แจ้ง“ทรัมป์”ออกจากที่ประชุม G7 ก่อนเวลา

สำนักข่าว CNBC รายงานว่า ทำเนียบขาวแถลงว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ จะออกจากการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (จี7) ที่แคนาดาเร็วกว่ากำหนด 1 วัน เนื่องจากสถานการณ์ในตะวันออกกลาง

ทั้งนี้ กลุ่ม G7 พยายามสร้างความสามัคคีในการขัดแย้งในยูเครนและระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน โดยที่ทรัมป์แสดงการสนับสนุนประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน อย่างเปิดเผย และได้กำหนดภาษีศุลกากรกับพันธมิตรหลายประเทศที่อยู่ที่นั่น

ก่อนหน้านี้ทรัมป์เรียกร้องให้ทุกคนอพยพออกจากเตหะรานทันทีและย้ำว่าอิหร่านควรลงนามข้อตกลงนิวเคลียร์กับสหรัฐ แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวในรายการ X ว่า “เราบรรลุความสำเร็จได้มาก แต่เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง ประธานาธิบดีทรัมป์จะออกเดินทางในคืนนี้หลังรับประทานอาหารค่ำร่วมกับประมุขของรัฐ”

เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กล่าวว่าการออกของทรัมป์เป็นเรื่องดี เนื่องจากมีเป้าหมายที่จะหยุดยิงในตะวันออกกลาง

ขณะที่ชาติต่างๆ ในยุโรปต้องการโน้มน้าวทรัมป์ให้สนับสนุนการคว่ำบาตรมอสโกที่เข้มงวดยิ่งขึ้น เซเลนสกีกล่าวว่าเขาวางแผนที่จะหารือเรื่องการจัดซื้ออาวุธใหม่สำหรับยูเครนกับทรัมป์ เจ้าหน้าที่ยุโรปกล่าวว่าพวกเขาหวังที่จะใช้การประชุมในวันอังคารกับเซเลนสกีและมาร์ก รุตเต้ เลขาธิการ NATO และการประชุมสุดยอด NATO ในสัปดาห์หน้าเพื่อโน้มน้าวใจทรัมป์ให้แข็งกร้าวจุดยืนของเขามากขึ้น

สัญญาณบ่งชี้เบื้องต้นอีกประการหนึ่งที่บ่งชี้ว่ากลุ่มประชาธิปไตยขาดความสามัคคี เจ้าหน้าที่สหรัฐคนหนึ่งกล่าวว่า ทรัมป์จะไม่ลงนามในร่างแถลงการณ์เรียกร้องให้ลดระดับความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน

ด้านแคนาดาได้ล้มเลิกความพยายามใดๆ ที่จะนำแถลงการณ์ฉบับสมบูรณ์ออกมาใช้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยการประชุมสุดยอดที่เมืองควิเบกในปี 2018 ซึ่งทรัมป์ได้สั่งให้คณะผู้แทนสหรัฐฯ ถอนการอนุมัติแถลงการณ์ฉบับสุดท้ายหลังจากออกไปแล้ว