รีเซต

ญาติข้องใจ ผู้ต้องขังติดโควิด หายแล้วบอกติดซ้ำ กลับมารักษารพ.ถูกตัดขา 2 ข้าง ก่อนดับ

ญาติข้องใจ ผู้ต้องขังติดโควิด หายแล้วบอกติดซ้ำ กลับมารักษารพ.ถูกตัดขา 2 ข้าง ก่อนดับ
มติชน
22 มิถุนายน 2564 ( 23:30 )
83
ญาติข้องใจ ผู้ต้องขังติดโควิด หายแล้วบอกติดซ้ำ กลับมารักษารพ.ถูกตัดขา 2 ข้าง ก่อนดับ

 

ผู้ต้องขัง ติดเชื้อโควิด 19 ถูกนำส่งเข้าสถานพยาบาลเพื่อทำการรักษาจนหาย แต่หลังถูกนำตัวกลับคืนสู่เรือนจำได้เพียง 5 วันกลับพบติดเชื้อซ้ำ ก่อนถูกนำกลับมาทำการรักษาใหม่จนเสียชีวิตลงในที่สุด ท่ามกลางความงุนงงจากทางญาติ หลังทราบถูกตัดขาทิ้งทั้ง 2 ข้างก่อนตาย รพ.อ้างเหตุลิ่มเลือดอุดตันเจ้าตัวยินยอม แต่หลังการผ่าตัดได้เพียงไม่กี่ ชม. กลับสิ้นใจลง พร้อมยันเดิมผู้เสียชีวิตเป็นผู้มีสุขภาพที่แข็งแรง

 

 

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูล การเปิดเผยจากนางยุพา นาคโถม อายุ 67 ปี ชาว ต.โสธร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ว่า น้องชาย คือ นายประสาท (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี เดิมมีอาชีพเป็น รปภ. ได้ถูกต้องโทษคุมขังอยู่ภายในเรือนจำกลางฉะชิงเทรา

 

 

ต่อมาได้ทราบว่า นายประสาท ได้เป็นผู้ติดเชื้อโควิด 19 จากการแพร่ระบาดของโรค ที่กำลังลุกลามรุนแรงภายในเรือนจำกลางฉะเชิงเทรา และได้ถูกส่งตัวออกมาทำการรักษายัง รพ.ภายนอก ในโรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่งใน จ.ฉะเชิงเทรา โดยไม่ทราบแน่ชัดว่าถูกนำออกมาทำการรักษาในวันใด แต่ทราบภายหลังว่าถูกนำออกมาเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ที่ผ่านมาและญาติเพิ่งทราบข่าวในวันที่ 14 มิถุนายน และทราบอีกครั้งว่าในวันที่ 16 มิถุนายน ได้ถูกนำตัวกลับไปยังภายในเรือนจำเพื่อรับโทษต่อ หลังจากถูกทำการรักษาจนหายจากโรคแล้ว

 

 

 

 

แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน น้องชายได้ถูกนำตัวออกมาทำการรักษาใหม่อีกครั้ง โดยที่ญาติทราบเพียงว่าได้มีอาการติดเชื้อซ้ำ จึงได้ถูกนำออกมาทำการรักษาอีกรอบ จนมาทราบข่าวในเวลาต่อมาว่า น้องชายได้เสียชีวิตลงแล้วเมื่อช่วงเช้าวานนี้ 21 มิถุนายน ที่ผ่านมา และยังทราบว่าน้องชายยังถูกตัดขาออกทั้ง 2 ข้างระดับเหนือเข่าลงไป

 

 

โดยที่ญาติได้รับคำตอบจากทาง รพ.ว่า สาเหตุที่ต้องตัดขาทั้ง 2 ข้างทิ้งนั้น เนื่องมาจากขาทั้ง 2 ข้างมีภาวะลิ่มเลือดอุดตันเส้นเลือดใหญ่ จนเลือดไม่สามารถไหลเวียนไปเลี้ยงที่ปลายขาได้ จนทำให้ขามีอาการเขียวคล้ำ จนมีอาการปวดรุนแรง จึงจำเป็นต้องตัดขาทิ้งเพื่อรักษาชีวิตไว้ และทางผู้ป่วยเอง ยังได้เป็นผู้ที่เซ็นชื่อยินยอมให้ตัดขาด้วยตนเอง และหลังจากผ่านการผ่าตัดออกมาได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง น้องชายได้เสียชีวิตลงโดยที่ทางญาติไม่ทราบสาเหตุ

 

 

“ที่ผ่านมาไม่เคยได้รับคำชี้แจงใดๆ ถึงสาเหตุและอาการในการทำการรักษา มาตั้งแต่เริ่มมีอาการติดเชื้อจนมีการหนัก ต้องนำตัวออกมาทำการรักษายังภายนอกก็ยังไม่ทราบ กระทั่งมาเสียชีวิตลงก็ยังไม่ทราบอีก แต่ที่พอทราบข้อมูลมาบ้างแต่ยังไม่ชัดเจนมากนัก เนื่องจากมีคนรู้จักทำงานอยู่ภายใน รพ.แห่งดังกล่าว และทราบว่าหลังการผ่าตัดแล้วหัวใจมีอาการขาดเลือดหายใจไม่ออกแน่นหน้าอก จนทำให้เสียชีวิตลงในที่สุด”

 

 

“ทางญาติไม่ได้ต้องการที่จะเอาเรื่องอะไร แต่อยากได้รับข้อมูลรายละเอียดที่ชัดเจนถึงอาการ และวิธีการรักษา ตลอดรวมถึงสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตลงด้วย ทั้งจากทางเรือนจำกลางฉะเชิงเทรา และจากทางโรงพยาบาลที่ทำการรักษา เนื่องจากญาติยังไม่เคยได้รับทราบถึงรายละเอียดที่ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น จากทางฝ่ายของเจ้าหน้าที่บ้างเลย จนกระทั่งถูกนำศพออกมาเผายังที่วัดบางปรงธรรมโชติการาม ใน ต.บางพระ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อช่วงบ่ายวานนี้แล้ว”

 

 

“และแม้กระทั่งศพก็ยังไม่มีโอกาสได้รู้เห็นว่าถูกกระทำไว้อย่างไรบ้าง จนถูกเผาทิ้งไปโดยที่ทางญาติแทบไม่รู้อะไรเลย” นางยุพา พร้อมด้วยญาติๆ กล่าว

 

 

 

 

ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ยังคงมีการระบาดของโรคอย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลสายด่วนโควิด 19 จ.ฉะเชิงเทรา ที่มีการเผยแพร่รายงานผ่านมาทางสำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.ฉะเชิงเทรา นั้นระบุว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวน 28 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ยังรักษาตัวอยู่อีกจำนวน 1,499 ราย มีผู้ติดเชื้อจากการระบาดระลอกใหม่ทั้งหมด 4,384 ราย เสียชีวิตสะสมระลอกใหม่ 18 ราย

 

 

ขณะที่ข้อมูลด้านหน้า รพ.สนามเรือนจำกลางฉะเชิงเทรา มีการรายงานยอดจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นภายในเรือนจำในวันนี้ 14 ราย ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 2,554 ราย จากจำนวนผู้ต้องขัง 2,632 ราย หรือมีผู้ติดเชื้อคิดเป็นร้อยละ 97 ของผู้ต้องขังทั้งเรือนจำ โดยยังมีผู้ที่ไม่ติดเชื้อเหลืออยู่เพียง 150 รายเท่านั้น ส่วนข้อมูลการระบาดสะสมของโรคโควิด 19 ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ตั้งแต่การระบาดระลอกแรกรวม 3 ครั้งมีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 4,433 ราย เสียชีวิต 19 ราย

 

 

สำหรับข้อมูลผู้เสียชีวิตล่าสุดอีกรายนั้น เป็นชายวัย 48 ปี ชาว ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมืองฉะเชิงเทรา ถูกนำไปฌาปนกิจ ในวันเดียวกันเมื่อวานนี้เวลา 16.00 น. ยังที่เมรุวัดถวิลศิลามงคล ใน ต.ท่าไข่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ส่วนผู้เสียชีวิตเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาจำนวน 2 ราย เป็นผู้พิการติดเตียงชาว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ที่เสียชีวิตลงโดยที่ญาติไม่ทราบว่าป่วยด้วยโรคโควิด 19

 

 

จึงได้ประกอบพิธีตั้งสวดพระอภิธรรมศพขึ้นภายในบ้านพักเป็นเวลา 1 คืน ก่อนที่จะเร่งทำการเคลื่อนย้ายไปทำการฌาปนกิจในวันถัดมา เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.64 หลังผลการตรวจหลังการเสียชีวิตพบมีเชื้อโควิด 19 ส่วนอีกรายเป็นหญิงสูงวัย อายุ 78 ปี ชาว ต.วังตะเคียน อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.64 ถูกเร่งนำไปทำการฌาปนกิจศพ ยังที่วัดถวิลศิลามงคลในวันเดียวกันที่เสียชีวิต

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง