีต้อนรับทุกคน เราไม่มีเจตนาที่จะเปลี่ยนอย่างแน่นอน เซเชลส์ยอมรับมุมมองที่ว่าโควิดที่มีอาการเล็กน้อยเป็นราคาที่ยอมรับได้” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการท่องเที่ยวกล่าว
รองศาสตราจารย์ลิมจากมหาวิยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์กล่าวว่า แต่เซเชลส์จำเป็นต้องมีมาตรการมากกว่าการฉีดวัคซีน ที่รวมถึงการควบคุมพรมแดนอย่างเพียงพอ การตรวจหาโควิดอย่างกว้างขวาง และโรงพยาบาลที่มีศักยภาพในการจัดการกับการระบาด
ด้านรองศาสตราจารย์ลินจากม.สแตนฟอร์ดเห็นด้วย “คุณไม่สามาถขว้างคู่มือสาธารณสุขทิ้งทันทีที่คุณฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้ร้อยละ 60"