สรุปข่าวการเมือง 3 ก.ย.66 ข่าวดี! เงินดิจิทัลจ่ายงวดเดียวเลย 1 หมื่น


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย นายปานปรีย์ พิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมรับประทานอาหารเที่ยง ที่โรงแรมโรสวูด กรุงเทพ ถนนเพลินจิต กรุงเทพฯ กับพล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ว่าที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ว่าที่ผู้บัญชาการทหารบก และพล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ว่าที่ผู้บัญชาการทหารเรือ ส่วนพล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งจะเดินทางกลับในวันที่ 9 ก.ย.2566
ทั้งนี้ มีการเแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านความมั่นคงและรับทราบปัญหาต่างๆในการทำงานของกองทัพซึ่งบรรยากาศการพูดคุยเป็นไปอย่างชื่นมื่นและเป็นกันเอง การเริ่มรับประทานอาหารตั้งแต่เวลา 11.30-เวลา 13.00 น. โดยนายกฯ แนะนำตัวเอง นายปานปรีย์ และนายสุทิน ให้ ว่าที่ผบ.เหล่าทัพ แต่ละคนได้รู้จัก
อย่างไรก็ตาม การพูดคุยในวงรับประทานอาหารกลางวัน ยังไม่ได้ลงลึกรายละเอียดเรื่องการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของแต่ละเหล่าทัพ เพียงแต่เป็นการพูดคุยเรื่องนโยบายกรอบกว้างๆ นโยบายการทำงานเพื่อไทย ที่จะทำร่วมกับกองทัพเท่านั้น รวมทั้งแนะนำตัวและทำความรู้จัก กระชับความสัมพันธ์ พร้อมชี้แจงถึงการให้นายสุทิน นั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปอย่างชื่นมื่นและเป็นกันเอง ซึ่งเริ่มรับประทานอาหารตั้งแต่เวลา
11.30-เวลา 13.00 น.โดยนายกฯ แนะนำตัวเอง นายปานปรีย์ และนายสุทินให้ผู้นำเหล่าทัพแต่ละคนให้ได้รู้จัก อย่างไรก็ตาม การพูดคุยในวงรับประทานอาหารกลางวันยังไม่ได้ลงลึกรายละเอียดเรื่องการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ ของแต่ละเหล่าทัพเพียงแต่เป็นการพูดคุยเรื่องนโยบายกรอบกว้างๆ เรื่องนโยบายการทำงานเพื่อไทย ที่จะทำร่วมกับกองทัพเท่านั้น
อย่างไรก็ตามการนัดหมาย ครั้งไม่ได้มีการแจ้งต่อสื่อมวลชน เนื่องจากนายกรัฐมนตรี อยากจะทานข้าวกับว่าที่ผบ.เหล่าทัพ เป็นการส่วนตัว และพูดคุยอย่างเป็นกันเอง
สุทิน เผยสบายใจขึ้นหลังพูดคุยกองทัพ
นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางไปพร้อมกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อพูดคุยกับว่าที่ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ว่า กรณีไปพูดคุยถึงสถานการณ์ของประเทศ สอบถามปัญหาและแลกเปลี่ยนความต้องการของแต่ละฝ่าย ซึ่งทางฝ่ายการเมืองได้ระบุว่า อยากผลักดันนโยบายต่างๆ อาทิ การเปลี่ยนการเกณฑ์ทหารเป็นรูปแบบสมัครใจ การร่วมกันพัฒนากองทัพให้เป็นที่พึ่งของประชาชนมากยิ่งขึ้น รวมถึงสอบถามความต้องการของกองทัพว่า มีความต้องการอยากให้รัฐบาลสนับสนุนในเรื่องใดบ้าง รวมถึงมีความกังวลหรืออุปสรรคอะไรเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งทางกองทัพมีความเห็นไปทิศทางเดียวกับรัฐบาล ที่เขาเองก็ปรับปรุงองค์กรมาโดยตลอด ไม่ขัดข้องอะไร และยินดีปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล ส่วนจะทำได้ช้าหรือเร็ว ก็จะสะท้อนให้รัฐบาลทราบถึงข้อติดขัดให้รัฐบาลช่วย
เมื่อถามว่า สิ่งที่กล่าวมาจะเห็นผลเป็นรูปธรรมได้เมื่อไหร่ นายสุทิน กล่าวว่า จะเห็นผลเป็นรูปธรรมในทันที ยกตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนระบบการเกณฑ์ทหารเป็นรูปแบบสมัครใจ ในเดือนเมษายน 2567 ที่จะมีการเกณฑ์ทหารอีกครั้ง จะเห็นอัตราเกณฑ์ทหารที่ลดลงจากเดิมอย่างแน่นอน และจะค่อยๆ หมดไปจนเหลือเพียงการเข้ากองทัพแบบสมัครใจ รวมถึงการปรับลดขนาดกองทัพ ที่สังคมมองว่ากองทัพมีนายพลมากเกินไปนั้น เท่าที่คุยกับทางกองทัพ เขามีแผนปรับลดในส่วนนี้อยู่ ภายในปี 2570 หรือในรัฐบาลนี้ กองทัพจะกระชับลง นายพลจะหายไปจำนวนมาก ส่วนจะเป็นกี่เปอร์เซ็นต์นั้น กองทัพกำลังทำตัวเลขมาให้ดู และที่ผ่านมาเขามีแผนอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้ประชาสัมพันธ์ และเท่าที่ได้พูดคุยกัน เมื่อนายกฯ ได้ฟังความเห็นของกองทัพแล้วก็มีความสบายใจ
เมื่อถามว่า หนักใจหรือไม่กับการคุมกองทัพ นายสุทิน กล่าวว่า เดิมหนักใจ แต่เมื่อมาถึงตอนนี้สบายใจขึ้นมาก เพราะการทำงานกับคนมีวินัย เขาพูดง่าย และเท่าที่ได้พูดคุยกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดใหม่ๆ ถือเป็นจังหวะที่ดีของตนที่ได้เข้าไปพัฒนา ส่วนนโยบายที่จะเอาทหารออกมาเพิ่มบทบาท พัฒนาเป็นที่พึ่งประชาชน เขาก็ตอบรับว่าเป็นภารกิจของกองทัพอยู่แล้ว เพราะความยากจนเป็นภัยชนิดหนึ่ง กองทัพยินดีปฏิบัติ เช่น ใช้ทหารเข้ามามีส่วนร่วมแก้ภัยแล้ง เขาก็พร้อม การนำที่ดินของทหารที่ไม่ได้ใช้งานมาให้ประชาชนทำกิน หรือให้หน่วยงานอื่นไปใช้ประโยชน์ เช่น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พัฒนาพื้นที่เป็นแหล่งน้ำ เขาก็ยินดี แต่รัฐบาลต้องจัดการระเบียบปฏิบัติให้ รวมถึงเรื่องปราบยาเสพติด ทหารเขาเคยรับบทบาทนี้มาโดยตลอด เขาก็ยินดีสนองนโยบายรัฐบาล โดยทั่วไปถือว่าเป็นบรรยากาศที่ดี ทำให้มั่นใจว่า กองทัพจะมีบทบาทออกมาช่วยแก้ปัญหาประเทศร่วมกับรัฐบาล และจากการพูดคุย สิ่งที่ทั้งฝ่ายการเมืองและกองทัพเห็นตรงกัน คือ กองทัพต้องมีการยกเครื่องงานประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น เพราะที่ผ่านมากองทัพทำเรื่องที่เป็นประโยชน์จำนวนมาก แต่สังคมรับรู้อีกอย่าง ทำให้สังคมมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อกองทัพ
นายสุทิน กล่าวด้วยว่า หลังจากพูดคุยกับว่าที่ผู้บัญชาการเหล่าทัพแล้ว หลังจากนี้จะไปพบ พล.อ.อ.สุกําพล สุวรรณทัต อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึง พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร และกำลังประสานเข้าพบ พล.อ.วิชิต ยาทิพย์ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นอกจากนี้จะพบกับนักวิชาการด้านความมั่นคง อาทิ นายสุรชาติ บำรุงสุข นายปราโมทย์ นาครทรรพ เพื่อรับฟังความคิดเห็นแง่มุมต่างๆ ด้านความมั่นคงต่อไป
ชัดเจนจ่าย 10,000 บาทงวดเดียว
ช่วงค่ำวันนี้(3 กันยายน 2566) โซเชียลมีเดียพรรคเพื่อไทย โพสต์ชี้แจงประเด็นโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัล หลังมีรายงานว่า 1 ในทีมนโยบายของเพื่อไทย ออกมาให้ความเห็นว่า ดิจิทัลวอลเล็ต คาดทยอยโอน 2-3 งวด ไม่ใช่ทีเดียว โดยอาจจะแบ่งให้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ หรือ ก่อนเทศกาลสงกรานต์ และทยอยเข้าจนครบ 1หมื่นบาท
จากกระแสข่าวดังกล่าว พรรคเพื่อไทย ออกมายืนยันผ่านโซเชียลมีเดียของพรรคเพื่อไทย โดยยืนยันว่าจะจ่ายงวดเดียว 10,000 บาท เพื่อ สร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจ กระตุ้นทั้งการบริโภค และการลงทุนทั่วประเทศ