รีเซต

"มันเหมือนฆาตกรรม" เสียงจากชายไทย ผู้สูญเสียภรรยาและลูกสองคน ในวันที่กัมพูชาโจมตีใสพลเรือนไทย

"มันเหมือนฆาตกรรม" เสียงจากชายไทย ผู้สูญเสียภรรยาและลูกสองคน ในวันที่กัมพูชาโจมตีใสพลเรือนไทย
TNN ช่อง16
27 กรกฎาคม 2568 ( 10:29 )
16

สำหรับพ่อและสามีแล้ว การสูญเสียภรรยาและลูกสองคน จากการโจมตีของกองทัพกัมพูชา เมื่อ 24 กรกฎาคม มันเสมือนการฆาตกรรมดี ๆ นี่เอง

"ธรรมดาสงครามก็ต้องแค่เขตแดน แต่นี่มันเข้ามาถึงประชาชนที่อยู่ข้างใน มันไม่ใช่สงคราม มันเป็นการฆาตกรรมน่ะครับ" คมสันต์ ประชัน ผู้สูญเสียภรรยาและลูกสอง ในการโจมตีของกัมพูชา เมื่อ 24 ก.ค. 2568 กล่าว 

ภรรยาและลูกทั้งสอง ไม่เคยกลับมา

วันนั้น คมสัน มองว่าตนเองและครอบครัวอยู่ไกลพอจะปลอดภัย จึงเข้าเติมน้ำมันที่ปั๊ม เพื่อให้พอต่อการอพยพ 

เพียง 2 นาทีที่ภรรยาและลูกสองคน ลงไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อในปั๊ม เสียงระเบิดดังขึ้น ภรรยาและลูก ๆ ของเขา ไม่ได้กลับออกมาอีกเลย  

เสียงระเบิดนั้น คือ เครื่องยิงระเบิดหลายลำกล้อง BM-21 ที่ฝ่ายกัมพูชา ยิงเข้ามาใส่พลเรือนไทย และยิงไกลพอจะมาสังหารครอบครัวของคมสัน และพลเรือนคนอื่น ๆ เสียชีวิตรวม 7 คน ในพื้นที่นี้

"น้ำมันเหลือน้อย ช่วงนั้นพื้นที่สีแดงอพยพมาพอดี ต้องไปเติมน้ำมันก่อน เลยมาเข้าปั๊มเติมน้ำมัน" คมสันต์ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว Reuters

"แป๊บเดียว เมียลงไปนาทีสองนาที จากนั้นก็ได้ยินเสียงระเบิด แล้วก็ไม่เหลืออะไรเลย"

โศกนาฎกรรมสู่ถ้อยคำบนเวที UNSC

เรื่องราวความสูญเสียของคมสัน ถูกนำเป็นเรื่องราวที่ เชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ กล่าวต่อที่ประชุมแบบปิดของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ

เป็นหลักฐานถึงการโจมตีแบบไม่เลือกของฝ่ายกัมพูชา ที่ประชาคมโลกควรร่วมกันประณาม

"เมียก็เหมือนชีวิตหนึ่ง ไปไหนไปด้วยกัน เป็นคนเก่ง ญาติพี่น้องพึ่งพาได้ ใครไม่มีก็ให้ แล้วคนโตก็ใช้ทำนั่นนี่ ล้างจาน เป็นเด็กดีไม่เคยบ่น คนเล็กก็บอกอะไรก็โอเค ไม่ให้ไปไหนไปนั่น เป็นคนดี มันเป็นบุญของผมที่มีเขา" คมสันต์ เล่าด้วยเสียงปนความเศร้า

และสำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา เขาไม่ประสงค์ให้เกิดสงคราม

"การทำสงครามไม่ได้ทำให้ใครได้ดีได้อะไร สู้คุยกันดี ๆ ดีกว่า สงครามมีแต่ผลเสียเท่านั้น"

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง