UAC เสิร์ฟข่าวดี 2 เด้ง บุ๊กกำไรปันผล BBF-เปิดประเทศดันธุรกิจคึก
ทันหุ้น - UAC เผยข่าวดีโค้งสุดท้าย เด้งแรกจ่อบุ๊กกำไรจากบริษัทร่วมทุน “บางจาก ไบโอฟูเอล (BBF)” ไตรมาส 4/2564นี้ จำนวน 105.56 ล้านบาท ตามสัดส่วนการถือหุ้น 30 %หลังบอร์ด BBF เคาะจ่ายปันผลระหว่างกาลปี 2564 (ม.ค.-มิ.ย.64) ในอัตราหุ้นละ125 บาท เตรียมกำหนดจ่ายวันที่ 11 พ.ย.นี้ เด้งที่2 ชี้ความต้องการใช้ไบโอดีเซล ช่วงปลายปีเพิ่มสูงขึ้น รับอานิสงส์จากการเปิดประเทศในเดือน พ.ย.นี้ ส่งผลการขยายตัวของธุรกิจ E-commerce โต ทำให้ภาคการการขนส่งคึกคัก
นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UACเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด (BBF) มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลประจำปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 125 บาท โดยบริษัทถือหุ้น BBF ในสัดส่วนร้อยละ 30% คิดเป็นเงินปันผลที่ได้รับทั้งสิ้น จำนวน 105.56 ล้านบาท โดยมีกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้บริษัทในวันที่ 11 พ.ย. 2564 นี้ และคาดว่าUAC จะรับรู้กำไรจากเงินปันผลเข้ามาในไตรมาส 4/2564
สำหรับการเติบโตของ BBF จนสามารถสะท้อนออกมาในการจ่ายเงินปันผลนั้น มาจากการความต้องการใช้ไบโอดีเซล หรือที่เรียกว่า B100 เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงของกลุ่มรถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซลในภาคขนส่ง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และการขยายตัวของธุรกิจ E-commerce ที่มีการเติบโตสวนทางกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจอื่นๆ ในช่วงสถานการณ์โควิด
รวมถึงจำนวนรถเครื่องยนต์ดีเซลสะสม มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่มาตรการส่งเสริมจากภาครัฐเป็นปัจจัยขับเคลื่อนความต้องการใช้ไบโอดีเซลเพิ่มขึ้น และยังมีปัจจัยหนุนด้านปริมาณน้ำมันปาล์มในประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการขยายพื้นที่ปลูก รวมทั้งผู้ผลิตยานยนต์มีแนวโน้มพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซล เพื่อรองรับการใช้ไบโอดีเซลในสัดส่วนที่สูงขึ้น
ขณะเดียวกันในช่วงที่ผ่านมา ทาง BBF มีรายได้บางส่วน จากการทดลองจำหน่ายกลีเซอรีนบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากโครงการ Refined Glycerin Plant ซึ่งเป็นการนำกลีเซอรีนดิบ ไปผ่านกระบวนการกลั่นจนได้กลีเซอรีนบริสุทธิ์ที่มีมูลค่าสูงขึ้น เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้มากมาย อาทิ การผลิตสบู่ ยา และเครื่องสำอาง
อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯเชื่อว่าความต้องการใช้ ไบโอดีเซลจะเพิ่มมากขึ้น และยังได้อานิสงส์จากการเปิดประเทศในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยว ที่จะกระตุ้นให้เกิดการเดินทางการใช้รถเพิ่มขึ้น และที่สำคัญจะส่งผลบวกในภาคการผลิตในธุรกิจอื่นๆ ไปในตัวอีกด้วย